ช่วงนี้เจอผมในหน้ารีวิวบ่อยเหลือเกิน เบื่อกันหรือยังเนี่ย \(*0*)// วันนี้ผมจะมีมือถือตัวหนึ่งจะแนะนำกัน จาก LG นั่นเอง ซึ่งคราวที่แล้วนั้นเป็น Optimus 2X ส่วนในคราวนี้จะเป็น Optimus Black กัน จุดเด่นของตัวนี้นั้น แตกต่างจากตัวก่อนหรือรุ่นพี่อย่าง Optimus 2X อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเป็นตัวที่มีจุดขายต่างกันตรงที่ว่าไม่ได้เน้นประสิทธิภาพที่สูงมากนักอย่าง Optimus 2X อย่างสิ้นเชิง โดยจุดขายตัวนี้จะเป็นที่หน้าจออย่าง NOVA Display ความบางที่ 6 มม. และน้ำหนักที่ 109 กรัมมากว่า ดังนั้นหากใครชอบพกมือถือที่เบา ๆ บาง ๆ จอสวย ๆ (อย่างผม) น่าจะเหมาะกับ Optimus Black มากกว่า เท่าที่ได้ลองให้สาว ๆ หลายคนสัมผัส XD รู้สึกว่าจะประทับใจกับ Optimus Black มากกว่าตัว Optimus 2X ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจพวกเธอเหมือนกัน ว่าพกกระเป๋าใส่เครื่องสำอาง ใส่ของหนักเป็นโล ๆ ได้แต่พกมือถือน้ำหนักไม่ถึง 5 ขีดไม่ได้ สาว ๆ หนอช่างเข้าใจยากเสียจริง ^^
Optimus Black ชื่อแรกที่ผมให้ทำให้นึกชื่อไทยออกเลยว่า “อัศวินแห่งรัติกาล” ใช่แล้วมันน่าจะชื่อประมาณนี้แหล่ะ – – a เมื่อได้สัมผัสรู้สึกว่าเบาบางมาก ๆ เครื่องดูคมเข้มมีระดับ แต่วัสดุเป็นพลาสติกทำให้ดูด้อยค่าไปนิด แต่เพื่อแลกมากับน้ำหนักที่เบาดุจปุยนุ่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอ NOVA Display ที่มีความสว่างที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ ซึ่งทาง LG ทำออกมาได้ดีจริง ๆ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นตัวเครื่องที่บางที่สุดในโลกเสียอีก แต่เมื่อพอค้นข้อมูลดี ๆ ปรากฎว่า Optimus Black พึ่งเสียแชมป์ไปได้ไม่นานเท่านั้น ซึ่งถ้าหากถามว่าแพ้เท่าไหร่ คงตอบได้ว่าต่างกันแค่ 1-2 มม. เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงนั้นแทบไม่รู้สึกเลย ไม่รู้จะแข่งกันไปทำไม – -* แต่น้ำหนักที่เบาถึง 109 กรัม นี่ให้ความรู้สึกที่ดีมากทีเดียว เพราะโดยปกติผมจับแต่ iPhone4 หรือไม่ก็ HTC HD7 พอได้จับ Optimus Black แล้วจึงรู้สึกว่ามันเบาเหมือนปุยนุ่น
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วยกล้องหน้า ความละเอียด 2MP และเซ็นเซอร์วัดแสง โดยจะมีโลโก้ LG และลำโพงที่ใช้สำหรับฟังเสียงสนทนาจะอยุ่ทางด้านนี้ หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าเรานั้นมองแทบไม่เห็นตัวลำโพงเลย เนื่องจากทาง LG นั้นเก็บงานได้ดีมาก ๆ และใส่ใจในทุกรายละเอียดการซ่อนลำโพงนั้นทำให้เครื่องดูดีขึ้นมากจริง ๆ
บริเวณด้านหลังเป็นพลาสติกด้าน ๆ ที่ไม่ทำให้เกินรอย การจัดวางสมดุลนั้นทำได้ดี มีโลโก้ LG และ Google อยู่คนละฝั่ง มีลำโพงตัวน้อยที่ให้พลังเสียงดีกว่าที่เห็น และกล้องหลัง 5MP ที่ใช้ได้จริง ขนาดภาพที่ 2592 x 1944 pixels พร้อม AutoFocus และ Flash LED ส่วนเรื่องคุณภาพของภาพที่ได้ผมจะแสดงให้เห็นในรีวิวภาคสองครับ
