Apple ยอมจ่าย 30 ล้านดอลลาร์ให้พนักงานในคดีความเก่า เรื่องนโยบายการตรวจกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวก่อนออกจากหน้าร้าน (Apple Store)
Apple ยอมจ่าย 30 ล้านดอลลาร์ จบคดีความ
คดีความนี้เกิดขึ้นมา 8 ปีแล้ว โดย Apple ถูกฟ้องร้องตั้งแต่ปี 2013 เรื่องนโยบายการตรวจกระเป๋าและสิ่งของส่วนตัวผู้ใช้ ซึ่ง Apple ก็ได้ยกเลิกนโยบายนี้ไปในปี 2015
ประเด็นที่ Apple ถูกฟ้องร้อง คือ พนักงานจะถูกตรวจค้นกระเป๋า, เป้สะพายหลัง, กระเป๋าเอกสาร และอุปกรณ์ Apple ส่วนตัวของผู้ใช้ก่อนที่จะออกจากหน้าร้าน
พนักงานผู้ฟ้องร้องเผยว่าในบางครั้งต้องรอนานถึง 45 นาทีกว่าจะตรวจสอบเสร็จซึ่งใช้เวลานานมาก และทาง Apple เองก็ไม่ได้จ่ายเงินชดเชยเวลานั้นให้, ส่วน Apple เองก็ชี้แจงว่านโยบายการตรวจค้นนั้นก็เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานไม่ได้ขโมยสิ่งของซึ่งบางชิ้นเป็นความลับ และรายงานเผยว่าคำร้องเรียนนี้เคยไปถึง Tim Cook แล้วแต่ก็ไม่ได้รับการใส่ใจ
คดีความนี้ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งในปี 2020 และศาลตัดสินว่า Apple ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ โดย Bloomberg เผยว่า Apple ต้องจ่ายเงิน 29.9 ล้านดอลลาร์และทาง Apple เองก็ยินยอมเพื่อจบคดีนี้
พนักงานที่เข้าข่ายที่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้มีมากถึง 12,000 รายทั้งอดีตและพนักงานปัจจุบัน ซึ่งบางคนจะได้รับเงินชดเชยสูงถึง 1,200 ดอลลาร์