Apple เตรียมจัดการ Apple Event ‘Far Out’ ในวันที่ 7 กันยายน 2020 โดยงานนี้คาดว่าจะมีสินค้าใหม่เปิดตัวมากมาย เรามาชมสิ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้กันว่ามีอะไรบ้าง
สิ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Apple Event ‘Far Out’ 7 กันยายนนี้
1. iPhone 14
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ iPhone 14 ในครั้งนี้ก็คือ จะไม่มี iPhone รุ่น mini แล้ว ซึ่ง iPhone 13 mini จะเป็น iPhone รุ่นสุดท้ายที่มีขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว แต่ในปีนี้เราจะพบกับ iPhone 14 2 รุ่นด้วยกัน มาพร้อม 2 ขนาดหน้าจอ iPhone 14 จะมีหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Max จะมีหน้าจอ 6.7 นิ้ว (อาจจะใช้ชื่อ iPhone 14 Plus)
สำหรับดีไซน์ของ iPhone 14 นั้นคาดว่าจะใช้หน้าจอแบบมีรอยบากเหมือนกับ iPhone 13 และตามข่าวลือระบุว่าหน้าจอของ iPhone 14 ก็จะไม่มีเทคโนโลยี ProMotion ที่สงวนไว้กับ iPhone 14 Pro เท่านั้น
กล้องหลังของ iPhone 14 คาดว่าจะใช้กล้อง Ultra-Wide ที่อยู่ใน iPhone 13 ปีที่แล้ว จะไม่ได้รับการอัปเกรดกล้องใหม่เหมือนกับรุ่น Pro แต่กล้องหน้าจะอัปเกรดรูรับแสงกว้าง f/1.9 สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้
มีข่าวลือว่า iPhone 14 และ iPhone 14 Max นั้นอาจจะยังคงใช้ชิปมวลผล A15 Bionic ตัวเดิม โดยเน้นปรับชิ้นส่วนภายในเป็นหลักและเพิ่มประสิทธิภาพจากรุ่นเดิม ทั้งในแง่ประสิทธิภาพความเร็วการใช้งานและการจัดการพลังงานด้วย
สเปกภายในคาดว่า iPhone 14 จะใช้ RAM 6GB มาพร้อม WiFi 6E และมีข่าวลือว่าจะใช้ชิปโมเด็ม 5G เป็น Snapdragon X65 10 Gigabit จาก Qualcomm เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติการสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบไม่ต้องใช้สัญญาณมือถือ โดยข่าวลือระบุว่า Apple จะใช้สำหรับฟีเจอร์ฉุกเฉิน เช่น การส่งข้อความ การโทร การรายงาน เมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
เรื่องสีใหม่นั้นข่าวลือระบุว่า iPhone 14 น่าจะมาพร้อมกับสีม่วงใหม่ แล้วมีตัวเลือก สีดำ สีขาว สีแดง และสีน้ำเงิน ส่วนราคาน่าจะยังคงเท่าเดิม เริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ
2. iPhone 14 Pro
iPhone 14 Pro คาดว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอ 2 ขนาดด้วยกัน โดย iPhone 14 Pro ใช้หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Pro Max ใช้ 6.7 นิ้ว ไม่มีรอยบากที่หน้าจอแล้ว แต่จะใช้ดีไซน์รูบนจอ รูปแบบแคปซูลแทน และมีรูปกล้องหน้า TrueDepth เป็นวงกลมอยู่ข้าง ๆ กัน
แต่ภายหลังข่าวลือระบุว่า Apple จะรวมรูบนจอให้มีเพียงอันเดียว เป็นรูปแบบแคปซูลยาว ๆ โดยช่องว่างของ 2 รูนั้น Apple เป็นพื้นที่แสดงจุดความเป็นส่วนตัว แสดงจุดไอคอนการเข้าถึงกล้อง (จุดเขียว), การเข้าถึงไมค์ (จุดส้ม) ระหว่างที่ผู้ใช้งาน
สำหรับหน้าจอการแสดงผลของ iPhone 14 Pro ข่าวลือระบุว่าจะใช้หน้าจอแสดงผล ProMotion อัตราการรีเฟรชตั้งแต่ 1Hz-120Hz และมีฟังก์ชัน Always-On Display หรือแสดงผลแบบติดตลอดคล้ายกับ Apple Watch ที่หลายคนรอคอยมานาน
