ก่อนหน้านี้เป็นคิวของ Huawei ที่ถูกลูกค้า, สื่อมวลชน, บล็อคเกอร์และผู้ไม่เกี่ยวข้องเลย (อันที่จริงก็ทุกคนยกเว้นพนักงาน) โจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับการสอดไส้หน่วยความจำ UFS 2.0 แทนที่จะเป็น 2.1 ตามสเปคที่ได้โฆษณาไว้ และที่หนักกว่าคือบางส่วนบอกว่าได้เป็น eMMC 5.1 ซึ่งเป็นคนละเรื่องแถมช้ากว่ามาก โดยคราวนี้ก็ถึงคิวของ Samsung Galaxy S8 เพราะทางสื่อต่างประเทศมีการจับได้ว่าสเปคไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้
Samsung Galaxy S8 ก็เจอ UFS 2.0 เช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8 + สามารถใช้งานได้กับ UFS 2.0 หรือ UFS 2.1 (ก็ได้) แต่จากหน้าเว็บไซต์ส่งเสริมการขายจากซัมซุงในช่วงหลายอาทิตย์ก่อนหน้า ได้โฆษณาอย่างชัดเจนว่าสเปคเป็นหน่วยความจำ UFS 2.1 ก่อนที่จะมีการแก้ไขอย่างเงียบ ๆ ในภายหลัง
มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ของตนโดยพบว่า UFS 2.1 จะมีความเร็วอ่านข้อมูลอยู่ในช่วง 700-800 เมกะไบต์ต่อวินาทีในขณะที่ UFS 2.0 สำหรับจัดเก็บข้อมูลจะมีความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ในช่วง 500-600 เมกะไบต์ต่อวินาที … แต่บางทีมันก็ไม่เกี่ยวกันนัก (ดูจากตารางเพิ่มด้านล่าง)
แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีวิธีการสรุปที่ฟันธงนัก ซึ่งไม่มีทางรู้ได้เลยก่อนซื้อว่าจะเป็นเช่นไร ซึ่งวิธีตรวจสอบคือการเปิดแอปพลิเคชัน Terminal Emulator แล้วพิมพ์คำสั่งด้านล่างนี้ หรือง่ายกว่านั้นอาจใช้ AndroBench ก็ได้เช่นกัน
cat /proc/scsi/scsi
อีกวิธีหนึ่งก็คือการตรวจสอบหมายเลขโมเดลที่แน่นอน จากชิปหน่วยความจำแฟลชของเครื่อง โดยอาจเทียบจากตารางด้านล่าง เนื่องจากแต่ละเครื่องก็มีการใช้ชิปที่คละกันไปตามแต่ละผู้ผลิตหน่วยความจำ นอกจากนี้ทาง Samsung ยังแบ่งเครื่องเป็น 2 สเปคใหญ่ตามหน่วยประมวผลผล (Snapdragon/Exynos)
ข่าวดีก็คือสำหรับเมืองไทยและหลายประเทศทั่วโลก จะได้เป็นหน่วยประมวลผล Exynos ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้ UFS 2.1 มากกว่า (ตอนนี้ยังไม่มีรายงานการได้ UFS 2.0) และหากว่ากันตามตรงไม่ว่าจะเป็น UFS 2.0 หรือ 2.1 ก็ไม่ได้มีความเร็วต่างกันมากนัก จะมีเพียงแค่มาตรฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเข้ามา
แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก ในการโฆษณาสเปคหนึ่งและขายจริงมีอีกสเปคหนึ่งคละเข้ามา (ซึ่งถึงแม้จะมีการใส่หมายเหตุก็ตาม) แต่ก็อาจทำให้ลูกค้าสับสนคิดไปเองได้ หากไม่มีการระบุสเปคที่ชัดเจน
ที่มา – xda-developers