iOS 11 เปิดให้ใช้งานจริงก็ผ่านมาถึงวันนี้ก็ 6 เดือนแล้ว ระบบ AR ที่มีใน iPhone iPad นั้น สรุปว่ามันใช้งานได้จริงไหม เอาไปทำประโยชน์อะไรได้หรือว่าหรือแค่ใช้เล่นไปขำๆ เท่านั้น วันนี้ทีมงาน iMod มีบทวิเคราะห์สั้นๆ มาให้ได้อ่านกันครับ
บทวิเคราะห์ AR บน iPhone ใช้งานได้จริงหรือแค่ของที่เอาไว้โชว์เล่นขำๆ
ตั้งแต่งาน WWDC2017 เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วทาง Apple ได้ประกาศรุกหนักในเรื่องของ Augmented Reality หรือที่เราเรียกชื่อสั้นๆ ว่า AR ทำให้หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้และหลังเปิดตัว iOS 11 ให้ใช้งานเมื่อเดือนกันยายนปีเดียว จึงทำให้ระบบ iOS ของ Apple นั้นเป็นแฟลตฟอร์ม AR ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนของ iPhone, iPad ที่มีอยู่ทั่วโลกหากอัปเดตแล้วจะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ทันที
AR คืออะไร?
AR (Augmented Reality) หรือ AR เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual) ซึ่งจะทำให้ภาพที่เห็นในจอกลายเป็นวัตถุ 3 มิติลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง
Apple ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยี AR ได้ง่ายขึ้นด้วยการทำให้ iOS 11 นั้นรองรับความสามารถนี้ เราเพียงดาวน์โหลดแอปที่รองรับ AR จากนั้นก็นำไปใช้งานได้เลยเช่น ใช้ iPhone ในการวัดความยาวของวัตถุหรือพื้นผิว, ใช้ iPad ส่องไปยังผนังบ้านแล้วลองเปลี่ยนสีให้กับผนังนั้นเพื่อดูว่ามันสวยงามและเข้ากันไหมก่อนที่จะลงสีจริง หรือ ส่อง iPhone, iPad ลงบนพื้นที่ว่างๆ แล้วดูภาพ 3 มิติของอวัยวะภายในร่างกายของมนุษย์ได้ซึ่งมันดีมากกับเหล่าแพทย์และนักศึกษาแพทย์ทั้งหลาย ฯลฯ
รู้จัก AR กันไปแล้ว เรามาต่อกันเลยกับหัวข้อ “เจ้า AR บน iPhone ใช้งานได้จริงหรือแค่ของที่เอาไว้โชว์เล่นขำๆ” กันแน่!!
ผมได้ตั้งคำถามไว้ในกลุ่ม iPhone User Thailand เพื่อถามความเห็นสมาชิกเกี่ยวกับเรื่อง AR ก็ได้คำตอบมาประมาณนี้ครับ
บางคนไม่รู้จัก AR, บางคนใช้บ้างช่วงแรกๆ แต่เจอว่าแบตหมดเร็วเครื่องร้อนไวก็เลยไม่ได้ใช้, บ้างก็ใช้ตามโอกาส ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรและใช้งานยังไง และก็คงไม่ค่อยเห็นตัวอย่างการนำไปใช้ประโยชน์อย่างจริงๆ จังๆ สักทีนั่นเอง
ถามว่า AR มันมีประโยชน์ไหม?
