สำหรับคนที่ชื่นชอบบริการสตรีมเพลงแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกบริการของอะไรดี ตอนนี้มีสองบริการยักษ์ใหญ่ที่กำลังขึ้นเป็นที่เปรียบเทียบอยู่ระหว่าง Apple Music และ Spotify ซึ่งเชื่อว่าผู้ฟังที่ชื่นชอบเพลงอินเตอร์มากกว่าเพลงไทยก็คงจะเล็งสองบริการนี้อยู่ วันนี้ผมจะพาไปดูความแตกต่างของ Apple Music และ Spotify เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเพิ่มครับ
ปล. เพลงไทยบน Spotify ว่ามีน้อยแล้ว Apple Music มีน้อยกว่าครับ (ไม่มีสองค่ายใหญ่ GMM และ RS) คาดว่ากำลังรอเจรจาอยู่ครับ
1. Beats 1 เจ๋งกว่าเยอะ
ผู้เขียนจาก Business Insider เว็บสื่อชื่อดังของอเมริการะบุว่า Apple จ้างแต่ดีเจชื่อดังมาออกรายการทั้งนั้น ช่วงแรกที่ฟัง Beats 1 ยังรู้สึกว่ายังห่างไกลจากคำว่าเพอร์เฟกต์ แต่เมื่อฟังไปร่วมชั่วโมงก็พบว่ามันเป็นช่องวิทยุที่น่าประทับใจจริงๆ และนี่น่าจะเป็นแกนหลักของ Apple Music
Beats 1 ไม่ใช่ช่องรายการวิทยุที่จะเล่นเพลงแบบสุ่มเหมือน Spotify หรือ Pandora แต่เป็นรายการสดที่ถ่ายทอดจาดีเจตัวจริง
2. Apple ค้นพบเพลงได้ดีกว่า Spotify มาก
ตอนเข้าบริการ Apple Music ครั้งแรกคุณจะพบว่า Apple จะให้คุณเลือกประเภทของเพลงที่คุณชื่ชอบ ตลอดจนศิลปินทั้งหลายตามหมวดหมู่ของเพลง
สิ่งที่น่าสนใจคือ เพลย์ลิสต์ของ Apple นั้นน้อยกว่าของ Spotify อยู่เยอะมาก ตัวอย่าง บางเพลย์ลิสต์จอง Apple Music นั้นอยู่เพียง 10-20 เพลง แต่ Spotify มีเพลงมากถึง 100 เพลงซึ่งมันกว้างเกินไป มองอีกแง่หนึ่งคือ Apple พิถีพิถันในการเลือกเพลงมากกว่า Spotify ครับ
3. Spotify เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการใช้งานบนเดสก์ท็อป
เชื่อว่าหลายๆ คนที่เริ่มใช้ Apple Music บน iTunes ครั้งแรกจะเกิดอาการ “งง!” ใช่ไหมครับ ผมก็เช่นกัน (บน iPhone ก็ด้วย) บางการกระทำแบบปกติเราก็ไม่สามารถทำได้ เช่น การกดที่ศิลปินหรืออัลบัมขณะกำลังเล่นเพลงอยู่
Business Insider ระบุว่า หาก Apple นำ Beats 1 หรือ Apple Music แยกออกจาก iTunes แล้วทำเป็นแอพใหม่อีกหนึ่งรายการน่าจะง่ายต่อการจัดการมากกว่า แต่จริงๆ แล้ว iTunes 12.2 น่าจะยังไม่พร้อม แต่คงมีการปรับดีไซน์หม่อีกเรื่อยๆ ครับ
4. รู้ว่าอยากฟังอะไร หรือยังไม่รู้?
Business Insider ระบุว่า Apple Music เหมาะกับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากฟังอะไร อย่างเช่นในการปาร์ตี้ที่ไม่ต้องเลือกเพลงอะไรมาก ให้ Apple Music เลือกให้เลยจากเพลย์ลิสต์ที่มีเพลงในลักษณะเดียวกัน แต่ Spotify จะแตกต่างออกไป มันเหมาะสำหรับคนที่มีเป้าหมายในการฟังเพลงอยู่แล้ว
จุดที่แตกต่างในแง่ของเพลงสากลคือ Apple Music มีอัลบัมใหม่ของ Taylor Swift ซึ่ง Spotify ไม่มี ดังนั้น หากไม่ใช่คนที่คลั่ง Taylor Swift มากๆ ก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องย้ายจาก Spotify (แบบเสียเงิน) มาฝั่ง Apple Music แทน
แต่สำหรับบ้านเรา ที่ผู้คนฟังเพลงหลากหลาย เช่น เพลงไทย ญี่ปุ่น เกาหลี เท่าที่ผู้เขียนลองดูพบว่า Spotify มีเพลงสากลเพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลีมากกว่า ส่วนใครที่เป็นคอเพลงไทยแนะนำ KKbox จะดีกว่าครับ
สรุป
Business Insider ได้ทำตารางสรุปให้ดูง่ายๆ เอาไว้ดังนี้ครับ
โดยส่วนตัวผู้เขียน จริงๆ จะเอาคำสรุปมาจากข้างบนมาเลยก็ได้ แน่นอนว่าเราเลือกบริการสตรีมเพลงเพื่อฟังเพลงที่เราชื่นชอบเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกไว้ว่า “ผู้คนฟังเพลงหลากหลาย เช่น เพลงไทย ญี่ปุ่น เกาหลี เท่าที่ผู้เขียนลองดูพบว่า Spotify มีเพลงสากลเพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลีมากกว่า ส่วนใครที่เป็นคอเพลงไทยแนะนำ KKbox จะดีกว่าครับ” สำหรับผมตอนนี้เลือกฟังทั้ง Apple Music และ KKbox ครับ
Apple Music ได้เปรียบในแง่ที่เพลงฝรั่ง เพลงเกาหลี เพลงญี่ปุ่ม พอมีบ้าง และสามารถใช้งานในบ้านเราได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และใช้ฟรีสามเดือนแรก ส่วนเพลงไทย ทั้ง Apple Music และ Spotify มีน้อยมาก ผมจึงเลือก KKbox มาเป็นตัวช่วยแทน
ระหว่างสามเดือนนี้ก็ต้องรอดูว่า Apple จะเจรจากับ GMM และ RS ได้หรือไม่ครับ
ที่มา Business Insider