Nooknick Yanika
ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ไปรษณีย์ไทยนำเสนอแนวคิดใหม่ ใช้เลขหกหลักแทนการจ่าหน้าซองแบบเดิม ผู้ส่งและผู้รับไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
ไปรษณีย์ไทยเตรียมใช้ “เลขหกหลัก” แทนการจ่าหน้าซอง เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย
ในโอกาสครบรอบ 141 ปี ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) บริษัทได้ประกาศแผนการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เข้ากับยุคดิจิทัล โดยมีการนำเสนอแนวคิดใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ: “เลขหกหลัก” แทนการจ่าหน้าซอง
ปณท เตรียมเปิดตัวระบบใหม่ที่เรียกว่า D/ID ซึ่งผู้ใช้งานสามารถขอรับรหัส “เลขหกหลัก” ที่จะใช้แทนการจ่าหน้าซองแบบดั้งเดิม การใช้รหัสนี้จะทำให้การส่งจดหมายและพัสดุสะดวกขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อและที่อยู่ของผู้รับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ระบบนี้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
ปณท กับบทบาทใหม่ในฐานะ “Information Logistics”
นอกจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการจ่าหน้าซองแล้ว ปณท ยังมุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำด้าน “Information Logistics” ซึ่งหมายถึงการจัดส่งและบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล เช่น:
• Prompt Post: บริการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร
• Digital Postbox: การจัดเก็บเอกสารสำคัญแบบดิจิทัลที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ
• Postman Cloud: บริการข้อมูลและสำรวจที่ใช้เครือข่ายบุรุษไปรษณีย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
การพัฒนาด้านความยั่งยืน (ESG)
ปณท ได้เน้นการดำเนินงานตามหลักการ ESG+E (Environment, Social, Governance, Economy) ซึ่งครอบคลุมถึง:
- ด้านสิ่งแวดล้อม: ปณท ตั้งเป้าหมายที่จะลดการปลดปล่อยคาร์บอนและใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในการดำเนินงานไปรษณีย์ทั้งหมดภายในปี 2583
- ด้านสังคม: โครงการ “ไปรษณีย์เชื่อมสุข” ที่มุ่งสร้างงานและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและ SMEs
- ด้านการกำกับดูแล: ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและโปร่งใส โดยการเปิดระบบ CRM เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ
การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ในองค์กรทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงถึง 18% และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 400 ตัน/ปี ส่งผลให้เกิดการจ้างงานมูลค่ากว่า 740 ล้านบาท/ต่อปี
การเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมที่ไปรษณีย์ไทยจะนำมาใช้ ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ
