OpenAI ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า ” Deep Research ” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการค้นคว้าวิจัยแบบหลายขั้นตอนบนอินเทอร์เน็ตสำหรับงานที่ซับซ้อน
OpenAI เปิดตัว Deep Research เครื่องมือ AI ใหม่ ช่วยค้นหาข้อมูลสำหรับงานวิจัยเชิงลึก
OpenAI ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า ” Deep Research ” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการค้นคว้าวิจัยแบบหลายขั้นตอนบนอินเทอร์เน็ตสำหรับงานที่ซับซ้อน เครื่องมือนี้ทำงานบนพื้นฐานของโมเดล o3 รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับการท่องเว็บและวิเคราะห์ข้อมูล
เมื่อผู้ใช้ป้อนคำสั่ง ChatGPT จะทำการสืบค้น วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือไฟล์ PDF เพื่อจัดทำรายงานที่ละเอียดครบถ้วนในระดับนักวิเคราะห์วิจัย ผลการทดสอบด้วย Humanity’s Last Exam ที่เป็นคำถามเชิงลึกทางวิชาการ ทำคะแนนได้สูงถึง 25.3% เทียบกับ o1 ที่ 9% และ o3 ที่ 10%
OpenAI บอกว่า Deep Research เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเฉพาะด้าน เช่น การเงิน วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม กฎหมาย ซึ่งวิธีการค้นหาข้อมูลเชิงลึกเดิมนั้นใช้เวลามาก เพราะต้องยืนยันความน่าเชื่อถือข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอน นอกจากนี้ Deep Research ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการค้นหาเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าที่มีรายละเอียดเปรียบเทียบเยอะ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
ในการเรียกใช้งานให้เลือกปุ่ม Deep Research ที่กล่องแชท คำถามจะถูกคิดและให้คำตอบด้วยวิธีการเชิงลึกมากขึ้น มีตัวอย่างเปรียบเทียบด้านล่างคือการวิเคราะห์โอกาสตลาดแอป iOS ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งหากถาม GPT-4o จะได้คำตอบที่เร็วกว่า เป็นแบบกว้างและไม่ลงรายละเอียดนัก แต่ถ้าใช้ Deep Research คำตอบจะมาพร้อมตาราง ตัวเลข ระบุแหล่งอ้างอิง พร้อมข้อสรุป ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าในการให้คำตอบ OpenAI บอกว่าอาจนานถึง 5-30 นาที
ChatGPT Deep Research เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วผ่านเว็บไซต์สำหรับลูกค้า ChatGPT Pro โดยจำกัดที่ 100 คิวรีต่อเดือน ส่วนลูกค้า Plus และ Team จะได้ใช้งานเป็นลำดับถัดไป จากนั้นจึงเป็นกลุ่ม Enterprise ChatGPT เวอร์ชันเว็บตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และจะทยอยให้บริการบนแอปมือถือและเดสก์ท็อปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ทั้งนี้ Deep Research นับเป็นเครื่องมือ AI ตัวที่สองที่ OpenAI เปิดตัวในปีนี้ ถัดจาก ” Operator ” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายการงานที่ต้องทำ หรือช่วยวางแผนท่องเที่ยว
ที่มา – theverge.com