20 กันยายน 62, Apple เปิดให้บริการ Apple Arcade อย่างเป็นทางการสำหรับ iPhone แล้ว มาชมประสบการณ์และข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับ Apple Arcade กันว่ามีอะไรบ้าง
Apple Arcade
Apple Arcade เป็นบริการเกมของ Apple ที่ให้ผู้ใช้อย่างเราลงทะเบียนสมัครรับแล้วจ่ายค่าบริการรายเดือน (เดือนละ 99 บาท) เพื่อดาวน์โหลดเกมจากคลังเกมใน App Store มาเล่น ซึ่ง Apple บอกว่ามีมากกว่า 100 เกมให้เล่น
เกมที่มีให้ดาวน์โหลดใน Apple Arcade นั้นมีมากมายหลายรูปแบบ โดยเกมส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ผู้ให้บริการเกมพัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับ Apple Arcade โดยเฉพาะ
วิธีสมัครรับและเปิดใช้ Apple Arcade
ก่อนอื่นผู้ใช้จะต้องมีอุปกรณ์และระบบตามความต้องการของ Apple Arcade ก่อน ยกตัวอย่างเช่น ต้องใช้ iPhone 6s ที่ติดตั้ง iOS 13 ขึ้นไป เป็นต้น
สำหรับวิธีสมัครรับทำง่าย ๆ โดย
เข้าไปที่ App Store > แตะแถบ Apple Arcade
แตะ ทดลองใช้ฟรี โดยผู้ใช้จะสามารถทดลองใช้ Apple Arcade ได้ฟรี 1 เดือน แล้วจะมีค่าบริการ 99 บาทต่อเดือนหลังจากหมดการทดลองใช้งาน (ผู้ใช้สามารถเลิกสมัครรับเมื่อไหร่ก็ได้)
Note : อุปกรณ์ที่รองรับ Apple Arcade
- iPhone, iPod touch ที่รองรับ iOS 13 (ใช้งานได้ 20 ก.ย. 62 เป็นต้นไป)
- iPad ที่รองรับ iPadOS (ใช้งานได้ 25 ก.ย. 62 เป็นต้นไป)
- Mac ที่รองรับ macOS Catalina (ใช้งานได้ภายในปี 62)
- Apple TV ที่รองรับ tvOS 13 (ใช้งานได้ภายในปี 62)
ดาวน์โหลดและติดตั้งเกม
การดาวน์โหลดเกมนั้นทำได้ง่ายเช่นกันซึ่งเหมือนกับการดาวน์โหลดแอปใน App Store ทั่วไป
เข้าไปที่ App Store > แตะแถบ Apple Arcade
เลือกรายการเกมที่ต้องการดาวน์โหลด > แตะ รับ (Get)
ในหน้ารายละเอียดของเกมนั้นจะระบุไว้ค่อนข้างครบว่าเป็นเกมแนวไหน เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่ เล่นออนไลน์หรือออฟไลน์ ต่อจอยเกมได้หรือไม่ และเล่นได้คนเดียวหรือหลายคน เป็นต้น
หลังจากที่ดูคร่าว ๆ แล้ว เกมใน Apple Arcade นั้นใช้พื้นที่ติดตั้งค่อนข้างมาก (แอปขนาดใหญ่) ซึ่งมีตั้งแต่ 300MB ถึง 2GB เลยก็มี ดังนั้นใครที่จะดาวน์โหลดไปติดตั้งในอุปกรณ์ที่มีความจุน้อย ต้องตรวจสอบให้ดีด้วย
(iPhone SE 16GB ไม่ถูกใจสิ่งนี้)
ประสบการณ์การเล่นเกมใน Apple Arcade
ในที่นี้จะเป็นประสบการณ์การเล่นเกม Apple Arcade บน iPhone XS Max
กราฟิกสวย
จะด้วยขนาดเกมที่ไฟล์ติดตั้งขนาดใหญ่หรืออะไรก็แล้วแต่ เท่าที่เล่นผ่าน ๆ มาหลายเกมสิ่งที่ตรงกันคือกราฟิกในเกมสวยมาก ลื่นไหล เล่นได้เพลิน ๆ
เกมสนุก มีให้เลือกเล่นมากมายไม่น่าเบื่อ
จุดนี้ส่วนตัวชอบมากที่สุด เพราะคำว่ามีมากกว่า 100 เกมก็ทำให้คิดเองเลยว่าหากเคลียร์เป็นเกม ๆ ไปกี่วันกว่าจะจบ