กล้องหน้าคาดว่าจะได้รับการอัปเกรดให้มีรูรับแสงกว้าง f/1.9 และสามารถโฟกัสอัตโนมัติ ส่วนกล้องหลัง กล้องเลนส์ Wide ใหม่ มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น 21% ถ่ายภาพความละเอียดสูงและสามารถบันทึกวิดีโอ 8K ได้ ส่วนกล้อง Tele-Photo จะได้รับการอัปเกรดให้ใช้เลนส์ 7 ชิ้น และจะมีการปรับปรุงกล้อง Ultra-Wide ด้วย บอกได้เลยว่าครั้งนี้เป็นการอัปเดตกล้องที่ใหญ่ที่สุดของ iPhone
สเปกภายในคาดว่าจะใช้ชิปประมวลผล A16 Bionic ใหม่ RAM ขนาด 6GB เหมือนกับ iPhone 13 Pro และคาดว่าจะใช้ชิปโมเด็ม 5G เป็น Snapdragon X65 10 Gigabit จาก Qualcomm เพื่อการรองรับ 5G ที่เร็วขึ้นและรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมตามข่าวลือก่อนหน้านี้ รวมถึงรองรับ Wi-Fi 6E
ด้วยการอัปเกรดใหม่ที่ค่อนข้างเยอะ คาดว่า iPhone 14 Pro อาจจะมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าเดิม คาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้นประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง iPhone 14 Pro เริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาสหรัฐและ iPhone 14 Pro Max เริ่มต้นที่ 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ มาพร้อมสีม่วงใหม่ และตัวเลือกสีกราไฟต์ สีทองและสีเงิน
3. Apple Watch Series 8
Apple Watch Series 8 คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ ยังคงใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับ Apple Watch Series 7 โดยมีตัวเรือนขนาด 41 มม. และ 45 มม. คาดว่าจะใช้ชิปประมวลผล S8 และมาพร้อมเฉดสีแดงใหม่
เซ็นเซอร์ใหม่ที่อาจจะเพิ่มเข้ามาก็คือ เซ็นเซอร์สำหรับการวัดอุณหภูมิร่างกาย ที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร่างกายของผู้สวมใส่ได้ ในช่วงแรก ๆ อาจจะใช้สำหรับผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ และใน Apple Watch รุ่นอนาคตอาจจะเพิ่มการแจ้งเตือนถ้าพบว่าผู้สวมใส่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติหรือมีไข้
ข้อจำกัดของการวัดอุณหภูมิร่างการผ่านผิวหนังข้อมือคือ เรื่องของความแม่นยำที่ไม่เท่ากับการอ่านอุณหภูมิร่างกายทั่วไป ดังนั้น Apple Watch Series 8 อาจจะไม่ได้แจ้งเตือนและรายงานอุณหภูมิร่างกายเป็นแบบตัวเลของศาเซลเซียส แต่จะรายงานว่าอุณหภูมิร่างกายปกติหรือสูงหรือไม่
นอกจากนี้ อาจจะมีการเพิ่มคุณสมบัติการตรวจจับรถชน ที่ทำงานร่วมกับการตรวจจับการล้มกระแทกและมาตรความเร่งที่ตรวจจับแรงโน้มถ่วงที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกับแจ้งเตือนบริการฉุกเฉินเมื่อจำเป็น และมีการอัปเดตการติดตามกิจกรรมใหม่ รวมถึงปรับปรุงโหมดประหยัดพลังงานใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบางฟังก์ชันได้ระหว่างที่อยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน
4. Apple Watch Pro
นอกจากการเปิดตัว Apple Watch Series 8 ใหม่แล้ว ในปีนี้ก็มีข่าวลือว่า Apple จะเปิดตัว Apple Watch Pro รุ่นใหม่ที่เป็น Apple Watch ระดับไฮเอนด์ โดยอาจจะมีการใช้ดีไซน์ใหม่ ตัวเรือนเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ภายหลัง ข่าวลือระบุเพิ่มเติมว่า Apple Watch Pro มาพร้อมหน้าจอแบบเรียบ ตัวเรือนขอบมน ขอบเครื่องมีความโค้งจากด้านล่างแล้วมาเรียบที่หน้าจอ มาพร้อมปุ่มด้านข้างปรับปรุงใหม่ที่ยื่นออกมาจากตัวเรือนค่อนข้างมาก ทำให้การควบคุมปุ่ทำได้ง่ายขึ้น
