AirDrop คือ ฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราส่ง ไฟล์ รูปถ่าย, วีดีโอ, รายชื่อ และอื่น ๆ จาก iPhone, iPad, Mac เครื่องนึงไปอีกเครื่องที่อยู่ใกล้ ๆ กัน AirDrop สามารถส่งอะไรได้บ้าง? และตั้งค่าอะไรได้อีก? มาดูกัน
ทริคการใช้งาน AirDrop (อัปเดต 2022)
AirDrop มีประโยชน์อย่างไร ?
สามารถใช้ AirDrop แชร์รูปภาพ ไฟล์ รายชื่อผู้ติดต่อ เพลง แอป และอื่น ๆ ไปยังอุปกรณ์ iPhone, iPad และ Mac ที่อยู่ใกล้เคียงได้ เป็นการส่งข้อมูลแบบไร้สาย ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต ใช้เพียง Bluetooth และ Wi-Fi เท่านั้น
อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน AirDrop
- iPhone 5
- iPhone 5s
- iPhone 5c
- iPhone 6, 6 Plus
- iPhone 6s, 6s Plus
- iPhone SE รุ่นที่ 1
- iPhone 7, 7 Plus
- iPhone 8, 8 Plus
- iPhone X
- iPhone XS, XS Max, XR
- iPhone 11, 11 Pro, 11 Pro Max
- iPhone SE รุ่นที่ 2
- iPad 4 หรือใหม่กว่า
- iPad mini 1, 2, 3, 4, 5
- iPad Air ทุกรุ่น
- iPad Pro ทุกรุ่น
- iPod touch 5th gen, 6th gen
- MacBook Pro (ปลายปี 2008) หรือใหม่กว่า ยกเว้น MacBook Pro (17 นิ้ว ปลายปี 2008)
- MacBook Air (ปลายปี 2010) หรือใหม่กว่า
- MacBook (ปลายปี 2008) หรือใหม่กว่า ยกเว้น MacBook สีขาว (ปลายปี 2008)
- iMac (ต้นปี 2009) หรือใหม่กว่า
- Mac mini (กลางปี 2010) หรือใหม่กว่า
- Mac Pro (ต้นปี 2009 พร้อมการ์ด AirPort Extreme หรือกลางปี 2010)
อุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องติดตั้ง iOS 7, iPadOS 13, macOS X 10.10 หรือใหม่กว่า แต่ถ้าจะส่ง AirDrop เฉพาะ “รายชื่อเท่านั้น” จะต้องเป็น iOS 10, iPadOS, macOS 10.12
หากจะใช้งาน AirDrop ต้องเปิดการตั้งค่าอะไรบ้าง ?
หากจะใช้งาน AirDrop จะต้องเปิดทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi บนอุปกรณ์ของเราก่อน จะต้องเปิดทั้งสองอย่าง จะเปิดแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ และให้ปิดการแชร์ฮอตสปอตส่วนบุคคลก่อน
วิธีใช้งาน AirDrop แบบง่าย ๆ
1.เลือกสิ่งที่อยากแชร์
2.แตะแชร์หรือปุ่มแชร์
3.แตะปุ่ม AirDrop
4.เลือกบุคคลหรืออุปกรณ์ที่จะแชร์ไป
5.เจ้าของอุปกรณ์อีกเครื่องกด “ยอมรับ” หรือ “Accept”
เราสามารถส่งอะไรผ่าน AirDrop ได้บ้าง ?
- รูปภาพและวิดีโอ
- ไฟล์
- รายชื่อผู้ติดต่อ
- โน้ต
- ลิงก์เว็บไซต์ Safari
- แผนที่
- แอป
- เพลงและอัลบั้มบน Apple Music
- Podcasts
- รหัสผ่าน Passkey
- และอื่น ๆ
โหมดของการแชร์ใน AirDrop
- ปิดการรับ – คนอื่นไม่สามารถมองเห็นอุปกรณ์ของเราและไม่สามารถส่ง AirDrop มาให้เราได้
- รายชื่อเท่านั้น (Contacts Only) – จะแชร์ได้เฉพาะรายชื่อที่เรามีอยู่ในรายชื่อติดต่อของ iCloud ดังนั้นเราจำเป็นต้องล็อคอิน Apple ID เพื่อที่จะได้ใช้งาน iCloud ได้
- ทุกคน (Everyone) – สามารถส่งให้ได้ทุก ๆ คนที่อยู่ใกล้ ที่เปิดรับ AirDrop อยู่
AirDrop ส่งได้ไกลขนาดไหน ?
ระยะในการส่ง AirDrop สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 9.1 เมตร ดังนั้น หากนั่งอยู่ในห้องเดียวกันในระยะห่างกันไม่เกิน 9.1 เมตร อุปกรณ์ของเราก็จะสามารถตรวจจับและส่ง AirDrop หากันได้
AirDrop ใช้เวลาในการส่งเท่าไหร่ ?
ระยะเวลาในการส่ง AirDrop ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของไฟล์ที่เราส่ง หากไฟล์มีขนาดใหญ่และมีจำนวนมากก็อาจจะต้องใช้เวลานานซักนิดนึง
ส่งข้อมูลผ่าน AirDrop ปลอดภัยไหม ?
การส่ง AirDrop ระหว่างอุปกรณ์ Apple จะมีการเข้ารหัสไฟล์ทุกครั้ง ดังนั้นก็แปลว่าปลอดภัยแน่นอน
ชื่อ AirDrop อ้างอิงจากอะไร
หากเราส่ง AirDrop ให้คนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ชื่อ AirDrop ของเราจะอ้างอิงตามชื่อ iPhone เช่น หากเราตั้งชื่อ iPhone ว่า “Tom MBP M1 Pro” ชื่อ AirDrop ของเราก็จะเป็น “Tom MBP M1 Pro” เช่นกัน
หากเราส่ง AirDrop ให้คนที่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ชื่อ AirDrop ของคน ๆ นั้นจะอ้างอิงตามชื่อที่เราบันทึกไว้ในรายชื่อผู้ติดต่อ และชื่อนั้นจะขึ้นอยู่ที่เมนู “ผู้คน”
หากไม่สามารถใช้งาน AirDrop ได้ลองปิดและเปิด Bluetooth และ Wi-Fi ซัก 1 รอบ และถ้าหากว่าเพื่อนยังหา AirDrop ของเราไม่เจอก็ให้ลองรีสตาร์ทเครื่องของเรา แล้วลองค้นหาดูอีกรอบ
ทั้งหมดนี่เป็นทริคการใช้งาน AirDrop ที่ควรรู้ สามารถนำไปปรับใช้ได้เลยค่ะ