Attapon Thaphaengphan
บทความนี้ขอแนะนำแอปพลิเคชันสำหรับการรับชมภาพยนตร์(ผมจะใช้คำว่า”หนัง”แทนแล้วกันนะ จะได้เข้าใจตรงกัน) หรือดูหนังบน iPhone, iPad ซึ่งปัจจุบันนี้ทำได้ง่ายมากขึ้น ด้วยความพร้อมทั้งด้านเนื้อหา, ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายและก็แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตนั่นเอง จะมีแอปฯอะไรบ้างไปชมพร้อมกันครับ
รวมแอปฯดูหนัง iPhone iPad แบบฟรีและเสียตังค์ แนะนำโดย iMod
รวมแอปฯดูหนังออนไลน์ผ่าน iPhone, iPad ได้ทุกที่ทุกเวลา บางแอปฯนั้นนอกจากจะดูได้บน iPhone, iPad แล้วยังสามารถดูผ่านทีวีได้อีกด้วย เรามีมาแนะนำให้ทั้งดูฟรีและเสียเงินกันเลยนะครับ โดยจะบอกคร่าวๆ ว่าแอปฯแต่ละตัวคืออะไร ดียังไง แต่อาจจะไม่ได้เจาะลึกถึงวิธีการใช้งานของแอปฯแต่ละตัวนะครับ
เริ่มกันที่…
1. iTunes Store
แอปฯนี้มาพร้อม iPhone, iPad ทุกเครื่องสามารถเข้าเมนู Films หรือภาพยนตร์ แล้วเลือกชมได้เลยมีให้เลือก 2 แบบคือ
- เช่า (Rent) หลังจากกดเช่าหนังจะเก็บไว้ 30 วัน แต่หากเริ่มดูแล้วต้องดูให้จบภายใน 48 ชั่วโมง (ถ้าเช่าในอเมริกาต้องดูให้จบใน 24 ชั่วโมง)
- ซื้อ (Buy) ซื้อหนังแต่ละเรื่องจะผูกไว้กับบัญชี Apple ID จะดูเมื่อไหร่ก็ได้หรือเก็บไว้เป็นคอลเลกชันก็ได้
เมื่อพิจารณาแล้วการเช่าหนังราคาพอๆ กับไปดูที่โรงแต่เราสามารถดูที่บ้านและชวนคนอื่นๆ มาดูได้ไม่ผิดกฎหมายเพราะดูในครอบครัว ภาพและเสียงนั้นดีเยี่ยม ยิ่งถ้าใครมีเครื่องเสียงดีเชื่อมต่อกับระบบ Apple TV หน่อยยิ่งได้อารมณ์ในการรับชมที่ดีครับ ในอนาคตเนื้อหาใน iTunes Store ที่ดูผ่าน Apple TV(รุ่นใหม่) จะรองรับความละเอียด 4K ได้อีกด้วย
การซื้อหนังใน iTunes Store มีให้เลือกทั้งแบบ SD และ HD ซึ่งราคาจะต่างกัน อีกทั้งจะมีการซื้อยกแพ็กเกจเช่นเซตของ Fast & Furious ตอนนี้ 8 ภาค ซื้อรวมกันในราคา 2,500 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสะสมหนังอีกด้วยครับ
ทั้งนี้การเช่าหรือซื้อหนังใน iTunes Store สามารถรับชมได้จากอุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, iPod touch, iTunes ผ่านเครื่อง Mac และ Windows ต่างๆ และผ่าน Apple TV ได้ด้วยนะครับ แถมยังมีซับไทยให้ด้วย
นี่เป็นหนึ่งช่องทางแรกครับที่ผู้ใช้ iOS ควรจะทราบไว้สำหรับการรับชมหนัง
หมายเหตุ หนังที่เช่าใน iTunes จะไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Chromecast ได้
2. Google Play Movies
แม้เราจะใช้ iOS แต่ก็สามารถเช่าหรือซื้อหนังจาก Google Play Store ได้เช่นกันนะ โดยไปที่ https://play.google.com (จำเป็นต้องมี Google Account และบัตรเครดิตสำหรับการซื้อของผ่านออนไลน์ ถ้าไม่มีบัตรเครดิตอ่านที่นี่)
