ที่ชาร์จแบตในรถยนต์จำเป็นด้วยเหรอ? หลายคนอาจจะสงสัยก็สืบเนื่องมาจากว่า รถยนต์รุ่นใหม่ทุกวันนี้มักจะมีพอร์ต USB มาให้อยู่แล้วจะหามาใช้งานเพิ่มทำไมที่มีอยู่ก็น่าจะใช้งานได้แล้วนี่
เออ ก็นั่นสินะ จะหามาเพิ่มทำไมหว่า?
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่จะหาซื้อที่ชาร์จในรถยนต์
โดยแน่นอนว่าคนๆ นั้นจะต้องใช้เวลาอยู่กับรถค่อนข้างนาน อย่างเช่น เดินทางไปทำงานนอกสถานที่ ขับรถไปหาลูกค้า ฯลฯ สรุปเหตุผลที่ต้องการที่ชาร์จในรถก็มีอยู่ด้วยกันประมาณนี้ครับ เช่น
- รถยนต์คันนั้นเป็นรุ่นเก่า ไม่มี USB สำหรับการชาร์จมาให้
- มี USB มาให้เพียง 1 พอร์ต อาจจะน้อยเกินไปสำหรับการใช้งานซึ่งอาจจะมีทั้ง iPhone, iPad ที่ต้องการชาร์จพร้อมกัน
- มี USB มาให้จริงแต่ว่า “เสีย” ใช้การไม่ได้
- USB พอร์ตในรถจ่ายไฟน้อยทำให้ชาร์จไฟได้ช้า ยิ่งถ้าชาร์จ iPhone 6, 7 (Plus) หรือ iPad ที่แบตเยอะๆ ก็นานเลยกว่าจะเต็ม
- ต้องการตัวชาร์จที่จ่ายไฟแรงและชาร์จได้มากกว่า 1 อุปกรณ์ไปพร้อมๆ กัน
ก็คงมีประมาณนี้ครับและนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องหาอุปกรณ์เสริมดังกล่าวมาใช้งาน ก็สุดแล้วแต่ว่าจะชอบยี่ห้อไหน การออกแบบอย่างไร
แต่หลายคนเลือกซื้อเพราะว่า “จะใช้งานตอนนี้ เจอตัวไหนก่อนก็ซื้อเลย บางทีคุณภาพดีไม่ดีไม่รู้ ขอให้ใช้ได้เป็นพอ” ขอบอกเลยว่า “แบบนั้นอันตราย” นะครับ
แล้วจะเลือกยี่ห้อไหนดีหละ?
ปกติไม่ค่อยได้รีวิวที่ชาร์จในรถยนต์ให้ดูเท่าไหร่แต่พอมีข้อมูลแนะนำอยู่บ้างครับ เดี๋ยวช่วงท้ายจะแนะนำว่าควรเลือกอย่างไรนะครับ ส่วนบทความนี้จะขอแนะนำที่ชาร์จในรถยนต์จาก nonda ผู้ที่ผลิตสายชาร์จสุดทนถึก ZUS Lightning Cable ที่ผมเคยรีวิวให้ชมกันไปก่อนหน้านี้ครับ
ตามสัญญาครับมาในรอบนี้ผมนำอุปกรณ์อีก 1 ชิ้น ที่มีชื่อว่า ZUS Smart Car Finder & Dual USB Car Charger มาให้ชมกันครับ
ZUS Smart Car Finder & Dual USB Car Charger
ชื่อย๊าวยาว แต่หากเรียกให้เข้าใจกันง่ายๆ อุปกรณ์ตัวนี้คือ ที่ชาร์จในรถยนต์มี USB 2 พอร์ตที่มีความพิเศษสามารถระบุพิกัดของตำแหน่งที่จอดรถยนต์ได้ แต่ทว่าความสามารถของอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังไม่หมดเท่านั้นครับ ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดนั้นมีดังนี้
- รองรับการชาร์จไฟเร็วและจ่ายกระแสสูงสุดได้ 4.8A (ชาร์จ iPad จำนวน 2 เครื่องพร้อมกันสบายเลย) หรือ ชาร์จ Macbook 12″ ด้วยสาย ZUS USB-A to USB-C Cable ก็ได้ง่ายๆ สบายโดยไม่ต้องรอมีปลั๊กไฟ (ขอบคุณ USB-C ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไปอีกระดับ)
- การออกแบบที่สวยงามรองรับการใช้งานในพื้นที่แคบๆ ของรถยนต์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้คู่กับสายชาร์จ ZUS Lightning Cable
- ช่องเสียบ USB เป็นแบบ Reversible USB หมายถึง สามารถเสียบสาย USB ด้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเสียบด้านเดียวเหมือนพอร์ต USB ทั่วไป
- มีแสงไฟ LED แสดงเมื่ออุปกรณ์พร้อมใช้งาน
- ใช้ค้นหาตำแหน่งที่เราจอดรถได้โดยใช้คู่กับแอป ZUS ที่ได้ทั้ง iOS และ Android
- ตั้งเวลาแจ้งเตือนการจอดรถได้ เช่น จอดแค่ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงเป็นต้น
- ตรวจสอบสภาพแรงดันในแบตเตอรีของรถยนต์ได้ ว่าแบตเตอรีนั้นยังดีอยู่หรือเปล่า
- วัสดุคุณภาพ แข็งแรงระดับ Military Grade
