in

iPhone ในสหรัฐฯ​ อาจแพงสุดที่ 2,300 ดอลลาร์ หลัง Trump ประกาศนโยบายขึ้นภาษีนำเข้า

นักวิเคราะห์คาด iPhone ในสหรัฐฯ​ อาจแพงสุดที่ 2,300 ดอลลาร์ แพงขึ้น 43% หลัง Trump ประกาศนโยบายขึ้นกำแพงภาษีนำเข้า

iPhone ในสหรัฐฯ​ อาจแพงสุดที่ 2,300 ดอลลาร์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว, Trump ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศกลุ่ม Supply Chain อย่างเช่นจีน ที่ถูกขึ้นกำแพงภาษีสูงมาก โดยรายงานเผยว่ารวม ๆ แล้ว สินค้าที่นำเข้าจากจีนมาสหรัฐฯ จะต้องถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 54% ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Apple เป็นอย่างมาก เพราะสินค้าตัวหลักอย่าง iPhone ส่วนใหญ่ก็นำเข้าจากจีนมาขายในสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์จาก Rosenblatt Securities คาดการณ์ว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคา iPhone ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น 43% และจากข้อมูลก็คาดการณ์ได้ว่า iPhone 16 Pro Max ความจุ 1TB ตัว Top อาจราคาสูงถึง 2,300 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถูกตั้งราคาไว้ 1,599 ดอลลาร์ หาก Apple เลือกผลักภาระภาษีไปยังลูกค้า

ด้าน iPhone 16e ตัวเริ่มต้นนั้น หากคาดการณ์จากราคาเพิ่มขึ้น 43% ก็เป็นไปได้ว่า iPhone 16e จะมีราคาเริ่มต้นที่ 850 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์

ส่วน iPhone 16 Pro ความจุ 256GB อาจราคาเริ่มต้นเกิน 1,400 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เริ่มต้น 999 ดอลลาร์

ด้าน Counterpoint Research รายงานข้อมูลตัวเลขว่า จากนโยบายดังกล่าว, Apple อาจต้องขึ้นราคา iPhone อย่างน้อย 30% เพื่อชดเชยด้านภาษี

Apple ยังไม่ได้เคลื่อนไหวในเรื่องนี้แต่อย่างใด และยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการขึ้นราคา iPhone เพื่อชดเชยภาษีที่เพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่ หรืออาจจะหาวิธีอื่น ๆ มาแก้ไข เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ และยังไม่มีข้อมูลว่าหาก Apple เลือกที่จะปรับขึ้นราคา iPhone จะมีผลต่อ iPhone 16 ทันที หรือ iPhone 17 รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวปลายปี 2025 นี้

นับตั้งแต่ Trump ประกาศนโยบายขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ, หุ้น Apple ร่วงลงไปเกือบ 15% แล้ว ส่วนบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ก็เจอผลกระทบเช่นกัน

ที่มา: MacRumors

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Thitirath Kinaret

เต้นท์ iMoD : ป.ตรี วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ป.โท บริหารธุรกิจ ม.พายัพ ชอบความสวยงามแบบเรียบง่าย ตามแบบฉบับของ Apple @Contact : facebook.com/tentzy