เปิดตัวไปเมื่อ 20 มี.ค. 2019 และผ่านไปเพียง 2 สัปดาห์ AirPods 2 ก็ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ราคา 6,500 บาทสำหรับรุ่น Lightning และ 7,790 บาทสำหรับ Lightning + Wireless Charging Case สำหรับรอบนี้พาชม Lightning ก่อนเนื่องจากรุ่น Wireless Charging นั้นยังหาของไม่ได้ 😀
พรีวิวแกะกล่อง AirPods 2 รุ่น Lightning มีอะไรใหม่ ในกล่องมีอะไรบ้าง วางขายแล้ววันนี้
แกะกล่อง AirPods 2 รุ่น Lightning
อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง
- กล่องชาร์จ Model A1602
- หูฟัง 2 ข้าง หูด้านซ้ายรหัส A2031, หูด้านขวารหัส A2032
- สาย USB-A to Lightning ความยาว 1 เมตร
- คู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
โดยรวมแล้วอุปกรณ์ของ AirPods 2 นั้นทุกอย่างที่ให้มาแทบจะเหมือนรุ่นแรก (ปี 2016) ความต่างกันก็เพียงหูฟัง Model ใหม่เท่านั้น แต่เห็นหน้าตาเหมือนกันแบบนั้นจะบอกว่าการปรับปรุงฟีเจอร์ภายในนั้นมีค่อนข้างเยอะ
ส่วนวิธีสังเกตหูฟัง AirPods 2 ให้ดูที่รหัส Model ซึ่งระบุไว้ตามตำแหน่งในภาพ
AirPods 2 : Model A2031, A2032
สรุปฟีเจอร์เด่นของ AirPods 2
- ใช้ชิป H1 ใหม่ คุยนานขึ้น 50% เชื่อมต่อได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า
- มีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ (รุ่นเคสชาร์จแบบไร้สาย)
- เข้าใช้งาน Siri ได้รวดเร็วด้วยการพูดว่า “หวัดดี Siri”, Hey Siri หรือการตั้งค่าแตะสองครั้ง
- ชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเคสชาร์จ เพียงใส่ในเคส 15 นาที ก็ใช้ฟังได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง หรือสนทนาได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมง
- เคสสามารถชาร์จได้ทั้งแบบไร้สายโดยใช้แผ่นรองชาร์จที่รองรับมาตรฐาน Qi หรือชาร์จผ่านหัวต่อ Lightning (รุ่นเคสชาร์จแบบไร้สาย)
- ให้เสียงเต็มอิ่มคุณภาพสูง ทั้งเสียงที่ได้ยินและเสียงพูด
- สลับเปลี่ยนระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
- ไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่งคู่
ประสบการณ์ใช้งานเบื้องต้นที่ได้สัมผัส
ขอแชร์ประสบการณ์เบื้องต้นหลังจากที่ได้ทดสอบใช้งาน AirPods 2 เมื่อเปรียบเทียบกับ AirPods 1
- การเชื่อมต่อเร็วขึ้นในขั้นตอนการจับคู่กับ iPhone
- เมื่อนำหูฟังออกจากล่องและใส่หูใช้เวลาเร็วขึ้นกว่ารุ่นแรกในการพร้อมใช้งาน
- คุณภาพเสียงดีกว่ารุ่นแรกเล็กน้อย (เดี๋ยวขอเปรียบเทียบให้มากกว่านี้แล้วจะรีวิวให้ทราบอีกครั้ง)
- สลับฟังเพลงจากอุปกรณ์หลายตัว เช่น สลับระหว่าง iPhone, MacBook Pro ได้รวดเร็ว
- รองรับการสั่งการจาก Siri เพียงตั้งค่า Hey Siri หรือ หวัดดี Siri ใน iPhone จากนั้นก็พูดผ่าน AirPods ได้เลย เพียงเท่านี้ Siri ที่ iPhone ก็จะติดขึ้นมาพร้อมรับคำสั่งต่อไป
- แบตเตอรี่ใช้การได้นานขึ้น ส่วนฟีเจอร์การชาร์จนั้นจะเปรียบเทียบให้ทราบภายหลัง
รายละเอียดและรีวิวการใช้งานจะรีวิวให้ทราบในโอกาสต่อไปครับ