รู้จักคุณสมบัติของอุปกรณ์นี้แล้วต่อไปก็ชมรีวิวใช้งาน ZUS Smart Car Finder & Dual USB Car Charger กันครับ
อุปกรณ์ที่มีในกล่อง
มีตัวชาร์จ ZUS Smart Car Finder & Dual USB Car Charger แล้วก็คู่มือการใช้งานครับ
ทดสอบใช้งาน
ความโดดเด่นของ ZUS Smart Car Finder และตัวชาร์จในรถยนต์นั้นคือ “การทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ร่วมกับซอฟต์แวร์เฉพาะของ ZUS” ทำให้อุปกรณ์ชาร์จตัวนี้แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด
สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ชิ้นแยกกัน และให้กระแสไฟสำหรับการชาร์จที่สูงสุดถึง 4.8A ผมทดสอบชาร์จ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus พบว่ากระแสไฟที่ไหลเข้านั้นก็ถือว่าเต็มปกติครับ (ขออภัยที่ไม่มี Android Quick Charge มาทดสอบให้ดูครับ)
เรื่องกระแสนั้นไม่มีปัญหาเพราะยังก็จ่ายเพียงพออย่างแน่นอนและชาร์จ iPhone ได้สบายๆ
ลองใช้งานจุดเด่นของ ZUS Smart Car Finder กันครับ นั่นคือแอป ZUS นั่นเอง
การเชื่อมต่อ iPhone กับ ZUS นั้นทำได้ไม่ยากครับ ดาวน์โหลดแอป ZUS จาก App Store ลง iPhone เชื่อมต่อตามขั้นตอน เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ นี่คือหน้าตาของแอปที่พร้อมใช้งานโดยจะแสดงสถานะว่า “ZUS is connected” พร้อมสามารถดูตำแหน่งปัจจุบันของรถได้
ส่วนตัวแล้วผมชอบฟีเจอร์ตรวจสอบแรงดันไฟในแบตเตอรี่รถยนต์ เพราะบอกให้เรารู้ได้ว่าแบตเตอรี่นั้นสภาพยังดีหรือเปล่า ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนหรือยัง ซึ่งถือว่าดีมากๆ ครับ ที่ชอบเพราะว่าเคยประสบปัญหานี้มาด้วยตัวเองก็คือ แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม สตาร์ทเครื่องไม่ติดเลย ต้องหารถมาลาก ลำบากสุดๆ ครับ
ZUS มีฟีเจอร์นี้ให้ถือว่าดีมากอีกอันครับ
ต่อมา…
เมื่อดับเครื่องยนต์ปุ๊บ รอสักพักแอป ZUS จะแจ้งเตือนที่หน้า Notification Center ว่า สถานที่จอดรถนั้นถูกบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว เราสามารถดูข้อมูลที่จอดรถได้เลย ส่วนนี้ถ้าหากอยู่กลางแจ้งจะไม่มีปัญหาเรื่อง GPS แสดงตำแหน่ง แต่หากเป็นตึกเช่นห้างสรรพสินค้าใช้งานแล้วพบว่าตำแหน่งไม่ค่อยตรง ทั้งนี้ผมคิดว่าระบบพิกัดนั้น ZUS จะดึงมาจาก iPhone อีกทีหนึ่ง
ลงจากรถแล้วตรวจสอบที่แอป ZUS จะแจ้งข้อมูลดังนี้
- ระยะห่างจากตัวรถโดยประมาณ
- ระยะเวลาที่จอดรถไว้แล้วนานเท่าไหร่ สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนได้ว่าจะจอดนานเท่าไหร่ ข้อดีคือ ที่จอดรถบางที่แจ้งว่าจอดได้ฟรี 2 ชั่วโมงหรือบางที่นั้นจำกัดเวลาจอดได้เพียงไม่กี่นาที จากนั้นเราสามารถมาเลื่อนรถได้ประมาณนั้นครับ
- ทั้งนี้สามารถถ่ายภาพสถานที่ที่เราจอดรถไว้ได้ด้วย เพื่อเตือนความจำให้เราอีกที เผื่อไปจอดในที่ที่ไม่ค่อยชินจะได้จำจุดได้ง่ายขึ้น
- แสดงแผนที่จุดที่เราจอดรถไว้ด้วยครับ
ว่าแล้วก็ลองเดินออกห่างตัวรถแล้วทดสอบหันหน้าไปทิศต่างๆ เพื่อดูว่า ZUS จะบอกทิศที่เราจอดรถได้ไหม จากตัวอย่างถ้าหันหน้าไปทิศเหนือ รถผมจะจอดทางทิศตะวันตกครับ
ทดสอบครั้งแรก หันหน้าไปทิศเหนือ ลูกศรของ ZUS ชี้ไปทางซ้ายนั่นคือทิศตะวันตก ถือว่าระบุทิศทางได้ถูกต้องครับแม้จะไม่ทำมุม 90 องศาก็ตาม
รูปด้านล่างหันหน้าไปทางทิศใต้ ลูกศรของ ZUS ชี้ไปทางขวามือ ซึ่งไปทางทิศตะวันตกที่จอดรถไว้ ถือว่าทำได้ถูกต้องครับ
ทดสอบเดินตามทิศทางที่ ZUS แนะนำดูกันว่าจะถึงที่ที่เราจอดรถเอาไว้ไหม ไปชมกันครับ
