AIS ร่วมกับภาครัฐ ยกระดับความเข้มข้น สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามพรมแดน รื้อถอนสัญญาณแนวชายแดนสระแก้ว พร้อมเดินหน้าแก้ไขเสาส่งสัญญาณ ตามมาตรการภาครัฐเพิ่มอีก 9 จังหวัด
AIS ร่วมกับภาครัฐ สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามพรมแดน พร้อมเดินหน้าแก้ไขเสาส่งสัญญาณตามมาตรการภาครัฐ
AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เดินหน้าสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดำเนินการรื้อถอนสัญญาณบริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมติดตามการปฏิบัติงานและมอบนโยบาย เพื่อสนับสนุนแผนการแก้ไขเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณแนวชายแดนที่มีความเสี่ยง ภายใต้ยุทธการอรัญ 68 ระเบิดสะพานโจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมเดินหน้าปฏิบัติการแก้ไขเสาส่งสัญญาณเพิ่มเติมในพื้นที่ 9 จังหวัด ตามมาตรการของ กสทช.
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสาร
เอไอเอสพร้อมสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ และ กสทช. อย่างเข้มงวดเสมอมา ในประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขและควบคุมเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยงนั้น ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบกวดขัน และปฏิบัติตามมาตรการของ กสทช. อย่างเคร่งครัดในพื้นที่เสี่ยง บริเวณชายแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอ เสร็จสิ้นเรียบร้อยตั้งแต่กลางปี 2567 รวมถึงยืนยันการเชื่อมต่อจุดสัญญาณกับผู้ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้านต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเช่นกัน เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณก่ออาชญากรรมข้ามแดนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ตามที่ กสทช. ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อยกระดับเพิ่มความเข้มงวดไปอีกขั้น ขอให้ดำเนินการแก้ไขเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อได้รับคำสั่งเพิ่มเติมดังกล่าว AIS ได้ดำเนินการทันที ได้แก่ พื้นที่ตลาดเบญจวรรณ (ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 1 ภายในระยะ 50 เมตรจากเขตแดน) AIS ดำเนินการตามมาตรการเรียบร้อยแล้ว โดยรื้อถอนตัวกระจายสัญญาณทั้งหมดออกแล้ว และพื้นที่บ้านโคกสะแบง (ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 2 อยู่ห่างจากเขตแดน 300 เมตร) AIS ดำเนินการปิดสัญญาณทั้งหมดแล้ว และดำเนินการรื้อถอนตัวสายอากาศ (Antenna) ทั้งหมดออกแล้ว โดย AIS ได้เตรียมดูแลเครือข่ายการใช้งานให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้เตรียมรถสถานีฐานเคลื่อนที่และติด Small Cell เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้
ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดให้ดำเนินการแก้ไขเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนเพิ่มเติมใน 9 จังหวัด ได้แก่
- ด่านเจดีย์สามองค์/พุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี
- แม่สอด/พบพระ/แม่ระมาด จ.ตาก
- อรัญประเทศ/บ้านโคกสะแบง จ.สระแก้ว
- แม่สาย/เชียงของ/เชียงแสน จ.เชียงราย
- กาบเชิง จ.สุรินทร์
- บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
- เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
- เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
- โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
- เมืองระนอง จ.ระนอง
โดยมีกำหนดตามแผนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ประกอบด้วย การรื้อถอนเสาสัญญาณที่อยู่ในระยะไม่เกิน 50 เมตรจากชายแดน กรณีเสาที่อยู่ในระยะ 1 กม. จากชายแดน ให้ลดกำลังส่ง และปรับเสาให้สูงไม่เกิน 15 เมตร และเสาที่อยู่ในระยะไม่เกิน 3.5 กม. ให้ตั้งเสาอากาศความสูงไม่เกิน 30 เมตร”
นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้ร่วมมือกับ กสทช. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการตำสวจสอบสวนกลาง ทำการปิด IP Address ที่คนร้ายใช้ในการกระทำผิดอีกด้วย
การควบคุมโครงข่ายสื่อสารในพื้นที่เสี่ยงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการใช้งานในลักษณะที่ผิดกฎหมาย สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ยาเสพติด และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ เอไอเอส ขอยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนทุกภารกิจของภาครัฐ เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามกลุ่มขบวนการผิดกฎหมาย พร้อมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้แก่ประเทศและประชาชนทุกคน