All renew Designed of iOS7
เรียกว่าช็อควงการกันเลยทีเดียวสำหรับสาวก “แอปเปิ้ล” เมื่อแอปเปิ้ลทำการเปิดตัว ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ซึ่งใช้ชื่อว่า iOS7 ในวันที่ 12 มิถุนายน 2556 ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ได้มาถึง iOS 7 beta 6 และยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาเท่านั้นครับ
iOS7 เปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่ทั้งหมดและเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นเรื่องนี้ต้องขอบอกว่าสุดยอดจริงๆครับกับการ ดีไซน์ของแอปเปิ้ลในครั้งนี้ เนื่องจากได้ทำการรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่จำเป็นซึ่งทำให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการเปิด-ปิด การใช้งาน Wi-Fi, Song, Donot Disturb, Airplane Mode ซึ่งหากเป็นเวอร์ชั้น 6 ลงมา กว่าที่จะเข้าถึงฟีเจอร์พวกนี้ต้องเข้าไปที่ Setting ก่อน ซึ่งเป็นการเสียเวลามาก
แต่หากมองในมุมเครื่องที่ทำการ “Jailbroken” นั้นฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ได้มีการนำมาใช้ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว หนึ่งในเหตุผลที่แอปเปิ้ลออกมาดีไซน์ใหม่หมดให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นนั้นเป็นเพราะมีรายงานของเครื่องที่ได้ทำการ “เจลเบรก” เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งไม่เป็นผลดีนักสำหรับแอปเปิ้ลเองในเรื่องของยอดขายในส่วนของ แอปพลิเคลชั่นที่พูดอย่างนี้เพราะว่า แอปพลิเคชั่นใน Cydia มันเจ๋งจริงๆครับ
iOS 7 เราคาดการณ์ว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัพเกรดในช่วงเดือนกันยายนนี้ และน่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่แอปเปิ้ลเปิดตัว ไอโฟนตัวใหม่ ด้วยเช่นกันครับ
มาเริ่มในส่วนของ
Lock Screen
จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่า ทำภาพหน้าจอเคลื่อนไหว หรือ เป็นรูปคลื่นน้ำได้เหมือนแอนดรอยด์ แต่หากเจลเบรกสามารถใช้งานภาพพื้นหลังที่เป็นหน้าจอเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่า “Aquaboard-Water Effect ในราคา 2.99$”
วิธีการใช้งานยังคงเหมือนเดิมคือเป็นการ ลากนิ้วจากซ้ายไปขาวเพื่อเข้าใช้งานเช่นเคยครับ ตำแหน่งของกล้องก็ยังคงอยู่ที่เดิมเพียงแต่ อินเทอร์เฟสของ แบ็คกราวน์เปลี่ยนไปนั่นเอง
Home Screen
หลังจากที่เข้าสู่หน้า Home Screen ได้แล้ว หลายๆ ท่านจะเห็นถึงความแตกต่างจากระบบปฏิบัติการในเวอร์ชั่นเก่าอย่างมากทีเดียวอันดับแรกขอพูดถึงสีสันที่จัดจ้านของ interface ที่เรียกว่า Flat Design หรือถ้าแปลตรงๆก็หมายถึง เรียบๆ ไม่มีแสงเงา มีความโค้งนูน ซึ่งหลายๆ ท่านที่ได้สัมผัสก็จะรู้สึกได้ว่ามีความคล้ายๆ กับ Windows Phone 8 อยู่บ้างเหมือนกัน
Control Center
ถัดมาจะเป็นในส่วนของ Control Center คือ เมนูทางลัด หรือ Shortcut ที่ผมพูดถึงมีประโยชน์อย่างไรนั้น จากภาพก็จะเห็นได้ว่าเป็นการเข้าถึง function ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Blutetooth, Airplane, Volume, Torch, Alarm, Camera เป็นต้นครับ
วิธีการเรียกใช้งานตัว Control Center ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการ ลากนิ้วจากหน้าจอด้านล่างขึ้นข้างบนและสามารถทำได้ในขณะที่หน้าจอล็อกอยู่ด้วยครับ