ในมุมมองของผมเองบอกเลยว่า “มีประโยชน์มาก” มันช่วยให้สิ่งที่เราเคยนึกและคิดภาพตามอยู่ในหัวให้เห็นเป็นภาพจริงด้วยผ่านสายตาของเราได้ เช่น การที่เราจะทาสีผนังบ้านเราก็ต้องคิดว่าจะเลือกสีไหนดีมันถึงจะสวย มันถึงจะเข้ากัน ปกติแล้วเราก็คิดในใจว่าลองสีนั้นสีนี้ละกันเห็นที่บ้านคนอื่นทาแล้วมันสวยดีเลยอยากได้ซึ่งบางทีสีนั้นอาจจะไม่เข้ากับบ้านเราก็ได้
ดังนั้นเคสนี้การนำ AR ใน iPhone iPad เข้ามาช่วยโดยการใช้งานแอปที่ชื่อ Dulux Visualizer TH มันจะทำให้เราเห็นสีที่จะกำลังตั้งใจจะทาลงผนังแล้วดูว่ามันเหมาะสมไหมก่อนที่จะเลือกสีนั้นๆ มาทำจริงๆ สำหรับคนทำบ้านใหม่หรือกำลังจะรีโนเวทห้องแน่นอนว่าสีนั้นสำคัญ ถ้ามีเครื่องมีแบบนี้เข้ามาช่วยมันก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากๆ นั่นเองครับ
ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างจากแอปที่ผมลองลงสีผนังจากเดิมคือสีขาวและลองปรับดูว่าถ้าเราเปลี่ยนเป็นสีอื่นเช่นสีเหลืองแล้วผนังห้องเราจะออกมาเป็นอย่างไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการลงสีผ่านแอปตัดแต่งรูปแต่อย่างใด เราอยากได้สีไหนก็กดเลือกได้เลย พอได้ที่ต้องการแล้วเราสามารถนำรหัสสีไปซื้อสีมาทาได้เลย
นี่คือประโยชน์ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ และถ้าหากใครที่ทำงานเป็นช่างทาสีหรือออกแบบโทนสีให้ห้องลูกค้า เพียงใช้ iPhone, iPad เครื่องเดียวออกไปหน้างานแล้วส่องดู มันก็จะช่วยวิเคราะห์ วางแผนเรื่องสีได้เรียบร้อยภายในไม่กี่ชั่วโมง นั่นมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ
AR ไม่ใช่แค่ของเล่น แต่มันใช้จริงทั้งในเชิงธุรกิจและทางวัฒนธรรมอันมีค่าของประเทศได้
หลายคนอาจจะติดภาพในหัวว่า “AR มันต้องเป็นเกมเท่านั้น สร้างความบันเทิงได้อย่างเดียว หาประโยชน์สาระจริงๆ จังๆ ไม่ได้หรอก” แต่ก่อนผมเคยคิดแบบนั้นนะ ซึ่งเวลาเปลี่ยนไปทำให้ผมได้ศึกษามากขึ้น เห็นเคสตัวอย่างมากขึ้นเลยทำให้ความคิดนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
AR ไม่ใช่แค่ของเล่นแต่มันสามารถใช้ในทางธุรกิจเปลี่ยนเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายได้ และหากประยุกต์ใช้ในทางวัฒนธรรมอันสวยงามของไทย เราสามารถที่จะนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาเพื่อช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้
ผมได้มีโอกาสได้ทดลองใช้งานแอปหนึ่งที่ชื่อว่า Homeprise Real ซึ่งเป็นแอปสำหรับการตกแต่งภายในให้กับบ้าน คอนโดและห้องพัก ฯลฯ ที่รองรับการทำงานกับระบบ AR อย่างสมบูรณ์ หน้าที่หลักของแอปนี้คือ นำ iPhone, iPad ไปส่องพื้นที่จริงเช่นในห้องที่เราต้องการจะตกแต่ง จากนั้นสามารถเลือกอุปกรณ์ตกแต่งเช่น โต๊ะ โซฟา เก้าอี้ ชุดครัว ฯลฯ เมื่อได้ชิ้นเฟอร์นิเจอร์ตามที่ต้องการแล้วเราสามารถที่จะวางของชิ้นนั้นลงบนพื้นที่ที่ต้องการ และเราจะเห็นว่ามันวางได้ไหม ขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป (ซึ่งภาพที่แสดงออกมานั้นคืออัตราส่วนตามจริงของเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ) ดีไซน์การออกแบบจะเข้ากับห้องของเราหรือไม่ ฯลฯ
แอปนี้จะช่วยให้เราวางแผนแต่งห้องของเราได้อย่างง่ายดี โดยไม่ต้องนึกภาพเอาไว้ในหัวของเราคนเดียวอีกต่อไป
แล้วเกี่ยวกับธุรกิจยังไง?
