Apple เปิดตัว 10 ใหม่เพื่อสนับสนุนชุมชนทั่วโลกก่อนถึงการประชุม COP26 เดินหน้าเป้าหมายก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 โดยการเพิ่มพลังงานสะอาดอีก 9 กิกะวัตต์ และเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ที่ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดอีก 2 เท่า
10 โครงการใหม่ และเพิ่มซัพพลายเออร์ที่สัญญาว่าจะใช้พลังงานสะอาด สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030
27 ตุลาคม 2021, Apple ประกาศว่าบริษัทได้เพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ที่ให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาด 100% โดยคิดเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นการเร่งความคืบหน้าในเป้าหมายของ Apple ที่พยายามจะทำให้ซัพพลายเชนและผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ทำให้ตอนนี้ มีซัพพลายเออร์ของ Apple รวมทั้งหมด 175 รายที่จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ ทาง Apple และซัพพลายเออร์ยังจะนำพลังงานสะอาดมาใช้ทั่วโลกเพิ่มอีกมากกว่า 9 กิกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 18 ล้านเมตริกตันต่อปี เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนนถึง 4 ล้านคันในแต่ละปี
ในขณะนี้ ในสหรัฐอเมริกามีซัพพลายเออร์ 19 รายที่เข้าร่วมโปรแกรม Supplier Clean Energy ของ Apple ส่วนในประเทศจีนมีซัพพลายเออร์เข้าร่วมโปรแกรมแล้ว 50 ราย ในประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ก็มีซัพพลายเออร์เข้าร่วมโปรแกรม 31 ราย
นอกจาก Apple จะนำวัสดุรีไซเคิลมาเป็นส่วนประกอบหลักของสินค้าหลาย ๆ ตัว การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนของซัพพลายเออร์ ล้วนมีส่วนช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ในกระบวนการผลิต iPhone 13 Pro สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ลงได้ถึง 11% และ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ก็สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ลงได้ถึง 8% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
นอกจากนี้ ทาง Apple เองก็เพิ่มโครงการใหม่อีก 10 โครงการสำหรับแผนงาน Power for Impact เพื่อนำโซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดมาสู่ชุมชนทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ไม่มีใครเคยทำมาก่อน โครงการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทรัพยากร ขณะเดียวกันก็ช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและส่งผลดีทางสังคมอีกด้วย
โดย Apple ได้ริเริ่มโครงการ Power for Impact เพื่อสนับสนุนชุมชนแล้วใน 8 ประเทศบนโลก ได้แก่สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม โคลอมเบีย อิสราเอล และรวมถึงประเทศไทยด้วย
โดย 1 ใน 10 โครงการดังกล่าวที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ทาง Apple ได้เข้าไปมีส่วนในความร่วมมือเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนและแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงานเพื่อให้สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำพลังงานนั้นมาใช้แทนเชื้อเพลิงดีเซลที่ก่อให้เกิดมลภาวะในหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ห่างไกล ซึ่งมักต้องอาศัยตู้เย็นในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ปลา
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการในประเทศไทย
โครงการ Koh Jik Village Solar and Storage ในประเทศไทย
เป็นโครงการของ Apple ที่มอบพลังงานไฟฟ้าแก่ชาวบ้านผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเกาะจิกกว่า 400 คน รวม 100 ครัวเรือน โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ในชุมชน มีประโยชน์ต่อชุมชนเกาะจิกที่ประกอบอาชีพเป็นชาวประมง ที่ต้องใช้ตู้เย็นในการเก็บรักษาผลผลิตจากการประมงเป็นอย่างมาก
รายละเอียดโครงการ
สถานที่ : เกาะจิก, ประเทศไทย
ขนาดของระบบผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้ง (kWp) : 90
โครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาดให้กับไมโครกริดแบบออฟกริดที่ชุมชนใช้งานอยู่ การอัปเกรดจะทำให้สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงพร้อม ๆ กับใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงดีเซลที่ก่อมลพิษ
- 90 KW ได้จาก PV (50 KW ได้จาก PV ใหม่เพิ่มจาก 40 KW ที่มีอยู่แต่เดิม) พร้อม 260 KWH จากการกักเก็บพลังงานของแบตเตอรี่ลิเทียมและระบบบำรุงรักษาและการอัปเกรดเพิ่มเติม
- โครงการนี้จะมอบแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เสถียรให้กับชุมชนที่มีสมาชิก 400 คนซึ่งอาศัยอยู่ใน 100 ครัวเรือน ปัจจุบัน หมู่บ้านประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานเนื่องจากความจุ PV แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอและแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ จนต้องใช้เครื่องปั่นไฟดีเซลเพื่อให้พลังงานเพิ่มเติม และเนื่องจากผู้อาศัยท้องถิ่นเกือบทั้งหมดเป็นชาวประมง ตู้เย็นจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อมอบความเย็นในการรักษาคุณภาพของปลาที่หาได้ ผู้อยู่อาศัยจะจ่ายค่าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นค่าธรรมเนียมที่ตกลงไว้ซึ่งน้อยกว่าพลังงานที่ได้จากเครื่องปั่นไฟดีเซล จึงช่วยให้เศรษฐกิจในชุมชนมีเงินเพิ่มขึ้นแทนที่จะใช้่จ่ายเพื่อนำเข้าพลังงานฟอสซิล
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่