Galaxy S7 เปิดตัวในไทย และทั่วโลกกันไปแล้ว สำหรับคู่แข่งอันดับ 1 ของ Apple และถึงแม้ว่า iPhone 7 จะยังไม่เปิดตัว แต่ก็สัมผัสได้เลยถึงความเป็นเรือธงจาก Samsung ที่ปล่อยทุกหมัดมาอย่างไม่มีกั๊ก และเชื่อว่านี่จะเป็นสมาร์ทโฟนตัว TOP ของบริษัทฯ อย่างน้อยก็ในครึ่งปี 2559 (หรือจนกว่า Note 6 จะเปิดตัว)
7 สิ่งที่ Galaxy S7 ทำได้เหนือกว่า iPhone
หากยอมรับในด้านข้อเท็จจริงที่ว่า iOS เองก็ไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่าง ในขณะที่ Android ก็ใช่ว่าจะเก่งไปทุกเรื่อง (สองระบบปฏิบัติการนี้แนวคิดต่างกันตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน) แต่สำหรับผู้ใช้งานซึ่งไม่ได้มีญาติอยู่ทั้งสองบริษัท หรือถือหุ้นอยู่ในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องเถียงกันให้เหนื่อยแต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เพียงแค่ว่า “คุณชอบอันไหนมากกว่ากัน” แล้วก็ตัดสินใจเลือกซื้อมัน
แต่ข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้จะเป็น 7 สิ่งที่ Galaxy S7 ทำได้เหนือกว่า iPhone (อย่างน้อยก็ในตอนนี้ หรือจนกว่า iPhone 7 จะเปิดตัว) และจะมีอะไรบ้างเราไปดูกัน
#1 Hybrid SIM
Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge จะเป็นสมาร์ทโฟนตัว TOP จากซัมซุงรุ่นแรกในไทยที่ขายแบบรองรับสองซิมในรูปแบบ Hybrid SIM (เลือกว่าจะใส่ซิมหรือเมม) และหลายประเทศในเอเชียรวมถึงจีน สมาร์ทโฟนที่รองรับ Dual-SIM ต่างได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ซึ่งอันที่จริงอย่างมาเลเซีย S6, Note 5 ก็รองรับสองซิม เพียงแต่บริษัทแม่เลือกที่จะไม่ขายในบ้านเรา
#2 Always-On display
จากข้อมูลของบทความเก่า เปรียบเทียบ iPhone 6s กับ Galaxy S7 อะไรดีกว่า จะทราบได้ทันทีว่าจุดแข็งของ iPhone 6s ก็คือ 3D Touch ในขณะที่คู่แข่งก็มีจุดเด่นมาสู้อย่าง Always-On ที่ทำให้สามารถดูเวลาหรือการแจ้งเตือนได้ตลอดเวลา (ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มเพาเวอร์) โดยมันแทบจะไม่กินแบตเตอรี่เลยด้วยซ้ำ แถมยังฉลาดพอที่จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติหากอยู่ในกระเป๋า
#3 Expandable storage
จุดแข็งของ Samsung มาโดยตลอดซึ่งวันดีคืนดีก็ถูกเอาออกใน S6 (ซะงั้น) และถูกวิจารณ์หนักโดยผู้ใช้งาน ตอนนี้จึงกลับมารองรับ microSD อีกครั้งใน S7 สูงสุดถึง 200 GB กลบจุดอ่อนที่ตัวเครื่องจะมีความจุเพียง 32 GB (ในไทยขายโมเดลนี้รุ่นเดียว) แต่น่าเศร้าที่มันไม่สามารถใช้ลง App หรือรวมกับความจุเครื่องตามคุณสมบัติของ Android 6.0 ได้เนื่องจากผู้ผลิต ได้ปิดฟีเจอร์ส่วนนี้ไว้ด้วยเหตุผลบางประการ
#4 Waterproof
ความสามารถเด่นที่เคยอยู่ใน S5 แต่ทางซัมซุงเอาออกไป (อีกแล้ว) โดยครั้งนี้มาเทพกว่าเดิมด้วย IP68 แถมไม่ต้องปิดจุกอะไรให้วุ่นวาย และถึงแม้ว่าข่าวลือจะระบุว่า Apple อาจเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความสามารถกันน้ำ แต่ในตอนนี้ยังไงก็คงต้องปล่อยให้เขานำไปก่อนล่ะนะ!
#5 VR
ตามที่พ่อหนุ่มรูปหล่อด้านบนใช้งาน (ผมเอง) สิ่งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของใหม่และมีมาตั้งแต่ Note 5 แต่สำหรับ S7 ก็ยังมาพร้อมกับชุด VR (ซื้อแยก) เพื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริง และดูเหมือนว่า Facebook ผู้เป็นบริษัทเจ้าของ Oculus ผู้พัฒนา VR ใน Gear VR กำลังหนุนหลังอยู่ด้วย
#6 Wireless fast charging
ระบบชาร์จไร้สายที่หลายคนแสนจะเอือมระอา (ผมด้วย) เนื่องจากมันทั้งร้อนและทั้งช้า ในรอบนี้มาใหม่ S7 รองรับระบบชาร์จไร้สายแบบเร็ว Fast Wireless Charging ซึ่งถึงแม้ว่าจะช้ากว่าชาร์จแบบมีสายอยู่ดี แต่ทางบริษัทคุยว่ามันต่างกันเพียงแค่ 10-15 นาที เท่านั้น! ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่คงต้องติดตามผลรีวิวกันต่อไป
#7 Fast charging
และถึงแม้ว่า S7 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 3,000 mAh (iPhone 6s Plus แบตเตอรี่ 2,750 mAh) การชาร์จด้วยความเร็วปกติเป็นอุปสรรคอย่างแน่นอน สำหรับการชาร์จแบบ Fast Charging จะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ส่วนถ้าเป็น iPhone 6s Plus อาจต้องใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมง
สรุป
สุดท้ายแล้วใครจะเลือกใช้อะไรก็คงเป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคน ซึ่งอันที่จริงมันก็มีองค์ประกอบหลายสิ่งเข้าด้วยกัน (คงไม่มีใครดูแค่นี้แล้วซื้อหรอกจริงมั้ย?) แต่ที่นำมาเสนอเพียงเพราะต้องการให้ข้อมูลทั้งสองด้าน ทั้งในฝั่งของสาวกเองแล้วก็คู่แข่ง เชื่อว่าหลายคนก็คงกำลังรอลุ้นกับการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่อย่างใจจดใจจ่ออยู่เช่นกัน
ถ้าไม่ใช่ไอโฟน ยังไงก็ไม่ใช่ไอโฟน
ถ้าไม่ใช่ไอโฟน ยังไงก็ไม่ใช่ไอโฟน 55555 ตบท้ายได้ดีงามมาก