ชมงาน WWDC 2017 กันไปแล้วโดยครั้งนี้มีการเปิดตัวและอัปเดตผลิตภันฑ์มากมาย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปชม สรุปสิ่งที่น่าสนใจในงาน WWDC 2017 กันเลย
สรุปสิ่งที่น่าสนใจในงาน WWDC 2017
ในงาน WWDC 2017 Apple ได้อัปเดตผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มหลักๆ คือ ระบบปฏิบัติการ (OS) ได้แก่ iOS 11, tvOS 11, watchOS 4, macOS 10.13 และได้อัปเดตอุปกรณ์รุ่นใหม่อย่าง Mac, MacBook รุ่นอัปเดตคุณสมบัติ เปิดตัว HomePods และ iPad Pro 10.5 นิ้วรุ่นใหม่
iOS 11
ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะสำหรับ iOS 11 ในปีนี้ โดยจุดเด่นที่เราเห็นได้ชัด คือ การเปลี่ยนรูปแบบหน้าตาการใช้งานของแอปพลิเคชันต่างๆ มากมาย
iMessage
ปรับปรุงหน้าตา iMessage ใหม่ เก็บข้อมูลไว้ที่ iCloud ได้
Apple Pay สามารถส่ง Apple Pay Cash Card ให้คนอื่นผ่าน iMessage เพื่อใช้ซื้อของ จ่ายเงินได้
Siri
เพิ่มเสียง Siri, ปรับปรุงหน้าตาใหม่
Siri มีความฉลาดมากขึ้น เรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้งาน (ข้อมูลจากอุปกรณ์) และนำเสนอข้อมูลได้ดีกว่าเดิม
กล้อง
ปรับปรุงการเข้ารหัสระบบกล้องใหม่ เพิ่มคุณภาพการถ่ายภาพในด้านต่างๆ ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายที่แสงน้อย, ระบบกันสั่นที่ดีขึ้น
Control Center
ออกแบบ Control Center ใหม่ ทุกอย่างอยู่ในหน้าจอเดียว รองรับ 3D Touch
Lock Screen และ Notification
ออกแบบใหม่ใช้งานง่ายและสวยขึ้น
แอป Photo
สามารถเลือก Frame ใน Live Photo มาแสดงได้, ทำ Loop Video เหมือน Boomberg ได้ และเพิ่มฟีเจอร์ฟิลเตอร์แต่งรูปใหม่
Maps
อัปเดตข้อมูลร้านค้า และรายละเอียดในแผนที่เพิ่มเติม ดูแผนที่ชั้นในตึกอาคาร, สนามบินได้
CarPlay
มีระบบบอกเส้นทาง จำกัดควาามเร็ว และ Do Not Disturb While Driving เพื่อป้องกันการรบกวนระหว่างการขับรถเพื่อความปลอดถัยที่มากขึ้น
HomeKit
เพิ่มระบบควบคุมลำโพงหลายตัวผ่านที่เดียว Multi-room audio, มาพร้อม AirPlay 2 ทำอะไรได้มากขึ้น
Apple Music
แสดงรายชื่อเพือนที่กำลังฟังเพลงอยู่ได้
เพิ่ม API ใหม่สำหรับนักพัฒนา สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Music ได้ เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
App Store
ปรับปรุงการออกแบบ App Store ทั้งหมดใหม่หมดมีความคล้ายกับ Apple Music
เพิ่มแถบ Today ดูแอปใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในมุมมองที่สวยงามมากขึ้น
เพิ่มแถบ Game สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม ในนั้นสามารถดูหมวดหมู่เพิ่มเติมได้
เพิ่มแถบ Apps
หน้าจอรายละเอียด App
สามารถแตะเข้าไปดูรายละเอียด How-to นักพัฒนาสามารถใส่รายละเอียดเพิ่มได้หลายรูปแบบ