Notification Center
ต่อมาเป็นในส่วนของ Notification Center ส่วนนี้ได้เพิ่มการแสดงข้อมูลให้มากยิ่งขึ้นคือ มีทั้งการรายงานสภาพอากาศ, อุณหภูมิ, การนัดหมาย, อีเมล, สายที่ไม่ได้รับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3ส่วนด้วยกัน คือ วันนี้, ทั้งหมด, ไม่ได้รับ
การเรียกใช้งานในส่วนี้คือการลากนิ้วจากหน้าจอบนลงล่างครับ ก็จะสามารถเรียก Feature นี้ให้แสดงได้ การแจ้งเตือนนั้นสามารถเข้าไปตั้งค่าในส่วนของ Settings ได้
Multitasking Tray
ส่วนต่อมาเรียกว่า Multitasking Tray ส่วนนี้เป็นการรายงานว่ามีแอพพลิเคชั่นใดทำงานอยู่บ้างและเลือกปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นเพียงใช้แค่การสบัดนิ้วขึ้นไปบนแอพพลิเคชั่นนั้นๆก็จะเป็นการปิดการทำงานของแอพพลิเคชั่นทันที
ในฝั่งของเจลเบรกก็สามารถทำได้เหมือนกันคือ Tweaks: Zephyr ซึ่งความแตกต่างก็คือมันเจ๋งกว่าตรงที่ หากต้องการปิดแอพพลิเคชั้นทั้งหมดในทีเดียวก็สามารถทำได้เพียงแค่ จิ้มค้างที่แอพใดแอพหนึ่งเท่านั้น twek ตัวนี้จะทำการปิดแอพพลิเคชั่นทั้งหมดในทันที หรือหากต้องการปิดเพียงแอพพลิเคชั่นเดียวก็สามารถทำได้เพียงแค่ใช้นิ้วแตะที่แอพพลิเคชั่นนั้นและสบัดนิ้วลงล่าง
Settings
จะเห็นได้ว่ามีการ Renew all Designed จริงๆ ครับในส่วนของพื้นหลังเป็นสีขาวดูสะอาดตาและเมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นใดๆ ก็ตามจะมีสีเขียวซึ่งในเวอร์ชั่นเดิมจะเป็นสีน้ำเงิน
หลังเปิด toggle จะเห็นเป็นสีเขียว
และส่วนที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของ แอปเปิ้ลอีกจุดหนึ่งซึ่งใหญ่มากพอสมควรคือ
ระบบ Activation Lock
ต้องขออธิบายก่อนว่าระบบ Activation Lock นี้เป็นระบบที่นอกจากจะติดตามตัวเครื่องที่ถูกขโมยแล้วยังสามารถทำการสั่งล็อกตัวเครื่องผ่านเว็บ www.icloud.com ได้ หรือทำการลบข้อมูลได้ด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้น หากอุปกรณ์แอปเปิ้ลของเราได้ทำการ Signin Apple ID ไว้หากเครื่องหายหรือถูกขโมยไปคนที่ขโมยไปนั้นจะได้ไปเพียงแค่ตัวเครื่องเท่านั้น แต่จะไม่สามารถใช้งานตัวเครื่องได้เลยเพราะเครื่องจะจดจำ Apple ID ของเจ้าของเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ต้องขอบอกว่า ระบบนี้บน iOS7 เจ๋งมากๆครับ ขโมยไปแต่ใช้งานไม่ได้ แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียครับ หากผู้ใช้ลืมรหัสผ่านแอปเปิ้ลไอดี แล้วทำการ Update/Restore ตัวเครื่อง ก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย น่ากลัวใช่ไหมหละครับ เพราะฉะนั้นควรเก็บรหัสผ่านไว้แยกจากตัวเครื่องครับ
สำหรับฝั่งเจลเบรก็เจ๋งไม่แพ้กันกับ Tweaks : iCoughtu Pro (เสียเงินครับ)ความสามารถของมันคือการใช้กล้องหน้าถ่ายรูปขโมยหรือคนที่ต้องการจะเดารหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งานตัวเครื่องของเรานั่นเองครับ โดยมีเงื่อนไขว่าขโมยนั้นต้องทำการลองใส่รหัสแล้วผิดกล้องหน้าจะทำการถ่ายรูปทันทีและส่งเมสเสจบอกเบอร์ที่ตั้งไว้รวมถึงส่งอีเมลบอกเจ้าของเครื่องโดยมีรายละเอียดดังนี้ เจ๋งใช่มั้ยคร๊าบ อย่างน้อยก็มีหลักฐานแจ้งความครับ
Message
สำหรับฟังก์ชั่นต่อมาคือ