- เลือกเช่าหรือซื้อหนังใน Play Store ผ่านเว็บบราวน์เซอร์บนคอมฯ หรือ iPhone ก็ได้
- ดาวน์โหลดแอปฯ Google Play Movies ลงที่ iPhone, iPad เพื่อชมหนังเหล่านั้น
- รองรับ Chromecast
หลักการจะคล้ายๆ การเช่าและซื้อจาก iTunes Store ครับ เช่าได้ 30 วันต่อครั้ง แต่ถ้าเริ่มดูต้องให้จบใน 48 ชั่วโมง ดูผ่าน iPhone, iPad ยิงออกไปยัง Chromecast ได้, ดูบนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บของ Google Play ได้เลย
3. Netflix (ตัวเลือกของผู้เขียน)
เป็นบริการเช่าหนังรายเดือนราคาเริ่มต้นที่ 279 บาท หนังมีให้เลือกดูเยอะมากมาย มาพร้อมซับไทยและพากย์ไทย (ไม่ทุกเรื่องที่พากย์ไทย) ทำให้ดูหนังได้รู้เรื่องมากยิ่งขึ้น
หนังจาก Studio ดังๆ ก็เยอะ หนังจาก Netflix เป็นผู้สร้างเองก็แยะแถมซีรีส์ดีๆ ดังๆ มีให้ดูเพียบเลย ดูจนติดงอมแงม ส่วนตัวแล้วผมใช้ Netflix ตลอดคิดว่าดูเดือนละ 3 เรื่องก็คุ้มแล้ว(ปกติชอบดูหนังอยู่ละ)
Netflix ดีตรงที่
- ดูผ่าน Netflix บน iPhone, iPad ได้
- มีแอปสำหรับ tvOS ดูผ่าน Apple TV
- รองรับการทำงานร่วมกับ Chromecast
- ดูบนคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นกัน ผ่านหน้าเว็บ Netflix ได้เลย
- เนื้อหาเยอะ มีหนังที่ Netflix ทำเองมาให้ดูเรื่อยๆ
- คุณภาพสูงสุด 4K HDR ภาพคมชัด
- เสียงดี ไฟล์สตรีมเร็ว (ทดสอบกับอินเทอร์เน็ต 200/100Mbps กดดูปั๊บมาปั๊บแทบไม่สะดุดเลย)
- มีซับไทย
- มีพากย์ไทย
- แถมใครอยากลองใช้บริการสามารถดูฟรี 1 เดือนก็ได้นะ สมัครได้ที่ www.netflix.com
- ราคาต่อเดือน 279, 349, 419 บาท (ตามจำนวนหน้าจอที่ดูได้พร้อมกัน)
- ใช้งานฟรี 1 เดือน
4. iFlix
เป็นบริการเช่าหนังรายเดือนคล้ายๆ Netflix ครับ พักหลังไม่ค่อยได้ใช้บริการเท่าไหร่ตั้งแต่ Netflix เปิดบริการเต็มตัวที่ไทย หนังและซีรีย์บน iFlix เยอะเหมือนกันครับ มีซับไทยและพากย์ไทยให้เลือกเช่นกัน
- ดูผ่านแอป iFlix บน iOS ได้ มีให้เลือกทั้ง iPhone, iPad
- ดูผ่านคอมพิวเตอร์ได้ที่เว็บ https://www.iflix.com
- รองรับการยิงภาพเสียงออกไปยัง Chromecast ได้
- มีซับไทย
- มีพากย์ไทย
- ไม่มีแอปฯบน Apple TV
- ส่งสัญญาณผ่าน AirPlay ไปยัง Apple TV ได้ ภาพแสดงผลเต็มจอแต่ไม่สามารถกดพักหน้าจอ iPhone ได้
- ราคาต่อเดือน 100 บาท ถ้าจ่ายราย 6 หรือ 12 เดือนจะลดไปอีก เช่นสมัครใช้ 1 ปีจ่าย 1,000 บาท
- ดูฟรี 1 เดือน
5. TrueID TV
