in

Trello พื้นฐานการใช้งาน ช่วยจัดการงาน สำหรับคน Work from Home

Trello ตัวช่วยสำคัญของการทำงานในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการทำงานแบบ Work form Home ที่ต้องมีตัวกลางเพื่อใช้ติดตามงานของหลายฝ่าย วันนี้เรามาสอนวิธีใช้งานแบบคร่าว ๆ

สอนใช้ Trello พื้นฐาน ตัวช่วยจัดการงาน สำหรับคน Work from Home

ในยุคที่การทำงานแบบ Work from Home (WFH) กลายเป็นเรื่องปกติ การจัดการงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบจึงสำคัญมาก หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยให้การทำงานเป็นทีมและการจัดการงานส่วนตัวง่ายขึ้นคือ Trello เครื่องมือจัดการโปรเจกต์ที่ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับทุกคน ตั้งแต่มือใหม่จนถึงมือโปร

Trello คืออะไร?

Trello เป็นเครื่องมือจัดการงานแบบออนไลน์ที่ใช้ระบบ Kanban Board ซึ่งช่วยให้คุณจัดระเบียบงานผ่านการ์ด (Card) และกระดาน (Board) เพื่อดูภาพรวมของงานทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะใช้จัดการงานส่วนตัว ทีมเล็ก หรือโปรเจกต์ใหญ่ก็ทำได้หมด

เริ่มต้นใช้งาน Trello

1. สมัครบัญชี Trello 

  • เข้าไปที่ Trello.com แล้วสมัครใช้งานด้วยอีเมลหรือบัญชี Google ก็ได้

2. สร้างกระดาน (Board)

  • เมื่อเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว ให้คลิกปุ่ม “Create” ที่อยู่ด้านบน

  • ตั้งชื่อกระดาน เช่น “งานประจำวัน” หรือ “โปรเจกต์ลูกค้า” อย่าลืมเลือกพื้นหลังให้ถูกจริตด้วยนะ
  • ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว โดยเลือกได้ว่าจะเป็นแบบ Private (ส่วนตัว) , Workplace (สำหรับใช้ในทีม) หรือแบบ Public (ไม่แนะนำ เพราะคนอื่นสามารถเข้ามาดูได้)

3. เพิ่มรายการ (List)

  • เพิ่มรายการ โดยคลิกที่ปุ่ม “Add another list” เพื่อสร้างลิสต์แยกประประเภทกัน เช่น To Do (สิ่งที่ต้องทำ), Doing (กำลังทำ), และ Done (เสร็จแล้ว) โดยสามอย่างนี้เป็นพื้นฐานการใช้งาน Trello ที่ทุกคนควรรู้ หรือคุณจะเปลี่ยนชื่อรายการเป็นอย่างอื่นก็ได้ การแบ่งรายการแบบนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของงานได้ง่าย

4. เพิ่มการ์ด (Card)

  • คลิกที่ปุ่ม “+ Add a card” เพื่อเพิ่มงานในแต่ละรายการ
  • ตั้งชื่อการ์ด เช่น “คิดคอนเทนต์” หรือ “ประชุมกับทีม”

  • สามารถเพิ่มคำอธิบาย, วันครบกำหนด (Due Date) หรือแนบไฟล์เพิ่มเติมได้

  • หากต้องมอบหมายงานให้คนในทีมก็สามารถเพิ่มผู้รับผิดชอบในแต่ละการ์ดเข้ามาได้

5. เพิ่มสมาชิก (Members)

สามารถเพิ่มเพื่อนร่วมทีมเข้ามาในการ์ด เพื่อกำหนดหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน โดยกดที่ปุ่ม “Members” ที่แถบด้านซ้าย หรือกดปุ่ม “Share” มุมบนขวา

พิมพ์ชื่อหรือที่อยู่อีเมลของสมาชิกที่ต้องการเพิ่มลงไป แค่นี้ก็ชวนคนอื่นมาทำงานในบอร์ดเดียวกันได้เลย!

6. ลากการ์ดไปยังตำแหน่งอื่นเพื่อเปลี่ยนสถานะ

งานไหนที่เสร็จแล้ว สามารถลากการ์ดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง และลากข้าม list ได้ เพื่อบอกให้คนอื่นหรือตัวเองรู้ว่า งานนี้ที่คุณกำลังทำอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว เช่น กำลังทำ หรือทำเสร็จแล้ว

Trello ใช้ฟรี แต่มีข้อจำกัด

Trello มีทั้งแผนใช้งานฟรี และ แผนแบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแผนฟรีเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปหรือทีมเล็กที่ต้องการจัดการงานอย่างง่าย ๆ ส่วนแผนเสียเงินเหมาะกับองค์กรหรือผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงเพิ่มเติม

1. Free Plan (ฟรี)

เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปหรือทีมขนาดเล็ก

  • สร้างกระดาน (Board) ได้ไม่จำกัด
  • การ์ด (Card) และรายการ (List) ไม่จำกัด
  • สมาชิกในทีมได้ไม่จำกัด
  • ใช้ Power-Ups ได้ 1 ตัวต่อกระดาน (เช่น ปฏิทิน, Google Drive, หรือ Slack)
  • พื้นที่เก็บไฟล์: สูงสุด 10 MB ต่อไฟล์

2. Standard Plan (เริ่มต้นที่ $5 ต่อเดือน/ผู้ใช้)

เหมาะสำหรับทีมที่ต้องการฟีเจอร์การทำงานร่วมกันเพิ่มเติม

  • Power-Ups ได้ไม่จำกัด
  • มุมมองเพิ่มเติม เช่น ตาราง (Table View)
  • พื้นที่เก็บไฟล์: สูงสุด 250 MB ต่อไฟล์
  • การจัดการสมาชิกและสิทธิ์การเข้าถึง

3. Premium Plan (เริ่มต้นที่ $10 ต่อเดือน/ผู้ใช้)

เหมาะสำหรับทีมที่ต้องการการทำงานแบบมืออาชีพ

  • มุมมองหลากหลาย เช่น ปฏิทิน (Calendar), ไทม์ไลน์ (Timeline), และแดชบอร์ด (Dashboard)
  • การจัดการโปรเจกต์ที่ซับซ้อน
  • ฟีเจอร์ Workspace ก้าวหน้า เช่น การกรองข้อมูล

4. Enterprise Plan (ราคาขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร)

เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความปลอดภัยและการจัดการขั้นสูง

  • การควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้
  • การผสานรวมขั้นสูง

ใครที่ทำงานแบบ Work from Home อย่ารอช้า ลองใช้งาน Trello กันได้เลย รับรองว่าจะทำให้คุณจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอนค่ะ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University