ตัวเครื่องจะมีลักษณะมน ๆ โค้ง ๆ นิด ๆ เพื่อให้เข้ากับสรีระของมนุษย์ โดยแบตฯ ที่ให้มานั้นมี 1500 mAh จากการใช้งานจริงแล้วผมเปิด 3G ทิ้งไว้ทั้งวัน ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก ท่องเว็บนิดหน่อย กลับมาถึงบ้านแบตฯ ก็หมดพอดี ซึ่งผมคิดว่ามันยังน้อยไปนิด ไม่ค่อยตอบโจทย์ผมเท่าไหร่ เพราะถ้าวันไหนเกิดเล่นหนัก ๆ แบตฯ อาจจะอยู่ไม่ถึงวันได้ ดังนั้นหากใครซื้อมาใช้งานเยอะเตรียม Battery Extranal ก็ดีครับ
มาว่าเรื่องกล้องของ Optimus Black ต่ออยากจะบอกว่าแฟลชของ Optimus Black นั้นแรงมากและมีออโต้โฟกัสทำให้ไม่เสียอารมณ์ แต่เท่าที่ลองถ่ายเห็นจะมีการโฟกัสแบบ Manual ได้ด้วย โดยส่วนของด้านกล้องนั้นจะเหนือว่าตัวอื่น ๆ หลายตัวในตลาดเพราะว่ามีไฟแฟลชที่แรงพอตัวนั่นเองครับ ภาพถ่ายออกมาได้ชัด และให้สีที่สดดีมากมาย (พูดด้วยปากคงมองไม่เห็น เดี๋ยวผมจะนำมาแสดงให้ชมกันในภาค 2) สามารถถ่ายวีดีโอ HD ได้ที่ความละเอียด 720P 30 fps ส่วนด้านกล้องหน้ากนั้นก็ให้มาแบบไม่ขี้เหนียวที่ความละเอียด 2MP (บางรุ่นมีกล้องหน้าความละเอียดเพียงแค่ 0.3 MP)
ว่าไปซะยาวครึ่งหน้ากระดาษแล้วลืมสเปคของ Optimus Black เลย มาดูสเปคคร่าว ๆ กันดีกว่าครับ
สเปกของ Optimus Black
- หน่วยประมวลผล (CPU) 1GHz Single Core
- หน่วยความจำ (RAM) 512MB
- ความจุตัวเครื่อง 2 GB รองรับ MicroSD
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว พร้อม NOVA Display ความละเอียด 480×800 พิกเซล (สว่างที่สุดในโลก)
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- ถ่ายภาพ VDO แบบ HD 720P @30fps
- ขนาดเครื่อง 122 x 64 x 9.2 มม. (ความหนาวัดส่วนที่หนาที่สุดของเครื่อง)
- น้ำหนัก 109 กรัม
- รองรับ 3G 900/1900/2100 MHz
- WiFi 802.11 b/g/n (N 2.4Ghz only) พร้อม Wi-Fi Direct™ Technology
- Bluttooth 2.1+EDR
- Gyroscope, A-GPS
- มีเข็มทิศ (Digital Compass)
- ช่องหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- วิทยุ FM
- แบตเตอรี่ 1,500 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 2.2.2 Froyo รองรับการอัพเกรดเป็น 2.3
- ราคาเปิดตัว 13,900 บาท
พอร์ทของ MicroUSB นั้นถูกซ่อนมาทำให้สามารถ เปิด – ปิด ได้ซึ่งผมชอบเอามาก ๆ เลย มีหูฟัง 3.5 มม. มาตรฐานและรูด้านบนน่าจะเป็นไมค์ที่ใช้สำหรับตัดเสียงรบกวน (เดาผิดถูกประการใดโปรดแจ้งด้วยครับ) มาว่าเรื่องความเบาที่เป็นจุดเด่นของเครื่องต่อ อันนี้ถ้าเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นคือ GALAXY S 118 กรัม, ATRIX 4G 135 กรัม, iPhone4 137 กรัม จะเห็นได้ว่า Optimus Black น้ำหนักเพียงแค่ 109 กรัม เท่านั้น สำหรับคนอื่นอาจจะเฉย ๆ แต่สำหรับผู้ที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย และฟังเพลงไปด้วยจะเห็นได้ชัดเลยว่ามันสะดวกที่จะพกพามากกว่า
ด้านข้างของเครื่องมีปุ่มปรับเสียงและ G cencer ที่เมื่อกดค้างแล้วเพียงเราพลิกจอ ซ้าย-ขวา เมนูก็จะไหลตามซึ่งใช้กับหน้า Website ได้ด้วยแหล่ะ *0* // สร้างความสะดวกสบายให้เยอะเลยทีเดียว เมื่อต้องใช้งานมือเดียว เพียงใช้นิ้วกลาง หรือนิ้วชี้ก็กดได้แล้ว XD
