เมื่อปี 2012 ผมเคยเขียน บทความพิเศษ – Apple ID สาธารณะ ดาบ 2 คมที่ควรระวัง ให้อ่านกันไปแล้วแต่คาดว่าหลายคนคงยังไม่ได้อ่านเพราะมันนานมากๆ แล้ว วันนี้อดใจไม่ได้ที่จะเขียนถึงมันอีกครั้งเพราะดู Timeline ใน Facebook แล้วเจอเยอะซะเหลือเกินพวกที่หากินกับ Apple ID กลาง เนี่ย รู้ทั้งรู้ว่าผิดและมีความเสี่ยงแต่ก็ยังเลือกที่จะทำหวังเพื่อเงินเข้าตัวเองเท่านั้น ส่วนคนที่จะซวยก็คือ “พวกที่เอา ID กลางไปใช้โดยไม่รู้ว่ามันมีผลกระทบ” นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง
เข้าประเด็นเลยแล้วกันนะครับ บังเอิญว่าไปเจอโพสที่ประกาศขายแอปในตระกูล AnalogFilm ซึ่งเป็นแอปแต่งโทนสีของภาพถ่ายให้ออกมาในรูปแบบที่แตกต่างและให้อารมณ์ตามเมืองที่สำคัญๆ เช่น Paris, Tokyo ฯลฯ โดนหากเราเลือกรูปถ่ายแล้วใส้ Filter เข้าไปภาพก็ได้มาก็จะให้อารมณ์ของเมืองนั้นๆ ด้วยการใช้งานที่ง่ายและได้ผลที่ออกมาดูสวยก็เลยทำให้คนชื่นชอบ
แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า AnalogFilm แต่ละตัวนั้นจำหน่ายอยู่ที่ $0.99 หรือประมาณ 35 บาท มีทั้งหมดประมาณ 8 ตัวคิดเป็นเงินตามจริงคือ $7.92 หรือประมาณ 278 บาท แต่มีผู้ที่ไม่หวังดีเอามาประกาศขาย 50, 60 บาทบ้างแล้วแต่คนซึ่งถ้าพูดไปตามหลักแล้วมันผิดกฎและถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้พัฒนาแอปนั่นเอง
ตัวอย่างนี้เป็นเคสที่เกิดขึ้นจริงเมื่อมีผู้ใช้รายนึงโพสว่า “พึ่งซื้อมา 20 บาท” ซึ่งคาดว่า 20 บาทนี้น่าจะหมายถึงทั้ง 8 แอปในซีรีส์ของ AnologFilm แล้วคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า? คำตอบนี้น่าคิดกันได้ง่ายๆ
Apple ID กลาง ปัญหาที่ผู้ขายรู้แต่ผู้ซื้อไม่รู้!!
