คนเดินทางควรมี! สามารถนำ AirTag ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางเพื่อใช้ติดตามตำแหน่งในกรณีสัมภาระสูญหาย และส่งลิงก์ให้เจ้าหน้าที่สายการบินได้
แชร์โลเคชัน AirTag ช่วยติดตามสัมภาระสูญหายได้ง่ายขึ้น อัปเกรดเป็น iOS 18.2 เพื่อใช้งาน
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การเดินทางด้วยเครื่องบินก็ไม่เว้นที่จะพัฒนาตามไปด้วย Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Share Item Location” บน iOS 18.2 เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามสัมภาระสูญหายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อนำ AirTag ใส่ในกระเป๋าเดินทาง พร้อมทั้งร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
ฟีเจอร์ Share Item Location ในแอป Find My ติดตามสัมภาระได้แบบเรียลไทม์
ผู้เดินทางที่มี AirTag ในกระเป๋าเดินทาง สามารถสร้างลิงก์เพื่อแชร์ตำแหน่งสัมภาระกับทีมบริการลูกค้าของสายการบินได้โดยตรงผ่านแอป Find My
รายละเอียดของฟีเจอร์ Share Item Location
- รองรับบน iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS 15.2
- หากสัมภาระไม่มาถึงจุดหมาย ผู้โดยสารสามารถรายงานปัญหาและแชร์ลิงก์ตำแหน่งสัมภาระให้กับสายการบิน
- ทีมงานสามารถดูตำแหน่งสัมภาระบนแผนที่แบบเรียลไทม์ พร้อมข้อมูลเวลาอัปเดตล่าสุด
- การแชร์ตำแหน่งจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อสัมภาระกลับถึงมือผู้โดยสาร หรือสามารถยกเลิกได้ด้วยตัวเอง
- ลิงก์แชร์ตำแหน่งจะหมดอายุภายใน 7 วัน
ความสำคัญของการติดตามสัมภาระด้วยเทคโนโลยี
การใช้ AirTag กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ปัญหาของสายการบิน Southwest Airlines ในปี 2022 ที่ทำให้ผู้โดยสารและสัมภาระสูญหายจำนวนมาก ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การติดตามสัมภาระที่สูญหายเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้ผู้เดินทางและลดความกังวลเกี่ยวกับสัมภาระที่อาจสูญหาย
ในตอนนี้สายการบิน United Airlines มีให้บริการแล้ว และฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวในสายการบินอื่น ๆ เช่น Delta Air Lines, British Airways, Lufthansa, Singapore Airlines และอื่น ๆ ในอนาคต
ที่มา – ABC News