ฟีเจอร์ความปลอดภัยสุดเจ๋งสำหรับผู้ใช้ Android เสริมความมั่นใจเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยขึ้น แม้จะถูกขโมยแต่ข้อมูลสำคัญปลอดภัย!
Android 15 ล็อคเครื่องทันทีเมื่อรู้ว่าสมาร์ตโฟนของคุณถูกขโมย
Android 15 มีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยป้องกันการถูกขโมยโทรศัพท์ ชื่อว่า Theft Detection Lock โดยเน้นให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้และข้อมูลส่วนตัวในทุกขั้นตอน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากที่อุปกรณ์ถูกขโมย
ฟีเจอร์นี้พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาการถูกขโมยโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่นในกรณีของ Janine Roberta Ferreira ที่ถูกขโมยโทรศัพท์ขณะจอดรถในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ทำให้เธอต้องสูญเสียข้อมูลสำคัญและรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อคิดถึงข้อมูลธนาคารที่อยู่ในโทรศัพท์ของเธอ
ฟีเจอร์ Theft Detection Lock ใช้ AI เพื่อล็อคเครื่องเมื่อถูกขโมย
ฟีเจอร์สำคัญใน Android 15 คือ ที่ใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์การเคลื่อนไหวและสัญญาณต่าง ๆ ของอุปกรณ์เพื่อตรวจจับความเสี่ยงของการขโมย เมื่อระบบตรวจจับว่าโทรศัพท์อาจถูกขโมย ฟีเจอร์นี้จะล็อคหน้าจออัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้โจรเข้าถึงข้อมูลได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์เซ็นเซอร์ในโทรศัพท์ ทำให้การตรวจจับและการล็อคเครื่องเป็นไปอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Offline Device Lock ที่ช่วยป้องกันการใช้งานอุปกรณ์ในกรณีที่โจรพยายามตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อหลีกเลี่ยงการลบข้อมูลระยะไกลผ่าน Find My Device โดยฟีเจอร์นี้จะทำการล็อคเครื่องหากตรวจพบว่าอุปกรณ์ถูกตัดการเชื่อมต่อเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ในมือโจร
การป้องกันหลังจากถูกขโมยด้วย Remote Lock
หากอุปกรณ์ของผู้ใช้ถูกขโมย ฟีเจอร์ Remote Lock สามารถช่วยล็อคเครื่องได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ Android.com/lock แม้ว่าผู้ใช้จะลืมรหัสผ่านบัญชี Google ของตนเองก็สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ยืนยันตัวตนแล้วในการล็อคเครื่อง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อคเครื่องได้ระหว่างที่กำลังพยายามกู้คืนการเข้าถึงผ่าน Find My Device ซึ่งมีฟีเจอร์ในการค้นหา ล็อค หรือแม้แต่ลบข้อมูลในเครื่องจากระยะไกล
การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลลับก่อนที่การขโมยจะเกิดขึ้น
นอกเหนือจากฟีเจอร์การล็อคเมื่อถูกขโมยแล้ว Android 15 ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูลก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง โดยทำให้การเข้าถึงการตั้งค่าที่สำคัญต่างๆ เป็นไปได้ยากขึ้น เช่น
• การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใน Find My Device ต้องใช้ PIN, รหัสผ่าน หรือการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์
• การพยายามล็อคอินด้วยรหัสที่ผิดหลายครั้งติดต่อกันจะทำให้อุปกรณ์ล็อคตัวเองเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
• ฟีเจอร์ป้องกันการรีเซ็ตอุปกรณ์ขั้นสูง ทำให้โจรไม่สามารถรีเซ็ตโทรศัพท์ได้หากไม่มีรหัสผ่านบัญชี Google ลดความเสี่ยงจากการรีเซ็ตเพื่อนำไปขายต่อ
ในช่วงปลายปีนี้จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Identity Check ซึ่งเพิ่มการป้องกันอีกขั้นโดยต้องการการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์เมื่อเข้าถึงการตั้งค่าบัญชี Google หรือการเปลี่ยนรหัสผ่าน เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้ว่ารหัส PIN ของอุปกรณ์จะถูกขโมยไป
ฟีเจอร์ป้องกันการขโมยใน Android 15 ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ ทำให้โทรศัพท์ Android ของคุณเป็นเป้าหมายที่ยากขึ้นสำหรับโจร พร้อมให้ความมั่นใจในการใช้งานที่ปลอดภัยขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้แล้วในอุปกรณ์ที่รองรับ Android 10 ขึ้นไปผ่านการอัปเดตของ Google Play Services
ที่มา – GoogleBlog