Homeprise Real ไม่ใช่เพียงแค่นำเฟอร์นิเจอร์มาให้เราวางเล่นๆ เท่านั้น เรายังตกแต่งห้องด้วยอุปกรณ์ตามที่ต้องการได้ เลือกได้แล้วว่าชอบชิ้นนี้ เราสามารถกดสั่งซื้อผ่านแอปนี้ได้เลย จากนั้นระบบของ Homeprise Real จะจัดแจงทุกอย่างให้ทั้งเรื่องการส่งของและติดตั้งให้กับเราได้เลย สินค้าที่เห็นในแอปนั้นก็คือแบบสินค้าจริง วางขายจริงผู้ใช้สามารถเลือกซื้อได้เลย สะดวก ประหยัดเวลาได้เยอะด้วย ที่สำคัญแอปนี้พัฒนาโดยคนไทยและฝีมือบอกเลยว่ายอดเยี่ยมมากๆ ครับ นับเป็นไอเดียที่ดีมากๆ ในการดำเนินการธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นภาพจริง ได้ทดลองวางในพื้นที่จริงก่อน ก่อนที่จะสั่งซื้อสินค้า
แล้วในแง่วัฒนธรรมหละ นำมาใช้ประโยชน์ได้ยังไง?
เราก็ทราบกันดีว่าประเทศไทยของเรามีศิลปะที่สวยงามมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระราชวัง วัดวาอารามต่างๆ ที่สวยงามมีอยู่ทั่วประเทศเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมความงามเหล่านั้นกันอย่างไม่ขาดสาย
หากประเทศไทยของเราสามารถพัฒนาแอปโดยใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาช่วย เพื่อบอกข้อมูล ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ ให้ทั้งคนไทยและต่างชาติได้ดาวน์โหลดไปใช้งานกัน พอเราไปถึงที่นั้นๆ เช่น พระราชวัง เราก็สามารถนำ iPhone iPad ส่องไปยังจุดต่างๆ ให้ข้อมูลเหล่านั้นแสดงออกมาในรูปแบบที่สวยงามทั้งภาพและเสียง ก็จะเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับการท่องเที่ยวในครั้งนั้นๆ อีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่เดินไปชมแล้วถ่ายภาพคู่แล้วก็กลับ แบบนี้ผมว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำไปพิจารณาและทดสอบผลิตแอปขึ้นมาสักตัวนะ น่าจะดีไม่ใช่น้อย
ตัวอย่างที่พอจะเจอเคยเห็นในก่อนหน้านี้ก็อย่างเช่นแอป Thairat AR ที่ทางไทยรัฐเคยทำออกมา และอีกแอปดีๆ อีกตัวคือ AMON แอปนี้จะกึ่งๆ เกมที่เกี่ยวข้องกับรูปปั้นและพร้อมให้ความรู้ข้อมูลของรูปปั้นแต่ละตัว โดยตัวแอปจะทำการแยกส่วนของรูปปั้นออกมาจากนั้นให้เราเดินไปรอบๆ และพยายามทำให้รูปปั้นนั้นต่อกันให้ได้ แอปนี้ต้องเดินเข้า เดินออก ต้องหมุน ฯลฯ เพื่อหามุมที่ถูกต้อง
พอประกบรูปปั้นให้พอดีได้แล้วก็จะทราบข้อมูลของรูปปั้นตัวนั้นว่ามีชื่อว่าอย่างไร สร้างขึ้นเมื่อไหร่ ตั้งอยู่ที่ไหน ใช้วัสดุอะไรในการสร้าง เป็นต้น สิ่งนี้ก็จะทำให้ผู้ที่เล่นเกม AMON ก็ได้สัมผัสประสบการณ์ AR แบบเต็มที่และได้ความรู้จากข้อมูลในตัวแอปอีกด้วย
ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆ ครับสำหรับแอปนี้
