Attapon Thaphaengphan
Image: iFixit.comเจอมาเยอะมากหลายคนชอบบ่นว่า “iPhone ไม่เคยพัฒนาเรื่องแบตเตอรีเลย” ผมเลยนำข้อมูลของแบตเตอรี iPhone แต่ละรุ่นมาให้ชมกันว่าตั้งแค่รุ่นแรกคือ iPhone 2G จนถึงล่าสุดตอนนี้ iPhone 6s, 6s Plus ความจุของแบตเตอรีเป็นเท่าไหร่กันบ้าง
สเปกความจุแบตเตอรี่ iPhone ทุกรุ่น ความจุกี่มิลลิแอมป์ mAh กันบ้าง?
จากกราฟด้านบนขอเขียนข้อมูลให้ได้อ่านกันอีกรอบสำหรับความจุแบตเตอรีภายในของ iPhone แต่ละรุ่น
- iPhone 1st (2007) – 5.18 Wh (1,400 mAh/3.7V)
- iPhone 3G (2008) – 4.25 Wh (1,150 mAh/3.7V)
- iPhone 3GS (2009) – 4.51 Wh (1,219 mAh/3.7V)
- iPhone 4 (2010) – 5.25 Wh (1,420 mAh/3.7V)
- iPhone 4S (2011) – 5.3 Wh (1,430 mAh/3.7V)
- iPhone 5 (2012) – 5.45 Wh (1,440 mAh/3.8V)
- iPhone 5C (2013)– 5.73 Wh (1,510 mAh/3.8V)
- iPhone 5S (2013) – 5.92 Wh (1,560 mAh/3.8V)
- iPhone 6 (2014) – 6.91 Wh (1,810 mAh/3.82V)
- iPhone 6 Plus (2014) – 11.1 Wh (2,915vmAh/3.82V)
- iPhone 6S (2015) – 6.55 Wh (1,715 mAh/3.82V)
- iPhone 6S Plus (2015) – 10.45 Wh (2,750 mAh/3.80V)
- iPhone SE (2016) – 6.21 Wh (1,624 mAh/3.82V)
- iPhone 7 (2016) – 7.45 Wh (1,960 mAh/3.80V)
- iPhone 7 Plus (2016) – 11.10 Wh (2,900. mAh/3.82V)
- iPhone 8 (2017) – 6.97 Wh (1,821 mAh/3.8V)
- iPhone 8 Plus (2017) – 10.28 Wh (2,691 mAh/3.80V)
- iPhone X (2017) – 10.35 Wh (2,716 mAh/3.81V)
- iPhone XS (2018) – 10.13 Wh (2,658 mAh /3.81V)
- iPhone XS Max (2018) – 12.08 Wh (3,174 mAh / 3.80V)
- iPhone XR (2018) – 11.16 Wh (2,949 mAh/3.79V)
- iPhone 11 (2019) – 11.91Wh (3,110 mAh/3.83V)
- iPhone 11 Pro (2019) – 11.67Wh (3,046 mAh/3.83V)
- iPhone 11 Pro Max (2019) – 15.04Wh (3,989 mAh/3.79V)
- iPhone SE (2020) – 6.96 Wh (1,821 mAh/3.8V)
จะเห็นได้ว่า Apple นั้นพยายามใช้ความจุของแบตเตอรีให้น้อยที่สุดเพื่อให้ชาร์จเต็มไวแต่ว่าสามารถใช้งานได้ตามเวลาที่วางแผนไว้คือ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นแบตเตอรีจึงไม่เยอะไปมากกว่านี้
ส่วนตั้งแต่ iPhone 6 เป็นต้นมานั้นจำนวนแบตเตอรีเพิ่มขึ้นมากก็เพราะว่าหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเป็นอีกสาเหตุหลักในการบริโภคพลังงาน ดังนั้น Apple จึงต้องเพิ่มจำนวนขึ้นเพื่อให้ได้เวลาการใช้งานที่เท่าเดิม
แต่ใน iPhone 6s ทาง Apple ได้ลดจำนวนแบตลงเพราะว่าได้เปลี่ยนแปลงระบบภายในแบต, ระบบฮาร์ดแวร์ชิปประมวลผลใหม่ที่กินไฟน้อยลงและปรับทางด้านซอฟต์แวร์ภายในบางส่วนทำให้ iPhone นั้นกินไฟน้อยลงส่งผลให้แม้ลดแบตเตอรีลงแต่ยังสามารถใช้งานได้เท่าเดิมนั่นเอง
เรื่องอนาคตนั้นไม่รู้ว่าเทคโนโลยีแบตจะพัฒนาได้มากน้อยขนาดไหนเอาเป็นว่ารอติดตามชมกันเองก็แล้วกัน
ที่มา iFixit Teardown
อัปเดตล่าสุด 8 กรกฎาคม 2020
