Zakura Kim
นอกจาก Apple จะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air 4 และ iPad Gen 8 แล้ว Apple ยังได้เปิดตัวบริการใหม่ชื่อว่า “Apple One” อีกด้วย คืออะไรนั้น ไปชมกัน
Apple One รวมบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade, iCloud และบริการอื่น ๆ เข้าด้วยกันในแผนเดียว
- Apple One เป็นการรวมบริการของ Apple ทั้งหมดมาให้ผู้ใช้รับสมัครในแผนเดียว โดยจะรวมบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud มาไว้ในแผนเดียว (ต่างประเทศจะรวม Apple New+ และ Fitness+ ด้วย)
- มี 2 แพ็กเกจ ได้แก่ Individual และ Family
- แพ็กเกจ Individual จะรวมบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud ขนาด 50 GB รับสมัครในราคา 225 บาทต่อเดือน
- แพ็กเกจ Family จะรวมบริการ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud ขนาด 200 GB รับสมัครในราคา 295 บาทต่อเดือน รองรับการแชร์ในครอบได้สูงสุด 6 คน
- ทดลองใช้บริการ Apple One ฟรี 30 วัน
- Apple One เปิดให้บริการช่วงปลายปี 2020
บริการใหม่ Apple One
Apple ประกาศเปิดตัว Apple One วิธีการที่ง่ายที่สุดในการรับบริการแบบสมัครสมาชิกทั้งหมดของ Apple ตั้งแต่ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade ไปจนถึง iCloud โดยรวมทั้งหมดไว้ในแผนที่เรียบง่ายเพียงแผนเดียว ผู้ใช้ในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคสามารถทำการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว เพื่อเพลิดเพลินกับบริการต่าง ๆ ของ Apple ที่ตนเองชื่นชอบได้บนหลากหลายอุปกรณ์ อันได้แก่ iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV และ Mac
Eddy Cue รองประธานอาวุโสฝ่ายซอฟต์แวร์อินเทอร์เน็ตและบริการกล่าวว่า “Apple One ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับบริการแบบสมัครสมาชิกของ Apple อย่าง Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade, iCloud และอื่น ๆ ได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย” “เมื่อใช้ Apple One คุณจะสามารถเข้าถึงความบันเทิงที่ดีที่สุดของ Apple ได้บนอุปกรณ์โปรดทุกเครื่องของคุณผ่านการสมัครสมาชิกง่าย ๆ เพียงครั้งเดียว”
ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ลูกค้าที่มีการสมัครสมาชิก Apple จะได้รับการแนะนำแผน Apple One ที่เหมาะสำหรับแต่ละคน เพื่อที่ลูกค้าจะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวบนอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องและรับบริการได้มากขึ้นในราคาที่ถูกลง
Individual ประกอบด้วย Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ขนาด 50 GB ในราคา 225 บาทต่อเดือน
Family ประกอบด้วย Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ขนาด 200 GB ในราคา 295 บาทต่อเดือน และสามารถแชร์ภายกับสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุด 6 คน
Apple One มาพร้อมช่วงทดลองใช้ฟรีนาน 30 วันสำหรับทุกบริการที่ลูกค้าไม่ได้มีอยู่แล้ว ลูกค้าที่ใช้ Apple One จะได้รับใบแจ้งราคาเพียงหนึ่งใบต่อเดือน และสามารถเปลี่ยนหรือยกเลิกแผน Apple One ได้ง่าย ๆ ทุกเมื่อ เมื่อใช้แผน Family สมาชิกครอบครัวสูงสุด 6 คนจะสามารถเข้าถึงบริการทั้งหมดที่รวมอยู่ในแผนได้ด้วยบัญชีและการตั้งค่าส่วนตัวของแต่ละคน
เมื่อใช้ Apple One ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงความบันเทิง ข่าว ฟิตเนส และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลคลาวด์ที่ดีที่สุดได้ ซึ่งได้แก่
Apple Music มาพร้อมเพลงกว่า 70 ล้านเพลง เพลย์ลิสต์หลายพันรายการ รายการแนะนำรายวันที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีระดับแถวหน้าของโลก วิทยุ Apple Music ที่ล้ำสมัย ตลอดจนคุณสมบัติสุดล้ำอย่างเนื้อร้องที่ซิงค์กับเวลา
Apple TV+ ศูนย์รวม Apple Originals จากผู้สร้างที่เปี่ยมจินตนาการและได้รับการยกย่องมากที่สุดในทุกวันนี้ รายการที่ผลิตขึ้นมาเพื่อ Apple TV+ โดยเฉพาะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่าง ๆ กว่า 100 รายการ ซึ่งเป็นการเข้าชิงรางวัลเอมมีถึง 18 รางวัล มากกว่าบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ ทั้งหมดในช่วง 10 เดือนแรกนับจากเปิดตัว
Apple Arcade เปิดให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมแสนสนุกกว่า 100 เกมได้อย่างไม่จำกัด ทั้งใน iPhone, iPad, iPod touch, Mac และ Apple TV โดยไม่มีโฆษณาหรือการซื้อภายในแอพ
iCloud จะจัดเก็บรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ และรายการอื่นๆ ของลูกค้าไว้อย่างปลอดภัยและพร้อมใช้งานในอุปกรณ์ทุกเครื่อง
ราคาและความพร้อมให้บริการ
ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป แผนแบบบุคคลและแบบครอบครัวของ Apple One จะพร้อมให้บริการในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาค เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว ลูกค้าจะสามารถเพลิดเพลินไปกับบริการต่าง ๆ ที่รวมอยู่ใน Apple One ได้ในทุกแพลตฟอร์มที่สามารถรับบริการดังกล่าวได้
แผน Apple One แบบบุคคลจะช่วยให้คุณประหยัดได้อย่างน้อย 137 บาทต่อเดือน ในขณะที่แผนแบบครอบครัวจะช่วยให้ประหยัดได้อย่างน้อย 201 บาทต่อเดือน โดยจำนวนเงินที่ประหยัดได้นี้จะอิงจากราคารายเดือนตามมาตรฐาน
Apple มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสำหรับส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัวเครื่อง Macintosh ในปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch สี่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple — iOS, OS X, watchOS และ tvOS — ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ Apple และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลด้วยบริการที่ก้าวล้ำรวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple นับแสนคนทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อให้โลกเป็นโลกที่ดีกว่า