Machine Learning (ML) API
Core ML สามารถให้นักพัฒนาพัฒนาระบบให้เรียนรู้ลักษณะการใช้งานของอุปกรณ์ได้ เช่น จดจำใบหน้า, การตรวจจับตัวอักษร, การอ่านบาร์โค็ด ฯลฯ นักพัฒนาสามารถจำ Core ML ไปพัฒนาต่อยอดได้
ARKit
ARKit ช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปรองรับ AR ได้
ARKit รองรับกับอุปกรณ์ iDevice ของ Apple ได้หลายรุ่น
อื่นๆ
- ปรับ dock ใหม่ใน iPad
- รองรับ Drag&drop ก๊อบข้อมูลจากแอปหนึ่งมาอีกแอปหนึ่ง
- quick type keyboard แบบใหม่ตะวัดขึ้นบนเพื่อพิมพ์ตัวเลขได้
- ระบบ multitasking แบบใหม่
- แอปเมลรองรับแบบ split view
- เพิ่มแอป Files จัดการไฟล์ใน iOS และ iCloud พร้อมกับ Cloud Service อื่นๆ
tvOS
Apple ร่วมกับ Amazon เปิดตัว Amazon Prime บริการ Video Streaming ออนไลน์
watchOS 4
Siri Face เป็นการ Feed กิจกรรมขึ้นมาเป็นรายการให้ดูง่ายและสอดคล้องกันมากขึ้น
มีการอัปเดตหน้าปัด Apple Watch ใหม่ เป็นต้วการ์ตูนจาก Toy Story
Work Out อัปเดตแอปการเก็บข้อมูลสำหรับการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น
มีระบบ Sync ข้อมูล Apple Watch กับเครื่องออกกำลังกาย
ปรับปรุงแอป Apple Music ช่วยให้การใช้งาน Apple Watch ร่วมกับหูฟัง AirPods ได้ดีขึ้น
นักพัฒนาสามารถอัปเดต wacthOS 4 เวอร์ชัน Beta ได้เลยวันนี้
macOS High Sierra
macOS High Sierra ปรับปรุง macOS รุ่นเดิมให้มีประสิทธิภาพ ความเร็วเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะใช้ Hardware ตัวเดิม
ทดสอบกับ Safari พบความมีความเร็วมากกว่า Chrome ถึง 80%
Safari มีการเพิ่มฟีเจอร์ Intelligent Tracking Prevention เพื่อป้องกันการติดตามข้อมูลประวัติการใช้งาน
แอป Photo สามารถ Sync ข้อมูลร่วมกับ iOS, macOS รวมไปถึงแอปภายนอกอย่างเช่น Photoshop ได้
ระบบไฟล์จากเดิมใช้ HFS เปลี่ยนเป็น Apple File System เหมือน iOS
ปรับเปลี่ยนมาตรฐาน HVEC จากเดิม H.264 เป็น H.265 แสดงภาพ 4K ได้ดีขึ้น
ปรับเปลี่ยนระบบ GPU ใหม่ เร็ว แรง แสดงผลได้ดีกว่าเดิมหลายเท่า
นักพัฒนาสามารถนำเครื่องมือ (Kit) ไปพัฒนาต่อได้
เปิดตัว Metal VR รองรับใน macOS High Sierra ใช้งานร่วมกับแอป เกม ที่เป็น VR ผ่านแว่น VR ได้
นักพัฒนาที่ลงทะเบียนสามารถอัปเดต macOS High Sierra ได้เลยวันนี้
iMac 2017 รุ่นอัปเดตสเปค
มีการปรับปรุงระบบภายใน iMac ใหม่ หน้าจอแสดงผลดีขึ้น, Core i7 Kaby Lake, SSD 2TB, มี Type C เพิ่ม 2 ช่อง
Graphic เร็วขึ้นจากเดิม 50%, iMac (macOS High Sierra) ใช้ร่วมกับกล้อง VR ได้
ราคา iMac 2017
MacBook รุ่นอัปเดต
มีการปรับปรุง Kaby Lake ใน MacBook 12″, MacBook Pro 13″, MacBook Pro 15″ Touch Bar สินค้าพร้อมส่งทันที