สรุป
ข้อดี
ส่วนที่ชอบคือ การจ่ายกระแสไฟชาร์จที่แรงทำให้ชาร์จอุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad ได้เร็ว โดยเฉพาะ iPhone 6 และใหม่กว่าจะรองรับกระแสสูงสุดที่ 2.1A ทำให้แบตเต็มเร็วขึ้น, หัว USB ที่สลับด้านเสียบได้เพิ่มความสะดวกค่อนข้างมากโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบด้านไหน, ตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรีในรถยนต์ได้ซึ่งถือว่าดีครับ ช่วยให้เราทราบว่าเวลาไหนที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรีรถยนต์ เพราะประสบการณ์ตรงเคยเจอเหตุการณ์สตาร์ทรถไม่ติดเพราะแบตหมดมาแล้ว ในส่วนเรื่องของการค้นหาตำแหน่งที่จอดรถนั้นก็ดีนะแต่ยังไม่ค่อยโดนหมดทั้งใจเท่าไหร่ครับ
ข้อด้อย
เรื่องราคาที่หลายคนอาจจะว่าแพง(แต่ลองเทียบกับ USB Adapter ของ Apple ราคาก็สูงกว่าพอประมาณนึงแต่ประโยชน์มาเยอะ), เรื่องการหาที่จอดรถยนต์ที่ใช้ได้ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ระบุตำแหน่งพลาดโดยเฉพาะการจอดรถในตึกส่วนนี้อาจจะต้องหาทางแก้ไขเรื่องความแม่นยำของสถานที่ให้มากกว่านี้ (แต่หากจอดในพื้นที่โล่ง ถือว่าช่วยได้เยอะครับเมื่อครั้งที่เราจอดรถในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย)
เลือกซื้อที่ชาร์จในรถยนต์อย่างไรถึงจะดี?
หลักการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่ชาร์จในรถยนต์ที่พอจะแนะนำได้ คือ
- อุปกรณ์ชิ้นนั้นต้องออกแบบมาเพื่อ iPhone, iPad เพื่อความชัวร์และปลอดภัย
- ต้องเป็นยี่ห้อที่ไว้ใจได้และมีประวัติที่ดี
- ต้องมีการรับประกันสินค้า
- เลือกการจ่ายไฟสูงๆ เช่น 2.1A ขึ้นไป หากต้องการใช้หลายอุปกรณ์และกระแสไฟจะต้องนิ่ง
- มีระบบป้องกันการจ่ายไฟเกิน ไปกระชาก ซึ่งกระแสไฟส่วนนี้แหละที่เกินที่กระชากแรงๆ ส่งผลให้ PMU(Power Management Unit) หรือ IC Power ใน iPhone, iPad พังง่ายๆ ทำให้เครื่องเปิดไม่ติดนั่นเองครับ
- ข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อสายชาร์จกับ iPhone, iPad ก่อนที่คุณจะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันปัญหาไฟกระชากที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จำง่ายๆ ก็คือ สตาร์ทรถก่อนค่อยเสียบชาร์จนะครับ
ทราบแบบนี้แล้วหากต้องการจะเลือกซื้ออุปกรณ์ตัวชาร์จในรถยนต์สักอันก็ต้องเลือกของดีไว้ใช้งานนะครับ จะได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปและปลอดภัยในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เรามี
ราคาสถานที่จัดจำหน่าย
ZUS Smart Car Finder & Dual USB Car Charger ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 1,490 บาทครับ
การจัดส่ง
- ภายในกรุงเทพฯ 1-2 วัน
- ต่างจังหวัด 2-3 วัน
- ค่าจัดส่ง 50 บาท
- จัดส่งฟรีเมื่อสั่งสินค้ายอดเกิน 1,000 บาท
สอบถาม / สั่งซื้อสินค้าได้ตามช่องทางนี้เลยครับ
FB: www.facebook.com/CommandShift
Inbox: m.me/CommandShift
Line: @cmdshift หรือ http://line.me/ti/p/@cmdshift
Lazada: www.lazada.co.th/cmdshift
Tel: 0863674486
ขอบคุณ Cmd+Shift ที่สนับสนุนอุปกรณ์ให้รีวิวครั้งนี้
กดติดตามข้อมูลสินค้าและโปรโมชันของสินค้าแบรนด์ ZUS ได้ที่เพจ Cmd+Shift ได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/CommandShift
ขอบคุณสำหรับการติดตามแล้วพบกับการรีวิวในครั้งต่อไปครับ รีวิวโดยทีมงาน iPhoneMod.net