Nooknick Yanika
ใส่ Apple Watch ทุกวัน ควรติดฟิล์มกันรอยไหม? ติดแล้วจะมีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง ทีมงานมีคำตอบพร้อมคำแนะนำมาให้แล้ว!
Apple Watch ควรติดฟิล์มกันรอยหน้าจอไหม? ข้อดี-ข้อเสียคืออะไร? มาศึกษากัน
รู้หรือไม่ว่า Apple Watch มีหน้าปัด 2 แบบ คือแบบ Ion-X (เหมือนกระจกมือถือ แต่ไม่แข็งแรงเท่า) และ Sapphire Crystal (แข็งแรง ทนรอยขีดข่วน) ยกตัวอย่างเช่น Apple Watch SE และ Series 9 รุ่นอลูมิเนียมใช้ Ion-X ส่วน Apple Watch รุ่นวัสดุสแตนเลส รือเซรามิก ใช้ Sapphire Crystal ที่แข็งแรงกว่า ปกติแล้ว หน้าจอ Apple Watch ไม่ได้อ่อนแอ แตกง่ายขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราด้วย
ที่นี้ก็มาถึงคำถามที่ว่า เราควรติดฟิล์มกันรอยหน้าจอให้ Apple Watch ดีไหม? ต้องบอกว่า คนส่วนใหญ่ใส่ Apple Watch เพื่อออกกำลังกาย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง บางคนชอบกิจกรรม Adventure ทำให้หน้าปัดเสี่ยงเป็นรอยมากกว่าการใส่ Apple เป็นนาฬิกาเพื่อดูเวลาและอ่านการแจ้งเตือน
ค่าซ่อมจอ Apple Watch ค่อนข้างสูง (หากไม่มี Apple Care+)
สมมตว่าเราทำหน้าจอ Apple Watch แตก มาส่องดูค่าซ่อมจอ Apple Watch กันซักหน่อย โดยในเคสนี้จะตีเป็นความเสียหายอื่น ๆ เพราะเป็นอาการจอแตกจากอุบัติเหตุ ที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแบตเตอรี่ จะเห็นว่า Apple Watch Series 9 GPS อะลูมิเนียม มีค่าซ่อมอยู่ที่ 11,900 บาท (หากไม่มี Apple Care+)
จะเห็นได้ว่า ราคาค่าซ่อมสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาเครื่อง
ติดฟิล์มกันรอยดีไหม?
ฟิล์มกันรอยมีหลายแบบ ทั้งพลาสติก กระจกเทมเปอร์ หรือเคสที่มีฟิล์มในตัว จะติดฟิล์มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชอบ ถ้าเน้นความสวยงามแบบเดิม ไม่อยากให้ Apple ดูหนา และคุณไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสมบุกสสมบันมาก ไม่ต้องติดก็ได้
แต่ถ้าคุณใส่ใช้งานบ่อย ทำกิจกรรม Extream หรือเป็นสาย Adventure ชอบออกกำลังกายที่เสี่ยงเป็นรอย หรือเป็นคนซุ่มซ่าม ชอบทำของหล่น แนะนำให้ติดฟิล์มไว้ก็ดี
ข้อดีของการติดฟิล์มหน้าจอ Apple Watch
- ป้องกันรอยขีดข่วน: ฟิล์มกันรอยสามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานทั่วไป เช่น กุญแจ เหรียญ หรือของมีคมอื่น ๆ
- ป้องกันรอยนิ้วมือ: ฟิล์มกันรอยบางชนิดมีคุณสมบัติป้องกันรอยนิ้วมือ ทำให้หน้าจอใสสะอาดอยู่เสมอ
- ป้องกันรอยแตก: ฟิล์มกันรอยบางชนิด เช่น กระจกเทมเปอร์ สามารถช่วยป้องกันหน้าจอแตกจากการตกหล่น
- ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม: การเปลี่ยนหน้าจอ Apple Watch นั้นมีราคาแพง การติดฟิล์มกันรอยสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อหน้าจอแตก และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
- เพิ่มความรู้สึกสบายมือ: ฟิล์มกันรอยบางชนิดมีผิวสัมผัสที่นุ่มนวล ช่วยให้รู้สึกสบายมือเวลาใช้งาน
ข้อเสียของการติดฟิล์มหน้าจอ Apple Watch
- ลดความไวต่อการสัมผัส: ฟิล์มกันรอยบางชนิดอาจทำให้หน้าจอสัมผัสไว้น้อยลง ส่งผลต่อการใช้งาน
- เกิดฟองอากาศ: ฟิล์มกันรอยบางชนิดอาจเกิดฟองอากาศหลังจากติดตั้ง ทำให้หน้าจอดูไม่สวยงาม
- ลดความคมชัดของหน้าจอ: ฟิล์มกันรอยบางชนิดอาจทำให้หน้าจอดูไม่คมชัดเท่าเดิม และอาจทำให้จอไม่สว่างเท่าเดิม
- เพิ่มความหนา: ฟิล์มกันรอยบางชนิด เช่น กระจกเทมเปอร์ อาจทำให้หน้าจอดูหนา และทำให้ Apple Watch ของคุณดูเทอะทะมากขึ้น
- ราคา: ฟิล์มกันรอยบางชนิดมีราคาค่อนข้างสูง
ซื้อ AppleCare+ ด้วยดีไหม?
AppleCare+ ช่วยลดค่าซ่อมกรณีเครื่องเสียหายจากอุบัติเหตุได้ เช่น การซ่อมเปลี่ยนจอ คุณจะได้จ่ายเงินแค่หลัก 2,300-2,600 บาทเท่านั้น AppleCare+ ไม่ครอบคลุมรอยขีดข่วนนะ
- AppleCare+ สำหรับ Apple Watch, Apple Watch Nike และ Apple Watch Ultra จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเป็น 2 ปี นับจากวันที่คุณซื้อ AppleCare+3 และเพิ่มความคุ้มครองด้านความเสียหาย
จากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียม การให้บริการ ฿2,300 สำหรับ Apple Watch และ Apple Watch Nike และค่าธรรมเนียมการให้บริการ ฿2,600 สำหรับ Apple Watch Ultra2
ซื้อ AppleCare+ สำหรับ Apple Watch : https://www.apple.com/th/support/products/watch/
สรุป
การติดฟิล์มหน้าจอ Apple Watch นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความชอบส่วนตัว ผู้ใช้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนตัดสินใจ หากต้องการที่จะติดก็ให้เลือกฟิล์มกันรอยที่มีคุณภาพดี จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ติดตั้งฟิล์มกันรอยอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันฟองอากาศ และทดสอบการใช้งานหลังจากติดตั้งฟิล์มกันรอย เพื่อตรวจสอการสัมผัสของหน้าจอด้วยนะคะ
