เดิงทางมาถึงกลางสัปดาห์กันแล้วขอแนะนำอุปกรณ์เสริมกันอีกหน่อยดูหลายๆ ตัวจะได้เป็นทางเลือกในการซื้อหา อ่านไว้เป็นข้อมูลอ่านเยอะรู้เยอะ ดูเยอะได้เปลี่ยน เอาวันนี้ขอนำสาย Lightning อีกแล้วมาให้ชม จุดเด่นของมันคือ…?
จุดเด่นของสาย Lighting จาก LAB.C เท่าที่เห็นได้ชัดคือ
- การอออกแบบมีให้เลือก 3 สี คือ เงิน, ทองและเทาดำ ตามสีของ iPhone
- ความยาว 1.2 เมตร
- มาตารฐาน MFI รองรับการใช้งานกับ iOS รวมถึง iOS 8 ล่าสุด(ชาร์จแล้วไม่ฟ้องสายปลอม)
- ความยืดหยุ่นของตัวสายทนต่อการบิด งอ พับ ที่ดูแล้วทนทานกว่าสายแท้
- รองรับการชาร์จเร็ว
ไปชมกันเลยครับ
ตัวกล่องก็อยู่ด้านบนเลยนะ 3 สีให้เลือก พอหันหลังกล่องก็จะเจอสายของแท้ LAB.C อยู่ข้างใน
แกะออกมาจากกล่องให้ชม ซ้ายไปขาว สีทอง สีเงินและสีเทาสเปซเกร
ดูกันใกล้ๆ งานเนียนดี
หัว USB เป็นแบบปกติไม่ใช่ Reversible USB นะ
ตัวอย่างของสีทอง
ตัวอย่างสายสีเงิน
เปรียบเทียบกับสายทั้ง 3 และตัวสายแท้ของ Apple (เส้นขวามือสุดเป็น 30 pin)
เทียบความยาวของ LAB.C (1.2 เมตร) กับสายมาตรฐาน (1.0 เมตร)
จุดเด่นก็เรื่องความยืดหยุ่นที่สายนั้นงอได้และไม่แตกหัก
ตัวอย่างการใช้งานก็ใช้พื้นฐานได้ปกติเลยทั้งชาร์จและซิงก์ข้อมูล รองรับกับอุปกรณ์ iPhone, iPad, iPad touch ทุกรุ่นที่มีพอร์ต lightning ได้แก่
- iPhone 5, 5c, 5s, 6, 6 Plus
- iPad 4, iPad mini 1, mini 2, iPad Air
- iPod touch 5 gen
- iPod nano 7 gen
จุดด้อยที่เห็นคือ หัว lightning นั้นจะค่อนข้างใหญ่พบว่าเสียบไม่เข้ากับเคสบางตัว ฉะนั้นอาจจะต้องถอดเคสออกก่อนถึงใส่เข้าไปได้
สรุปสาย Lightning จาก LAB.C ดีในส่วนสายยาว มีสีให้เลือกเหมาะกับ iPhone 5s, 6, 6 Plus, สายยืดหยุ่นไม่แตกหักง่าย สายยาวกว่ามาตรฐานและหายห่วงปัญหาสายปลอม
ข้อด้อยอย่างที่บอกไปคือหัวใหญ่ เสียบอาจจะไม่เข้ากับเคสบางตัวและราคาที่แอบสูงหน่อยที่ 890 บาทเมื่อเทียบกับสายมาตรฐานอยู่ที่ 690 บาท ทั้งนี้ส่วนต่างที่เพิ่มมา 200 ก็จะได้ความสวยงาม สายยาวและทนทานกว่า ลองชั่งน้ำหนักกันดูเอานะ
หาซื้อได้ที่ Casecrazy
มีขายตามร้าน iStudio ไหมครับ
ไม่มีครับผม สั่งที่ line attapon.tom ได้เลยครับ 🙂