Message สามารถส่งเมสเสจหาอุปกรณ์ของแอปเปิ้ลได้ทุกอย่างและที่สำคัญคือ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนอกจากค่าอินเทอร์เน็ตเท่านั้น สังเกตุง่ายๆคือสีถ้าเป็นสีฟ้าจะเป็นการส่งจาก iMessage ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย หากเป็นสีเขียวคือการส่งผ่านเครือข่ายสัญญาณนั้นๆ
Photos
ต่อมาเป็นในส่วนของ Photos จากเมื่อก่อนที่ไอคอนเป็นรูป ดอกทานตะวัน แต่ครั้งนี้ได้เปลี่ยนหน้าเป็นคล้ายๆรูปดอกไม้หลากหลายสีซึ่งเมื่อเข้ามาดูด้านในแล้วพบว่า จะมีรูปภาพเรียงๆกันเท่านั้น แต่
ในส่วนของ iOS 7 ได้เพิ่มรายละเอียดมากขึ้นด้วยการบอกสถานที่ที่ถ่ายภาพและวันที่ถ่ายภาพเข้ามา และยังสามารถมองได้อีกหลายมุมมองคือ มองเป็นว่า ใน1ปีเราถ่ายรูปอะไรมาบ้าง หรือคลิกเข้าไปดูรายละเอียดปลีกย่อยด้านในได้ ส่วนเมนูด้านล่างยังคงเป็น 2 เมนูหลักๆสำหรับคนที่ไม่เปิด PhotoStream หากเปิดฟังก์ชั่น PhototStream ก็จะมีเมนู แชร์ เพิ่มเข้ามาเป็น 3 เมนู
และทีสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ มีแอพพลิเคชั่น Photo Booth ซึ่งมีเฉพาะบน Mac OSX เท่านั้นก็ได้ถูก พอร์ต เข้ามาใส่ใน iOS 7 ด้วยเช่นกัน
Camera
มีการปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่หมดครับ เริ่มจากการเลือกลักษณะการถ่ายภาพว่า จะเป็นภาพนิ่ง, คลิปวิดีโอ, Square หรือการถ่ายภาพขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส และ PANO การถ่ายภาพ Panorama เลือกได้โดยการเลื่อนไปมา ปุ่มชัตเตอร์ เปลี่ยนเป็นวงกลมสีขาว ส่วนมุมขวาล่าง เป็นการใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพครับด้านบน เป็นการเปิด-ปิด ไฟแฟลช และสลับมาใช้กล้องด้านหน้า ส่วนโหมด HDR เปิดหรือปิดใช้งาน ให้คลิ๊กไปที่คำว่า HDR ได้โดยตรง
Maps
ก็ยังคงไม่ค่อยรองรับในเมืองไทยนักแต่ก็พอใช้งานได้ครับ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงการพัฒนาในฝังของทวีปอเมริการมากกว่าครับแต่ก็ถือว่า User Interface สวยงามขึ้นมากครับ
มาดูลูกเล่นในฝั่งเจลเบรกบ้างครับ Tweaks: Dashboard for maps ความสามารถของเจ้าตัวนี้คือการบอก ความเร็วได้ทั้งแบบเข็มและแบบตัวเลข, ทิศทาง ระดับความสูง
ส่วนสำคัญก็จะมีอยู่เท่านี้ครับสรุปแล้วควรอัพหรือไม่ เป็นเพียงความเห็นของแอดมินเท่านั้นครับ แตกต่างเหมือนกัน ^ ^
คำตอบ
– สำหรับ บุคคลทั่วไป ควรอัพอย่างยิ่งครับเพราะ iOS ตัวใหม่นั้นนอกจจากจะปรับฟีเจอร์ใหม่ๆให้บุคคลทั่วไปนั้นได้ใช้งานง่ายมากขึ้นแล้วยังรองรับเกมส์ต่างๆด้วยครับ
– สำหรับ Jailbreaker นั้นง่ายๆ เลยครับ ยังไม่ต้องอัพครับเพราะฟีเจอร์ต่างๆ นั้นเราใช้งานกันมานานแสนนานแล้วครับ และอีกอย่างอัพไปก็ยังไม่สามารถเจลได้ ณ ขณะนี้ ควรรอตัวเจลเบรกก่อนค่อยอัพครับ แต่ว่า การอัพเดทนั้นต่อให้มีเวอร์ชั่นที่เจลเบรกออกมา Tweaks ต่างๆก็ยังคงรองรับถึงแค่ 6.1.2 เท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นถึงท่านอัพไปและเจลได้แล้วแต่ยังคงไม่สามารถใช้ Tweaks ส่วนใหญ่ได้ต้องรอ Dev พัฒนาให้รองรับ เวอร์ชั่นที่ท่านใช้งานด้วยครับและ
สิ่งที่สำคัญกว่าการเจลเบรกคือการรักษาเจลเบรกและใช้งาน Tweaks ต่างๆ ให้เหมาะสมต่างหากครับ
ขอให้ท่านมีความสุขกับการใช้งาน Smart Phone แบบ คุ้มค่าเงินครับ ^^
ชื่นชอบสามารถกด LIKE หรือถ้าบทความนี้ใช่ก็กด LOVE กันได้นะครับ 😀
กันยาคม คือ กันยายน หรือตุลาคม หรือ ธันวาคม อะคะ ?
18 กันยายนนี้ครับ
ยังนี้ผมก่อไม่ต้องอัพเวอร์ชั่น iOS 7 ดิ่ 'ผมเป่นขาเจลเบรคอยู่เเล้ว