เปิดตัว iMac Pro
iMac Pro ที่มีประสิทธิภาพสูงและทรงพลังที่สุดที่ทำมา ด้วยหน้าจอ 5K
สเปค iMac Pro
- ใช้ CPU 8 Core Xeon, 10 Core Xeon สูงสุด 18 Core Xeon
- GPU RAM สูงสุด 16GB
- RAM สูงสุด 128GB ECC
- SSD จุสูงสุด 4TB
- หน้าจอ 5K ความละเอียด 44 MP
เปิดขายราคา 4,999 ดอลลาร์ เปิดขาย ธ.ค. 2017
เปิดตัว iPad Pro 10.5″
เปิดตัวไปแล้วสำหรับ iPad Pro น้องใหม่ขนาดหน้าจอ 10.5″ โดยเป็นเครื่องที่มาทดแทน iPad Pro 9.7″ รุ่นพี่ แต่มีการขยับหน้าจอให้มีความกว้างเพิ่มขึ้นนั่นเอง
iPad Pro 10.5″ มีการขยับหน้าจอให้ชิดขอบข้างมากขึ้น แต่ด้านล่างยังเหลือปุ่ม Home และด้านบนยังเหลือพื้นที่ไว้สำหรับกล้องหน้าเช่นเดิม
ProMotion ปรับความถี่การกระพริบจาก 60Hz เป็น 120Hz ทำให้ภาพดูคมชัดและลื่นขึ้น
ใช้ CPU A10X 6 Core เร็วขึ้นจากเดิม 30% , GPU 12 Core เร็วขึ้นจากเดิม 40%
รองรับแอปพลิเคชันการแต่งภาพขั้นสูงได้เป็นอย่างดี (ดีกว่า Core i7)
การรองรับอุปกรณ์เสริมก็เหมือนกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้า โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Smart Connector และใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้ปกติ
กล้องหลัง 12 MP บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 30 fps กล้องหน้า 7MP บันทึกวิดีโอระดับ HD 720p
ในรุ่นนี้ก็ยังมาทั้งหมด 4 สีเหมือนเดิมคือ Siiver, Gold, Rose Gold, Space Grey
iOS 11 สำหรับ iPad รูปแบบใหม่
iPad Dock
Dock หรือแผงแอปพลิเคชันก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยถูกปรับการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดใหญ่ สามารถลากแอปพลิเคชันมาวางได้สูงถึง 6 แอป
Split View / Drag & Drop
iOS 11 สำหรับ iPad นั้นมีการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบให้เหมาะสมกับ iPad จอใหญ่มากขึ้น โดยฟีเจอร์หลักที่เพิ่มเข้ามา คือ การแบ่งหน้าจอ (Split View) และการลากวาง (Drag Drop)
Files
แอป Files ช่วยให้บริหารจัดการไฟล์ของแอปต่างๆ ร่วมกันได้
Instant Note
การใช้งานอุปกรณ์เสริมอย่าง Apple Pencil ก็ทำกับ iPad ได้มากขึ้น โดยใน iOS 11 มีการเพิ่มฟีเจอร์ Instant Note วิธีการใช้งานทำได้ง่ายๆ คือ ใช้ Apple Pencil แตะที่หน้าจอ 2 ครั้ง เขียน Inline Drawing ได้ทันที
Spotlight Search
เปิดตัว HomePod
Apple ก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง HomePod ที่เป็นการผสมผสานระหว่างลำโพงคุณภาพสูง, Siri และการฟังเพลงผ่าน Apple Music เข้าด้วยกัน
เรายังสามารถสั่งการ HomePod ผ่าน Siri ให้ทำการควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านได้อีกด้วย
ขอบคุณ – theverge