Nothing เปิดตัวหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ Nothing Ear (2) อัปเกรดตัดเสียงรบกวน, รองรับ Hi-Res 24bit, ใช้งานได้นานสุด 36 ชม. ในราคาที่เพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่ 5,490 บาท
เปิดตัว Nothing Ear (2) หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nothing
ไฮไลท์ Nothing Ear (2)
- น้ำหนักเบา 4.5 กรัม
- รองรับเสียง Hi-Res 24bit
- (ANC) ตัดเสียงรบกวน ตามสภาพแวดล้อม
- โปรไฟล์เสียงส่วนตัว
- ฟังได้นานสูงสุด 36 ชม.
- เคสชาร์จ Type-C
- สีขาว
- ราคา ฿5,490
หลายคนน่าจะเคยได้ยิน หรือ เคยเห็นสินค้าจากแบรนด์ของ Nothing กันมาบ้างแล้ว เช่นตัว Nothing Phone (1) ดีไซน์เอกลักษณ์ ไม่เหมือนสมาร์ตโฟนทั่วไปในท้องตลาด
ด้วยเอกลักษณ์ฝาหลังโปร่งใส สามารถมองทะลุเห็นรายละเอียดของด้านหลังเครื่องได้ และ ลูกเล่นไฟ LED ด้านหลังที่เรียกว่า Glyph Interface สามารถตั้งค่าการตอบสนองต่อสายเรียกเข้า หรือ การแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้
Nothing Phone (1) สมาร์ตโฟนดีไซน์ล้ำ ลูกเล่น น่าสนใจ ที่ไม่มีใครเหมือน
ล่าสุดทาง Nothing ก็ได้เปิดตัว Nothing Ear (2) หูฟังไร้สายที่อัปเกรดประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งานเข้ามาจากรุ่นแรกมากขึ้นกว่าเดิม จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลย
คงเอกลักษณ์ดีไซน์ความโปร่งใส
ดีไซน์ของ Nothing Ear (2) นั้นยังคงดีไซน์เหมือนรุ่นก่อนหน้า และเป็นหูฟังชนิด In-Ear เช่นเดิม คงความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของความโปร่งใส ออกแบบมาให้เราได้เห็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้านในของหูฟัง ใครที่ชื่นชอบดีไซน์นี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลย
ตัวเคสชาร์จออกแบบใหม่ให้มีขนาดที่เล็กลง และน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม
แม้ว่าดีไซน์จะยังคงเหมือนเดิม แต่การควบคุมตัวหูฟังนั้นได้เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ระบบสัมผัส ตอนนี้ Nothing Ear (2) ปรับมาใช้การควบคุมแบบ กด แทน
- กดครั้งเดียว: เล่น/หยุด, รับสาย/วางสาย
- กด 2 ครั้ง: ไปข้างหน้า, ปฏิเสธสาย
- กด 3 ครั้ง: ย้อนกลับ
- กดค้างไว้: สลับระหว่างโหมดการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอก
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานมากขึ้น
Nothing Ear (2) รองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res สำหรับการเล่นสูงสุด 1Mbps และความถี่ 24 bits/192 kHz และรองรับ LHDC 5.0 codec จึงทำให้รายละเอียดเสียงที่ได้ยินนั้นมีรายละเอียดสูง สมจริง ไม่โดนลดทอนคุณภาพ
ไดรเวอร์เสียงขนาด 11.6 มม. และ Dual Chamber ทำให้ได้เสียงที่ได้ยินจากหูฟังตัวนี้นั้นเสียงเบสทรงพลัง และเสียงสูงชัดเจน ทาง Nothing ได้บอกว่าเหมือนเราฟังเสียงอยู่ในสตูดิโอเลยทีเดียว
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ของ Nothing Ear (2) นั้นมีให้เราใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 40db สามารถกดสลับ ANC ได้ทั้งหมด 3 ระดับ หรือเปิด Adaptive Mode ที่จะตรวจจับสิ่งรบกวนในสภาพแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องปรับระดับเสียง หรือสามารถที่ปรับแต่ง ANC ในแบบเฉพาะตัวได้อีกด้วย
ใช้งานพูดคุยให้เสียงที่ชัดเจนด้วย เทคโนโลยี Clear Voice Technology พร้อมไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว
Nothing Ear (2) อัปเกรดความสามารถในการทนเหงื่อทนน้ำได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยตัวหูฟังมีการทนเหงื่อทนน้ำที่ระดับ IP54 และ เคสชาร์จอยู่ที่ระดับ IP55
ใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน
หนึ่งในจุดเด่นของหูฟังไร้สายตัวนี้เลยก็คือความสามารถในการฟังเพลง ที่ใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน
- เล่นโดยที่ปิด ANC: สูงสุดถึง 36 ชั่วโมงเมื่อชาร์จกับเคส และสูงสุด 6.3 ชั่วโมงเมื่อใช้กับหูฟังอย่างเดียว
- เล่นโดยที่เปิด ANC: สูงสุดถึง 22.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จกับเคส และสูงสุด 4 ชั่วโมงเมื่อใช้กับหูฟังอย่างเดียว
- สนทนาโดยที่ปิด ANC: สูงสุดถึง 20.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จกับเคส และสูงสุด 3.5 ชั่วโมงเมื่อใช้กับหูฟังอย่างเดียว
- สนทนาโดยที่เปิด ANC: สูงสุดถึง 17.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จกับเคส และสูงสุด 3 ชั่วโมงเมื่อใช้กับหูฟังอย่างเดียว
- การชาร์จด่วนโดยที่ปิด ANC: 10 นาทีใช้งานได้ 8 ชั่วโมง
รองรับการชาร์จแบบใช้สาย USB Type-C และการชาร์จแบบไร้สาย (Qi) สูงสุด 2.5W (สามารถชาร์จแบบย้อนกลับกับอุปกรณ์ที่รองรับได้)
สีและราคา
สำหรับสีที่มีให้เลือกของ Nothing Ear (2) นั้น ณ ปัจจุบันมีเพียงสีขาวสีเดียว (ต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่มี สีขาว และ สีดำให้เลือก) และมีราคาอยู่ที่ 5,490 บาท สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : หน้าเว็บไซต์ Nothing Ear (2)