ก็อย่างที่บอกแหละหน่วยงานของไทยอย่างกระทรวงวัฒนธรรมก็น่าจะนำหลักการนี้ไปทำบ้าง ทำแอปของพระราชวังขึ้นมา บรรจุข้อมูลอย่างภาพเขียนบนฝาผนัง, ข้อมูลของเจดีย์แต่ละองค์, โบสถ์แต่ละหลัง ฯลฯ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมพระราชวังนั้นเข้าใจในประวัติและความหมายต่างๆ ที่มากขึ้น ไม่ใช่แค่คนต่างชาติที่อยากจะรู้ ผมว่าคนไทยที่ไปเที่ยวที่นั่นหลายคนก็ไม่รู้ที่มาที่ไปเหมือนกัน จะดีกว่าไหมถ้ามีข้อมูลแบบนี้บางทีเราไม่ต้องเข้าไปถึงสถานที่ก็สามารถเปิดดูจากแอปนั้นได้เลย ผมว่ามันก็เข้าท่าดีนะ
AR ยังใหม่และต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก
เริ่มต้นพัฒนาและใช้งานกันอย่างจริงจังยังไม่ถึงปี ARKit เครื่องมือจาก Apple ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปต่างๆ ที่ต้องการ ให้ใช้งานกับ AR ทำได้ง่าย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าแรกๆ แอปเองก็ยังเจอปัญหาอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจจับพื้นที่ยังไม่แม่นยำเป๊ะเท่าของจริง, การจับระดับในแนวตั้งยังไม่ได้ดี และเรื่องการบริโภคพลังงานแบตเตอรี่ทรัพยากรของเครื่องไปอย่างเยอะ ทำให้หลายคนไม่ค่อยที่จะใช้ AR กันเท่าไหร่นัก
นักพัฒนาแอป Unstoppable Rex: ARK Saga ได้ให้ข้อมูลกับผมว่ายอมรับว่าแต่ก่อนนั้น AR นั้นยังไม่ค่อยสมบูรณ์มากเท่าไหร่อาจจะเพราะความใหม่ของมันเลยทำให้หลายๆ อย่างไม่ลงตัว แต่เมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้ปล่อย ARKit 1.5 รุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาออกมา ทำให้ประสิทธิภาพการพัฒนาแอป AR นั้นทำได้ง่ายมากขึ้น กินทรัยยากรน้อยลงและใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สำหรับเหล่านักพัฒนาเองก็มองว่าจุดนี้ถือเป็นการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นและในอนาคตก็คงจะดีขึ้นๆ ไปอีก
สรุป
AR นั้นแม้จะเป็นเรื่องใหม่ที่มีมาไม่นานและใช้งานจริงจังแบบแพร่หลายยังไม่ถึง 1 ปี แต่ด้วย iOS 11 และ iPhone (ตั้งแต่ iPhone 6s และใหม่กว่า) และ iPad รุ่นที่ 5 และ iPad Pro ทุกรุ่นสามารถที่จะใช้งาน AR ได้อย่างเต็มรูปแบบพร้อมกันทั่วโลกและด้วยจำนวนแอป AR คุณภาพที่มีให้ดาวน์โหลดจาก App Store ก็ช่วยทำให้ผลักดัน AR ให้ขยายออกวงกว้างมากขึ้นอีกในอนาคต
AR เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สามารถใช้งานได้จริงๆ อยากให้ทุกท่านได้ลองเล่นลองสัมผัสแล้วคุณจะขอบคุณเทคโนโลยีนี้นั่นเองครับ
ทั้งนั้นหากใครพลาดแอปสำหรับ AR สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่