Thitirath Kinaret
Mark Gurman รายงานข้อมูล เผยแผนที่ Apple จะใช้เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าของ Trump ที่ Apple ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ
สิ่งที่ Apple ควรทำ เพื่อใช้ “บรรเทาผลกระทบ” การขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าของ Trump
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Trump ได้ประกาศขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากกลุ่มประเทศ Supply Chain เช่น จีน ซึ่ง Apple ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เนื่องจากสินค้าหลักของ Apple อย่าง iPhone และอื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วล้วนนำเข้ามาจากจีนทั้งนั้น
ในตลาดสหรัฐฯ นั้น Apple ไม่ได้ขึ้นราคา iPhone รุ่น High-end มาตั้งแต่ iPhone X ปี 2017 โดย Apple ยึดราคา 999 ดอลลาร์มาตลอด และ Apple เองก็ต้องการตรึงราคานี้ต่อไป โดยในสหรัฐฯ นั้น ราคา iPhone แทบไม่เปลี่ยนเลยในช่วงทศวรรรษที่ผ่านมานี้
แต่หลังจากการที่ Trump ประกาศนโยบายขึ้นกำแพงภาษีก็ทำให้ Apple ได้รับผลกระทบนี้ โดย Apple เจอภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง 54%, อินเดีย 26%, เวียดนาม 46% และอื่น ๆ อีก จึงทำให้ Apple อาจไม่สามารถตรึงราคาเดิมไว้ได้หากมาตรการภาษีนี้บังคับใช้ (9 เม.ย. 2025)
มีรายงานว่าเวียดนาม และอินเดีย ได้เดินหน้าเจรจากทางการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางออก แต่ไม่มีจีนอยู่ในรายชื่อ เพราะจีนนั้นเป็นประเทศ Supply Chain ใหญ่ของ Apple หากไม่มีการเจรจา ก็อาจทำให้ Apple จำเป็นต้องหาแนวทางเพื่อบรรเทาผลกระทบในประเด็นนี้
Gurman ได้เสนอไอเดียสิ่งที่ Apple ควรทำ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากนโยบายของ Trump ไว้ ดังนี้
- กดดันให้ผู้ผลิต และผู้ผลิตชิ้นส่วน ตั้งราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ Apple เองสามารถลดต้นทุนการผลิตได้
- แบกรับต้นทุนบางส่วน ปรับกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 45%
- กระจาย Supply Chain ไปยังประเทศอื่นมากขึ้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตในสหรัฐฯ
รายงานเผยว่า Apple ได้เตรียม Stock สินค้าเพื่อรับมือการขึ้นภาษีนำเข้านี้ โดยนำเข้าสินค้ามาไว้จำนวนมาก ๆ ก่อน เพื่อให้ Apple สามารถขายสินค้าในราคาเดิมไปได้อย่างน้อยสักระยะหนึ่ง
Gurman เผยว่า Appel ไม่ได้กลัวที่จะขึ้นราคาสินค้า แต่จะหาทุกวิถีทางในการบรรเทาผลกระทบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะต่อสู้ทุกทางเพื่อหาข้อยกเว้น แบบเดียวกันกับที่ Apple เคยทำได้ตอนที่ Trump ดำรงตำแหน่งสมัยแรก
ที่มา: 9to5Mac