วิธีการคือผู้ขายจะสมัคร Apple ID ตัวนึงขึ้นมาแล้วนำไปซื้อแอปจาก Apple Store แบบถูกกฎหมายหรืออาจจะด้วยทางซอกแซกก็เป็นได้ จากนั้นจะนำ Apple ID ดังกล่าวมาโพสขายว่าตัวเองมีแอปเหล่านี้อยู่ซึ่งจะปล่อยเช่าให้ผู้ซื้อโดยเอา Apple ID กลางดังกล่าวพร้อมรหัสผ่านไปให้ผู้ซื้อเข้าไปล็อกอินแล้วดาวน์โหลดแอปดังกล่าว
ปัญหากับผู้ขาย
ปัญหาตามมาคือ Apple ID (ของผู้ขาย) ดังกล่าวจะถูกทาง Apple นั้น Locked โดยให้เห็นผลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย เจ้าของ Apple ID (ผู้ขาย) จะต้องติดต่อกับทาง Apple เพื่อปลดล็อคก่อน ID นั้นจึงจะนำกลับมาใช้งานได้ แต่ส่วนใหญ่ผู้ขายมักจะทิ้ง Apple ID ที่มีปัญหานั้นเลยแล้วไปสร้างใหม่ เพราะเขาไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว
ปัญหาต่อผู้ซื้อ
หลายคนไม่ทราบว่าการทำเช่นนั้นมันก่อให้เกิดปัญหาได้ ทราบหรือว่าไม่ IMEI ของ iPhone นั้นสามารถเช็คประวัติการซื้อได้ว่าใช้ Apple ID ตัวไหนบ้างใช้งานร่วมกับเครื่องนี้ ถ้า Apple ตรวจและเอาจริงเครื่องของคุณอาจจะโดนแบนไม่ให้ใช้งานกับ App Store หรือบริการจาก Apple ได้อีกก็เป็นได้
อีกกรณีก็คือ Apple ID ของผู้ใช้(คนที่ชอบซื้อแอปถูก เช่น $1 = 15 บาท) จากคนขายที่โกงเงินจาก Apple มาก็มีสิทธิ์ที่ Apple ID ของผู้ใช้นั้นจะโดน Locked ได้เช่นเดียวกัน (เข้าข่ายรับซื้อของโจร) ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือซื้อแอปด้วยตัวเองไม่ว่าจะใช้บัตรเครดิต, บัตรเดบิตหรือว่าใช้ผ่าน True Wallet ก็เป็นอีกช่องทางที่ทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปโกงคนอื่นซึ่งผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็คือนักพัฒนานั่นเอง
ดังนั้นหากใครรู้ตัวว่าให้บริการ ใช้บริการในรูปแบบนี้อยู่ก็ขอให้หยุดคิด ตั้งสติแล้วไตร่ตรองให้ดี ถ้าแอปราคา 35 บาทมันแพงมากเกินไปจนไม่สามารถซื้อหามาใช้งานได้ก็ไม่ต้องใช้ครับ อย่าให้ใครมาว่าเราได้ “ซื้อเครื่องมาหลายหมื่นแต่ไม่มีเงินซื้อแอปดีๆ มาใช้งาน” ทั้งนี้ iOS เองมีแอปดี ฟรีๆ ที่ทำได้แบบเดียวกันให้ใช้ออกจะบ่อยและปล่อยให้โหลดฟรีเป็นช่วงๆ ก็เยอะไปค่อยลองโหลดลองหามาใช้งานกันดูแบบนี้มันจะดีกับเราและผู้พัฒนามากกว่าไปโกงเขามาเสียอีก
แล้วแชร์แอปให้คนในบ้านผิดไหม?
คำตอบคือไม่ผิดครับ Apple อนุญาติให้คุณแชร์ได้เพราะ 1 Apple ID เมื่อซื้อแอปแล้วสามารถนำไปแชร์ในครอบครัวหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่คุณมีได้ (บางคนมี iPhone หลายเครื่องหรือมี iPad ด้วย) ดังนั้นการใช้งานร่วมกันนั้นไม่ผิดกฎ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://support.apple.com/th-th/ht201085
สรุปมีแล้วใช้แชร์ในครอบครัวนั้นไม่มีปัญหาแต่การที่เอามาประกาศขายให้คนเป็นร้อยเป็นพันใช้มันเป็นสิ่งที่ผิดอยู่แล้ว เมื่อรู้แบบนี้แล้วเรายังจะทำมันอยู่ไหม? เราเห็นนักการเมืองโกงมาเยอะแล้ว เราไม่ชอบและด่าพวกนั้นไปเยอะแยะมากมาย ฉะนั้นเราเองก็อย่างทำในสิ่งที่คนโกงเหล่านั้นทำ
กระทู้ pantip ที่เกี่ยวข้องสำหรับคนที่อยากรู้ว่าพวกที่โกงซื้อแอป Apple นั้นทำอย่างไร [แฉความจริง] ขาย Apps ราคาถูกทำอย่างไร ช่องโหว่เปิดธุรกิจกำไร 100%
Analog fam