เกมใน Apple Arcade นี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมตะลุยด่าน (ภาษาบ้านผม 55) ออกแนวผจญภัย ซึ่งสเนห์ของเกมรูปแบบนี้จะอยู่ที่เราต้องแก้ปริศนาไปเรื่อย ๆ บางทีก็ทำให้เราหัวร้อน หรือบางทีเราก็ Happy หากผ่านภารกิจนั้น ๆ ได้
เล่นบน iPhone ได้สบาย
iPhone ที่ผู้เขียนใช้เล่นเกมนี้เป็น iPhone XS Max รุ่นเรือธงปีที่แล้ว แน่นอนว่าประสิทธิภาพตัวเครื่องรองรับกับความต้องการของเกมได้อย่างแน่นอน
เมื่อทดลองสลับมาเล่นบน iPhone SE รุ่นเก่าบ้างก็ถือว่าทำได้ดี ลื่นไหล แต่ด้วยความเคยชินกับจอเต็มขอบไร้ปุ่ม Home ของ iPhone XS Max ไปแล้ว จึงมองว่า iPhone ใหม่ ๆ ยังไงก็ให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า (จอเล็กไม่สนุก)
ต่อจอยเกมภายนอกได้
ส่วนตัวมองว่าด้วยรูปแบบเกมที่เป็นแบบตะลุยด่าน จึงทำให้เราอาจจมกับเกมและใช้เวลาเล่นเกมเป็นเวลานาน การบังคับด้วยมือถึงแม้จะสะดวกจริงแต่ก็รู้สึกล้าเหมือนกันหากเล่นไปนาน ๆ
iOS 13 ช่วยให้ iPhone สามารถต่อจอยเกม PS4, XBox ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในแง่ของคนที่ชอบเล่นเกม
การเชื่อมต่อทำไม่ยาก เพียงเปิด Bluetooh > จับคู่อุปกรณ์ระหว่าง iPhone กับจอยเกมของเรา ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมลุยแล้ว
แน่นอนว่าการบังคับเกมด้วยจอยเกมจะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าการบังคับด้วยมือ แต่เกมใน Apple Arcade นั้นไม่ใช่ทุกเกมที่จะรองรับการบังคับด้วยจอยเกม ต้องดูเป็นเกม ๆ ไป
เล่นได้ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์
ตัวเกมที่มีให้เล่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ถือว่าดีมาก ๆ โดยเฉพาะการเล่นออฟไลน์ ซึ่งจริง ๆ แล้วส่วนตัวผู้เขียนเป็นคนที่ไม่ชอบเล่นเกมบน iPhone มากนัก แต่จะเล่นเพื่อฆ่าเวลาเมื่อต้องรออะไรนาน ๆ เช่น รอขึ้นเครื่อง หรือระหว่างอยู่บนเครื่องบิน เป็นต้น
การเล่นออนไลน์ก็ให้ประสบการณ์ที่สนุกไปอีกขั้น เพราะเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ และรับความท้าทายต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้
เล่นข้ามอุปกรณ์ได้
ตัวนี้ผู้เขียนยังไม่ได้ทดลองมากนัก เพราะในตอนนี้ (20 กันยายน 62), Apple Arcade ยังเปิดให้เล่นบนเฉพาะ iPhone เท่านั้น ส่วนอุปกรณ์อื่นอย่าง iPad จะได้เล่นกันก็น่าจะหลังวันที่ 25 กันยายน 62 ซึ่งเป็นวันปล่อยอัปเดต iPadOS นั่นเอง
Apple เคลมว่า หากเราเล่นเกมจากอุปกรณ์หนึ่งยังไม่เสร็จ ก็สามารถไปเล่นต่อได้ที่อุปกรณ์หนึ่งได้ เช่น เล่นเกมบน iPhone อยู่ที่ด่านที่ 4 พอสลับไปเล่นบน iPad ก็ต่อด่านที่ 4 ได้เลย โดยไม่ต้องเริ่มใหม่
ไม่มีโฆษณา ไม่มีการซื้อของในเกม (ด้วยเงินจริง)
อันนี้ชอบมาก เพราะมันเหมือนกับให้เราต้องใช้ความพยายามในการเล่นเกมให้มากที่สุด เพราะส่วนตัวมองว่าการที่ตัวเกมมีระบบซื้อของในเกม (ด้วยเงินจริง) นั้น เหมือนกับการสร้างทางลัดให้เราเอาชนะเกมได้โดยง่าย ซึ่งใน Apple Arcade นั้นไม่มีระบบนี้ เราต้องจัดการด้วยตัวเอง!