คาดว่า Apple Watch Pro จะมีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอ 45 มม. ที่เป็นหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในรุ่นปัจจุบัน หากวัดหน้าจอแนวทแยงมุมจะมีขนาด 2 นิ้ว เพิ่มขึ้นจากของหน้าจอ 45 นิ้วที่วัดแนวทแยงมุมได้ 1.9 นิ้ว ซึ่งขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้จะสามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้น อย่างเช่นการแสดงผลตัวชี้วัดการออกกำลังกายบนหน้าจอที่แสดงได้มากกว่าเดิม
Apple Watch Pro จะถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายสำหรับผู้ใช้ที่ชอบเล่นกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีมหรือใช้งานแบบสมบุกสมบัน คาดว่าตัวเรือนจะใช้วัสดุโลหะผสมไทเทเนียมที่สามารถทนต่อการใช้งานที่หนักและใช้หน้าจอที่ทนต่อการแตกได้ดีขึ้น
เรื่องของแบตเตอรี่ แน่นอนว่า Apple Watch Pro มีขนาดใหญ่กว่า Series 8 ดังนั้นแบตเตอรี่อาจจะมีขนาดใหญ่กว่า เพื่อรองรับหน้าจอการแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นและการใช้งานที่ยาวนาน อย่างการออกกำลังกายนาน ๆ และโหมดประหยัดพลังงานต่ำก็อาจจะอยู่ได้นานกว่ารุ่นปกติ
คุณสมบัติใหม่ทั่วไปของ Apple Watch Pro ก็น่าจะเหมือนกับ Apple Watch Seris 8 แต่อาจจะมีราคาแพงกว่า น่าจะอยู่ในช่วง 900-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
5. Apple Watch SE รุ่นที่ 2
มาถึง Apple Watch รุ่นราคายอมเยาว์อย่าง Apple Watch SE คาดว่าในปีนี้ก็จะเปิดตัวใหม่พร้อมกัน แต่อาจจะไม่มีคุณสมบัติใหม่เหมือนกับ Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Pro ซึ่งน่าจะเน้นการอัปเกรดประสิทธิภาพ โดยใช้ชิปประมวลผลที่เร็วขึ้น และอาจจะเพิ่มคุณสมบัติ Always-On Display เข้ามา
6. AirPods Pro รุ่นที่ 2
AirPods Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 แล้วก็ไม่ได้รับการรีเฟรชใหม่ ข่าวลือล่าสุดระบุว่า Apple จะเปิดตัว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ในงานอีเวนท์นี้ด้วย โดยมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เล็กกว่าเดิมและตัดก้านหูฟังออก แต่ช่วงหลังก็ข่าวลือที่ขัดแย้งกันระบุว่า Apple ยังคงใช้การออกแบบคล้ายแบบเดิม มีก้านหูฟังและจุกหูฟังซิลิโคน
ส่วนเคสชาร์จอาจเพิ่มลำโพงให้สามรถเล่นเสียงเมื่อค้นหา AirPods ได้ ใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Find My ส่วนของชิปอาจจะใช้ชิป H1 ที่ได้รับการอัปเดตใหม่ พร้อมความสามารถการตัดเสียงรบกวนแบบปรับเองได้ หรืออาจจะใช้ชิป H2 ก็ต้องรอติดตาม
นักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo เผยว่า AirPods Pro ใหม่จะรองรับเสียงแบบ Lossless (ALAC) ที่เล่นไฟล์เสียงคุณภาพสูงขึ้น ฟังก์ชันอื่น ๆ อาจจะมีการเพิ่มเซ็นเซอร์ด้านฟิตเนสใหม่ มีการปรับปรุงแบตเตอรี่และการตรวจจับภายในหู รองรับ Bluetooth LE เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกันได้
9. ประกาศวันปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์
ในงาน Apple Event คาดว่า Apple จะประกาศวันปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ที่เปิดตัวในงาน WWDC2022 ที่ผ่านมาด้วย คาดว่าในงานนี้จะประกาศวันปล่อยอัปเดต iOS 16, watchOS 9, tvOS 16 และ
ส่วน iPadOS 16 นั้น Apple ได้ยืนยันแล้วว่าจะปล่อยอัปเดตช้ากว่าปกติ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ iPadOS จึงทำให้ปล่อยอัปเดตไม่พร้อมกับ iOS 16 คาดว่าจะปล่อยอัปเดตช่วงเดือนตุลาคมพร้อมกับ macOS 13 Ventura ตามข่าวลือจาก Mar Gurman
