AIS โชว์ศักยภาพการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารที่มีความครอบคลุมมากสุดในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 5G และ 4G
AIS เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ หนุนเศรษฐกิจ รับเทศกาลท่องเที่ยวหน้าหนาว
AIS โชว์ศักยภาพการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารที่มีความครอบคลุมมากสุดในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 5G และ 4G สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานที่ท้าทายของทีมวิศวกรในด้านภูมิศาสตร์ ข้อจำกัดด้านพลังงาน และภัยธรรมชาติ
AIS ใช้นวัตกรรมโครงข่ายและความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงข่ายมาตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในพื้นที่ภาคเหนือทุกกลุ่ม ทั้ง ผู้บริโภคทั่วไป คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางพร้อมทำงานได้ทุกที่ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม หรือ Digital Nomad กลุ่มชาติพันธุ์ ชนเผ่าพื้นเมือง แรงงานต่างชาติ และภาคธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในพื้นที่สูงหรือพื้นที่ห่างไกล
AIS ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่ เดินหน้าผสานพลังร่วมกับทุกภาคส่วนนำศักยภาพด้านโครงข่ายอัจฉริยะปูพรมทุกพื้นที่ยืนยันความพร้อมต้อนรับช่วงพีคการท่องเที่ยวของภาคเหนือในช่วงฤดูหนาว
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS กล่าวว่า “สำหรับพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างมีความท้าทายอย่างมากในการวางแผนและออกแบบโครงข่ายให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ด้วยพื้นที่สูง ทิวเขา หรือดอยต่าง ๆ ที่มีความสลับซับซ้อน ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ และแหล่งพลังงาน
ทำให้ทีมวิศวกรต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างมากในการทำงาน ประกอบการใช้พลังงานธรรมชาติอย่างโซลาร์เซล กังหันลม และไฮโดรเจน และผสมผสานระบบการกระจายสัญญาณและไมโครเวฟ ด้วย Super Cell LINK ที่จะเป็นการขยายระยะการส่งสัญญาณเพื่อเชื่อมโยงจากจุดต่อจุด ทั้งจากพื้นที่ราบและพื้นที่หลังทิวเขามาสู่พื้นที่ร่องเขาด้านล่าง เพื่อยกระดับ Digital Inclusion ในพื้นที่ห่างไกลหรือในมุมอับสัญญาณที่อาจจะถูกบดบังจากภูเขาและพื้นที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นการบริหารจัดการคุณภาพโครงข่ายสัญญาณของภาคเหนือจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของ AIS ที่พวกเราทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อให้คนไทยในพื้นที่ภาคเหนือทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีความแข็งแรง อันจะนำไปสู่การสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือได้ในทุกมิติ”
นายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค–ภาคเหนือ AIS กล่าว่า “วันนี้ความพร้อมโครงข่ายสื่อสารของ AIS ภาคเหนือมีความพร้อมมากกว่าการเป็นระบบสื่อสาร ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม ผู้บริโภคทั่วไป กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางและทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม หรือ Digital Nomad กลุ่มชาติพันธ์ ชนเผ่าพื้นเมือง แรงงานต่างชาติ และภาคธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในพื้นที่สูงหรือพื้นที่ห่างไกล
ซึ่งมีความครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อาทิ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา, อุทยานแห่งชาติแม่ปิง, ห้วยกุ๊บกั๊บ, ทุ่งเกี๊ยะ, บ้านป่าข้าวหลาม, และดอยม่อนล้าน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้มีความสะดวกสบาย พร้อมส่งต่อคอนเทนต์ผ่านโลกออนไลน์ได้แบบไร้ขีดจำกัด
นอกจากนี้เรายังมุ่งสร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้คนไทย ด้วยการเดินหน้าขยายโครงข่ายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับผู้คน และสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน อาทิ การขยายเครือข่ายสัญญาณและอินเทอร์เน็ตโรงเรียน ตชด. ในพื้นที่ห่างไกล
การนำ AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการเครือข่ายในช่วงวิกฤติน้ำท่วมที่ผ่านมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเครือข่ายสื่อสารจะสามารถใช้งานได้ และส่งต่อความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที, สนับสนุนโครงข่ายดิจิทัลเพื่อระบบโทรมาตรอัตโนมัติ, การทำงานร่วมกับ GULF และ สวพส. ในโครงการ Green Energy Green Network For Thais พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโครงข่ายดิจิทัลในพื้นที่ห่างไกล
AIS เชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งลึกสุด สูงสุด กว้างสุด และไกลที่สุดในไทยและที่ 1 ตัวจริงในภาคเหนือ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว นำไปสู่การสร้างรายได้ สร้างเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวหน้าหนาวได้อย่างแน่นอน”