Reuters รายงานว่า Apple ถูกศาลสหรัฐสั่งปรับ 500 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้าลง โดยค่าปรับคิดตามจำนวนเครื่องที่ได้รับผลกระทบในสหรัฐ
Apple ถูกศาลสหรัฐสั่งปรับ 500 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้าลง
Edward Davila (ผู้พิพากษาเขตสหรัฐ ของศาลแขวง San Jose แคลิฟอร์เนีย) ได้ตัดสินให้ Apple จ่ายค่าปรับเป็นจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้าลง
ในรายงานเผยว่า Apple จะเสียค่าปรับประมาณ 25 ดอลลาร์ต่อ iPhone หนึ่งเครื่องให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบเครื่องช้าลง ซึ่งคาดว่าค่าปรับส่วนนี้เบื้องต้นอยู่ที่ 310 ล้านดอลลาร์
ผู้ใช้ iPhone สหรัฐที่ได้รับผลกระทบก็ได้แก่ ผู้ใช้ Phone 6, 6 Plus, 6s, 6s Plus, SE, 7, 7 Plus ที่ใช้ iOS 10.2.1 รวมไปถึงผู้ใช้ iPhone 7, 7 Plus ที่ใช้ iOS 11.2 ก่อนวันที่ 21 ธันวาคม 2017 ด้วย
นักกฏหมายเผยว่าการตัดสินครั้งนี้มีความยุติธรมม สมเหตุสมผล และเพียงพอแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วหากประเมินความเสียหายสูงสุดอาจอยู่ที่ 46 ดอลลาร์ต่อเครื่องเลยก็ได้
ก่อนหน้านี้ Apple ก็ถูกสั่งปรับคดีลักษณะเดียวกันนี้ที่ฝรั่งเศสเช่นกัน โดยมูลค่าสั่งปรับอยู่ที่ 25 ล้านยูโร
ปี 2017, Apple ถูกหลายแห่งฟ้องร้องในประเด็นลดประสิทธิภาพ iPhone รุ่นเก่าโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดย Apple เผยว่าเป็นฟีเจอร์การลดประสิทธิภาพเครื่องลงในกรณีที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เนื่องจากไม่อยากให้ผู้ใช้เจอปัญหาเครื่องดับ
หลังจากนั้นในปี 2018, Apple ก็ได้ออก iOS มาพร้อมฟีเจอร์แบตเตอรี่และประสิทธิภาพที่ระบุสุขภาพแบตเตอรี่ เพิ่มฟีเจอร์ปิดการจำกัดประสิทธิภาพให้ผู้ใช้ปิดเองได้ และได้เปิดโปรแกรมเปลี่ยนแบตเตอรี่ 1,000 บาท เพื่อเยียวยาผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่า
ที่มา – iclarified