แอป TrueID TV นั้นไม่ได้จำกัดแค่ลูกค้า TrueMove H นะครับ ใครที่ใช้มือถือค่ายอื่นๆ อย่าง AIS, dtac, my, LINE Mobile ฯลฯ ก็สมัครใช้งานได้ แต่หากใช้ TrueMove H จะได้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าเท่านั้นเอง
สิ่งที่แอปฯ TrueID TV ทำได้คือ
- ดูหนังได้ มีให้เลือกทั้งแบบพรีเมียม(ดูฟรี 5 เรื่องต่อเดือน)
- ดูหนังทั่วไปที่ไม่ใช่พรีเมียม ดูได้ฟรี
- มีพากย์ไทย
- มีซับไทย
- ดูทีวีออนไลน์ไทยได้
- ดูฟุตบอลสดได้
- รายการทีวี วาไรตี้ต่างๆ
- แอป TrueID TV รองรับ iPhone, iPad
- ดูผ่านหน้าเว็บได้ที่ www.trueid.net
- ดูทีวีรองรับการส่งภาพผ่าน Chromecast แต่ส่งหนังไปดูไม่ได้
รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านที่นี่ และ TrueID
6. AIS Play
บริการนี้สำหรับลูกค้า AIS โดยเฉพาะความสามารถที่ทำได้ก็คล้ายๆ กับ TrueMove H ครับ สิ่งที่ต่างคือเรื่องของเนื้อหาในแอปฯ สิทธิพิเศษต่างๆ ที่สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้า AIS เท่านั้น
- ดูหนังได้
- เด่นด้วย HBO GO
- ดูทีวีได้
- มีกีฬาให้ดู
- ซีรีย์
- รองรับ Chromecast
ลูกค้า AIS ดาวน์โหลด AIS Play และดูรายละเอียดเพิ่มเติมของได้ที่นี่
แอปดูหนังอื่น?
ยังมีบริการเพิ่มเติมจากหลายๆ เจ้า เช่น
- PrimeTime – ดูหนังแบบต้องซื้อตั๋วก่อนแล้วค่อยเอาตั๋วไปซื้อหนังเพื่อดูอีกที หลังๆ ไม่ค่อยอัปเดตเลยไม่ได้ใช้แล้ว
- HOOQ – ดูหนังและซีรีย์เช่นกัน จ่ายเป็นรายเดือน ลูกค้า AIS มีสิทธิพิเศษ
- LINE TV – แอปฯนี้ไม่มีหนังแต่จะเป็นรายการทีวีต่างๆ ซะมากกว่า มีซีรีย์ไทยให้ดู ถ้ามีบัญชี LINE แล้วก็เข้าใช้งานได้ฟรีทันที ข้อดีคือรายการทีวีหลายๆ ช่องเริ่มนำเนื้อหามาลงที่ LINE TV แล้ว
- MONOMAXXX – แอปฯจากฝั่งของ MONO29 ค่ายเดียวกับ 3BB มีหนังและซีรีย์ให้เลือกดู ข้อมูลเพิ่มเติม
- Doonee – หนังและซีรีย์ให้เลือกชม
- Viu (วิว) แอปดูซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง พร้อมซับไทย อัปเดตไว ถูกลิขสิทธิ์ (เพิ่มเติมแอปนี้ให้)
ลองเลือกและสมัครใช้งานดูตามความเหมาะสมกับการใช้งานของคุณเองนะครับ
ดูหนังผ่านมือถืออย่าลืมใช้เน็ตแบบไม่อั้นหรือดูผ่าน Wi-Fi
ดูหนังออนไลน์ใช้เน็ตเยอะต้องระวังนะครับเดี๋ยวนี้ทั้งรายเดือนและเติมเงินต่างก็มีโปรโมชั่นเน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีดมาให้เลือกใช้งานกันแล้ว ใครชอบดูออนไลน์รวมไปถึง YouTube ด้วย ควรสมัครแพ็กเกจเหล่านี้ไว้ ถ้าไม่งั้นก็ต้องอาศัย Wi-Fi ในการรับชมนะครับ
ก่อนจากวันนี้ขอฝากไว้
หยุดดูหนังผ่าน Facebook LIVE หรือหนังลิขสิทธิ์ที่ปล่อยใน YouTube
เพื่อสนับสนุนคนทำหนังจะได้มีกำลังใจในการทำงานต่อครับ
บทความโดย iPhoneMod.net