อีกหนึ่งคำถามที่มือใหม่หลายคนถามมาคือเรื่องความสว่างของหน้าจอ NOVA Display ที่สว่างที่สุดในโลกมีความสว่างสูงถึง 700 nits ซึ่ง nits เป็นหน่วยวัดแสงชนิดหนึ่ง โดย 1 nits จะเท่ากับ 1 candela ต่อตารางเมตร ซึ่ง 1 แคนเดลา จะมีปริมาณเส้นแรงของแสง = 12.57 ลูเมน (ซึ่งแคนเดลา (Candela, cd) เป็นหน่วยวัดความเข้มแสงสว่างในระบบสากล หมายถึง แห่ง กําเนิดที่เป็นจุดที่ให้ความเข้มของแสงคงที่ 1 แคนเดลาในทุก ๆ ทิศทางที่แสงสว่างปล่อยออกมา หรือ 1 แคนเดลาเป็นปริมาณฟลักซ์ที่แผ่ออกมา 1/683 วัตต์/สเตอเรเดียน ที่ความยาวคลื่น 555 นาโนมิเตอร์ หรือความถี่ 540 x 1012 เฮิรตซ์ในอากาศ หรือปริมาณแสง 1 แคนเดลา เป็นปริมาณแสงที่ปล่องออกมา 1 ลูเมนต่อสเตอ-เรเดียน (steradian) ในทุกทิศทาง หน่วยสเตอเรเดียนเป็นหน่วยของมุมแท่ง ซึ่งมุมแท่ง หมายถึง มุมยอดที่ถูกรองรับด้วยพื้นผิวใด ๆ) งง … ใช่ไหมล่ะ? เอาเป็นว่าผมเลิกอธิบายดีกว่า = =” เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ถ้าจะเปรียบเทียบใกล้ตัวคงต้องเป็น iPhone4 ที่มีความสว่าง 518 nits ส่วน Super Amolet ของ SAMSUNG มีความสว่างที่ 305 nits ร้องอ๋อ … กันใหญ่ ^^ โดยความสว่างของหน้าจอ 700 nits นั้นข้อดีคือเราสามารถที่จะดูหน้าจอในสภาวะแดดจ้า ๆ หรือแสงแรง ๆ อย่างในประเทศไทยได้ และให้ค่าสีที่นุ่มนวลและสมจริงมากกว่า
ความหนาเมื่อเทียบกับเหรียญบาท อาจจะดูภาพถ่ายไม่ค่อยสวยหน่อย ต้องขออภัย หากว่ากันด้วยเรื่อง CPU อาจจะไม่โดดเด่นสู้พี่ใหญ่อย่าง Optimus 2X แต่ว่าแม้จะเป็น Single Core แต่กลับมีความแรงถึง 1Ghz ทำให้ท่องเว็บหรือใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างไม่กระตุก
สรุป
สำหรับ LG Optimus Black เป็นมือถือที่น่าเล่นตัวหนึ่งมาก ๆ ของ LG ซึ่งตัวนี้จะโดดเด่นด้วย NOVA DISPLAY ที่สว่างถึง 700 nits ให้ความคมชัดสูง อีกทั้งยังสู้แสงเอามาก ๆ แสดงค่าเม็ดสีแสดงผลได้นวลตา และสดใส มีความบางที่สามารถใส่กระเป๋าเสื้อได้สบาย ๆ อีกทั้งน้ำหนักที่เบามาก ๆ แบตฯ ยังสามารถอยู่ได้มากกวา 24 ชั่วโมงหากไม่ได้เปิด 3G ตลาดเวลาแบบผม อีกทั้งยังมีปุ่ม G-Key ที่สร้างความแตกต่างและสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ บวกกับราคาเปิดตัวเพียง 13,900 บาท (อาจหาราคาได้ถูกกว่านี้) หากใครกำลังลังเลหามือถือหมื่นกว่าบาทสำหรับมือถือสวย ๆ จอเทพ ๆ อยู่ผมบอกได้เลยว่าตัวนี้ไม่ผิดหวัง
ขอขอบคุณ LG Thailand สำหรับเครื่องทดสอบครับ
เหรียญเก่าจัง
—————–
Dooappdd.com | รีวิว app iPhone & Android แจ่มๆ และน่าสนใจ
ฮ่า ๆ ๆ … แซวซะอายเลย
ระหว่าง 2x กับ black ซื้อรุ่นไหนดีกว่ากันคะ
แล้วแต่นะครับ เพราะมันต่างกันเยอะอยู่ แต่ผมว่าถ้าชอบบาง ๆ เบา ๆ จอสว่างมาก ๆ ไว้สู้แดดกลางวัน ก็ Black ครับ แต่ถ้าใช้งานหนัก ๆ ชอบเล่น ROM ต่าง ๆ ใช้ 2x ก็โอเคอยู่
เร็ว ๆ นี้จะมี Optimus 3D มาเป็นตัวเลือกด้วยครับ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาก็แนะนำให้ซื้อเลย เพราะทำออกมาได้ดีมาก ๆ ในเรื่องของ Software
ใช่ ได้ ๆ