สมัยนี้รูปแบบการหาเงินของนักพัฒนาเกมมีหลายแบบ เช่น การใส่โฆษณามาให้เราดูเพื่อเป็นเงื่อนไขในการปลดล็อคสิ่งต่าง ๆ แต่ไม่มีใน Apple Arcade แน่นอน เพราะ Apple ไม่อนุญาตให้นักพัฒนาใส่ระบบนี้มา (Very Good)
ค่าบริการ 99 บาทต่อเดือน
อันนี้ว้าวสุด ๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยประเมินกับทีมงานเล่น ๆ ว่าน่าจะ 129 บาทต่อเดือนขึ้น แต่ที่ไหนได้ เพียง 99 บาทต่อเดือนเท่านั้น รองรับ Family Share ด้วย
หากคิดเล่น ๆ เกมหนึ่งเกมใน App Store แบบดี ๆ เราซื้อมาก็ 100 กว่าบาทแล้ว นี่ 99 บาทต่อเดือน แนวเล่นเกมบุฟเฟต์ เล่นเบื่อก็ลบหาโหลดเกมใหม่ ด้วยราคา กราฟิก และคุณภาพเกมระดับนี้ถือว่าคุ้มมาก
ทดลองใช้ Apple Arcade ได้ฟรี 1 เดือน เลิกสมัครรับเมื่อไหร่ก็ได้
การยกเลิกสมัครรับ Apple Arcade
เหมือนกับการยกเลิกสมัครรับบริการทั่วไป
ไปที่ ตั้งค่า > Apple ID > View Apple ID > Subscriptions > Apple Arcade > Cancel
สรุป
Apple Arcade เป็นบริการเกมของ Apple ที่น่าสนใจมาก ๆ เหมาะสำหรับคอเล่นเกมตัวจริง ด้วยปริมาณเกม คุณภาพเกม เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าเกินคุ้ม
อีกสิ่งหนึ่งที่ Apple ใส่มาให้คือการควบคุมการเข้าถึงโดยผู้ปกครอง ฟีเจอร์นี้ชัดเจนมากว่าถึงแม้ Apple จะขายเกมแนวบุฟเฟต์ให้ลูกหลานเราเล่น แต่ก็ใส่ฟีเจอร์เวลาหน้าจอ (Screen Time) มาช่วยควบคุมการเล่นเกมของเด็ก ๆ ด้วย (ใส่ใจมาก)
แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องรอดูต่อไปคือปริมาณและความใหม่ของเกม เพราะหาก Apple ไม่ผลักดันให้ผู้พัฒนาเกมส่งมอบเกมใหม่ ๆ เข้ามาใน Apple Arcade เรื่อย ๆ เชื่อว่าคอเล่นเกมตัวจริงจะสามารถเคลียร์เกมเหล่านั้นได้ไม่นาน ซึ่งเป็นความท้าทายของ Apple
นี่คือประสบการณ์ที่ได้ลองใช้งาน Apple Arcade ในช่วงระยะเวลาอันสั้น และตอนต่อไปหรือในอนาคตอันไกล้ (ถ้ามีโอกาส) ก็จะมาแชร์เรื่องราวพร้อมแนะนำเกมน่าเล่นใน Apple Arcade มาให้ติดตามกัน
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
มดเต้นท์ (Mod-T) iPhoneMod.net