8. iPad รุ่นที่ 10
สำหรับ iPad ก็มีลุ้นว่าเราจะได้เห็น iPad รุ่นราคาย่อมเยาว์รุ่นใหม่ iPad รุ่นที่ 10 ก่อนหน้านี้มีภาพเรนเดอร์มากมายเผยออกมาให้เห็นว่า ตัวเครื่อง iPad จะใช้ทรงเหลี่ยม ขอบโค้งมน และยังคงมีปุ่มโฮมสำหรับ Touch ID
คาดว่าหน้าจอจะใช้ขนาด 10.5 นิ้ว มาพร้อมพอร์ต USB-C และใช้ชิปประมวลผล A14 Bionic ที่เร็วขึ้น ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้องเลนส์เดี่ยว รองรับการเชื่อมต่อ 5G ไม่มีช่องเสียบหูฟัง และยังคงราคาย่อมเยาว์เช่นเดิม
9. iPad Pro
คาดว่า Apple จะรีเฟรช iPad Pro ใหม่ ทั้งรุ่น 11 นิ้วและ 12.9 นิ้ว โดยอัปเกรดหลัก ๆ ก็จะเป็นชิปประมวลผล M2 ที่เร็วขึ้น ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ใน MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัวในงาน WWDC2022 ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข่าวลือก่อนหน้านี้ระบุว่า iPad Pro 11 นิ้วอาจจะได้อัปเกรดมาใช้หน้าจอ mini-LED แต่ช่วงหลังก็ระบุว่าอาจจะไม่ได้ใช้ เนื่องจากปัญหาด้านต้นทุน
ข่าวลืออื่น ๆ ระบุว่า iPad Pro จะมาพร้อมการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe ที่ใช้บน iPhone โดยอาจจะอยู่ในโลโก้ Apple ด้านหลังตัวเครื่องที่เป็นกระจกและมีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการชาร์จไร้สายนี้ และอาจจะแชร์พลังงานให้อุปกรณ์อื่น ๆ ชาร์จได้ด้วย และอาจจะมีการเพิ่ม Smart Connector เป็น 4 จุด ช่วยให้เชื่อมต่อกับ Smart Keyboard ได้ดีขึ้น
ส่วนข่าวลือเกี่ยวกับ Apple Pencil รุ่นใหม่ก็มีข่าวลือนิดหน่อยว่าจะเปิดตัวคู่กับ iPad Pro ใหม่ และมีการเผยภาพ Apple Pencil ที่มีผิวมันวาวเหมือน Apple Pencil รุ่นที่ 1 มาพร้อมปลายแบบใหม่ ส่วนดีไซน์นั้นคล้าย Apple Pencil 2
สำหรับ iPad รุ่นที่ 10 และ iPad Pro ต้องรอลุ้นกันในงาน Apple Event ‘Far Out’ ว่าจะมี iPad รุ่นใหม่เปิดตัวหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อาจจะต้องรองานอีเวนท์ช่วงเดือนตุลาคม 2022
10. แว่นตา AR/VR
แว่นตา Apple AR/VR รุ่นแรกมีข่าวลือว่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับ Hi-end เป็นอุปกรณ์เฉพาะกลุ่ม และอาจมีราคาสูงถึง $2,000 มีจอแสดงผลความละเอียดสูงพิเศษสองจอสำหรับตาแต่ละข้าง จอแสดงผล 4K ซึ่งเป็นจอ micro-OLED ทั้งสองจอ มาพร้อมกล้องและเซ็นเซอร์จำนวนหนึ่ง ใช้ซอฟต์แวร์ RealityOS
ส่วนชิปประมวลผลภายใน คาดว่าเป็นชิปที่ Apple ออกแบบเอง โดยใช้ชิปหลัก 2 ตัวในการช่วยประมวลผลภาพ รองรับ Wi-Fi 6E, มีการติดตามดวงตา การติดตามวัตถุ และการควบคุมด้วยท่าทางของมือ และอื่น ๆ คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2023 แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นการเปิดตัวในงานนี้
รับชมงาน Apple Event ‘Far Out’
คืนวันที่ 7 ก.ย. ย่างเข้าสู่วันที่ 8 ก.ย. 2022 สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการเปิดตัว iPhone 14 และสินค้าอื่น ๆ ได้ในงาน Apple Event ‘Far Out’ ทีมงาน iMoD จะเริ่มถ่ายทอดสดในคืนวันที่ 7 ก.ย. เวลา 23.20 น. เป็นต้นไป ผ่าน Facebook Fanpage: iMoD และสามารถติดตามอัปเดตข่าวสารได้ที่เว็บ https://www.iphonemod.net/
ที่มา MacRumors