คำแนะนำ : บทความนี้สำหรับมือใหม่ สำหรับสาวกทั้งสองค่าย เชื่อว่าทุกท่านคงมีธงในใจกันอยู่แล้ว เทียบสเปค Galaxy Note 7 กับ iPhone 6s Plus ต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาสรุปเป็นแนวทางง่าย ๆ สำหรับมือใหม่กันครับ เนื่องจากทั้งคู่ล้วนเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่แพงสุดของ Samsung กับ Apple (ถึงแม้จะเปิดตัวห่างกันหลายเดือนก็ตาม) สาเหตุที่ไม่มี Note 6
Galaxy Note 7 กับ iPhone 6s Plus ต่างกันอย่างไร
ก่อนอื่นขอเกริ่นตั้งแต่รากฐานของระบบปฎิบัติการ เป็นที่ทางดีว่าทั้ง Android และ iOS มีแนวคิดที่แตกต่างกันสุดขั้วตั้งแต่ออกแบบ ในฐานะของระบบเปิดและระบบปิด (ซึ่งมีข้อดีเสียแตกต่างกันไป) ตรงนี้คงพิสูจน์เป็นตัวเลขยากว่าของใครดีกว่ากัน แต่มันอยู่ที่แบบไหนเหมาะกับเรามากกว่า
Galaxy Note 7 กับ iPhone 6s Plus นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่อยู่กลุ่มเดียวกันคือ Phablet (สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่)
Galaxy Note 7 มีรากฐานการดีไซน์มาจาก Note 5 (สาเหตุที่ข้าม 6 ไปเพราะเรื่องการตลาด) ผสมผสานหน้าจอโค้งทั้งสองด้านเฉกเช่น S7 Edge ได้อย่างลงตัว (เพียงแต่ไม่โค้งเท่า) ส่วนทาง iPhone 6s Plus แน่นอนว่าถอดแบบมาจาก 6 Plus เพียงแต่เปลี่ยนวัสดุให้แข็งแรงขึ้น และยังสามารถใส่เคสเดียวกันได้
การออกแบบ
Galaxy Note 7 มีขนาด 153.5 x 73.9 x 7.9 มม. และน้ำหนัก 169 กรัม มีหน้าจอโค้งสไตล์ S7 Edge เพียงแต่มาพร้อมกับปากกา S-Pen ที่ทาง Samsung ร่วมพัฒนากับ Wacom มานานถึง 7 ปี ส่วนทาง iPhone 6s Plus มีขนาด 158.2 × 77.9 × 7.3 มม. และน้ำหนัก 192 กรัม มีหน้าตาที่ถอดแบบมาจากรุ่นก่อนหน้า เพียงแต่เปลี่ยนเกรดอลูมิเนียมให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีสีพิเศษ Rose Gold อันเป็นเอกลักษณ์
หน้าจอ
Galaxy Note 7 มีหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 5.7″ รองรับความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซลที่ 515 PPI และได้รับการคุ้มครองจากกระจก Gorilla Glass 4 5 ส่วนทาง iPhone 6s Plus มีหน้าจอ LED IPS ขนาด 5.5″ รองรับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ 401 PPI และได้รับการคุ้มครองจากกระจก ION ซึ่งทาง Apple คุยว่า “แข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยมีใช้กับสมาร์ทโฟนบนโลกนี้”
หน่วยประมวลผล
Galaxy Note 7 มีหน่วยประมวลผลสองแบบ “Snapdragon 821” หรือ “Exynos 8893” (ที่ขายในไทยเป็นตัวหลัง) Octa-core (2.3 GHz Quad + 1.6 GHz Quad) และมี RAM 4 GB ส่วนทาง iPhone 6s Plus มีหน่วยประมวลผล A9 (เหมือนกันทั่วโลก) Dual-core 1.84 Ghz และมี RAM 2 GB
หน่วยความจำ
Galaxy Note 7 มีหน่วยความจำ 64 GB รองรับ Micro SD สูงสุด 200 GB (แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถใช้ติดตั้งแอปพลิเคชันได้) ส่วนทาง iPhone 6s Plus มีหน่วยความจำให้เลือกตั้งแต่ 16/64/128 GB และไม่สามารถเพิ่มความจำได้
กล้อง
Galaxy Noe 7 มีกล้อง Dual Pixel แบบเดียวกับ S7 ความละเอียด 12 MP (F1.7) ที่มีคุณสมบัติกันสั่น, แฟลช, ติดตามโฟกัส, ตรวจจับใบหน้า, และมีกล้องหน้า 5 MP (F1.7) ส่วนทาง iPhone 6s Plus มีกล้อง 12 MP ที่มีคุณสมบัติกันสั่น, แฟลชสองสี, ตรวจจับใบหน้า, และมีกล้องหน้า 5 MP
แบตเตอรี่
ทั้งสองน่าเศร้าตรงที่ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ แต่สำหรับ Galaxy Note 7 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3500 mAh ส่วนทาง iPhone 6s มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2750 mAh แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถการันตีได้ถึงระยะเวลาการใช้งาน เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งสองกินพลังงานที่แตกต่างกัน (มาก)
ราคา
ราคาเปิดตัว Galaxy Note 7 (64 GB) อยู่ที่ 28,900 บาท จองได้ตั้งแต่วันที่ 5 – 14 สิงหา 2016 โดยผู้ที่จองจะได้ของขวัญสุดพิเศษจาก Samsung ส่วนทาง iPhone 6s Plus (64 GB) อยู่ที่ 34,500 บาท แต่หากไปหาซื้อจริงราคาตลาดจะอยู่ที่ 31,900 บาท แต่ถ้าหากเลือกรุ่น 16 GB ราคาจะถูกกว่าราว 3,500 บาท
ฟีเจอร์อื่น
ลูกเล่นของ Galaxy Note 7 ค่อนข้างจัดมาเต็มตามสไตล์ของ Samsung แต่ถ้าหากไม่นับเรื่อง Software ภายในแล้วก็ยังมีการเพิ่มคุณสมบัติ “กันน้ำ” (IP68) ที่เพิ่มเข้ามา ระบบความปลอดภัยที่นอกเหนือจากสแกนลายนิ้วมือก็คือ “สแกนม่านตา” นอกจากนี้ยังการเปลี่ยนพอร์ท Micro USB ไปเป็น USB Type-C ครั้งแรกอีกด้วย
ลูกเล่นของ iPhone 6s Plus ส่วนใหญ่จะเป็นการหนักไปทาง “ทำของเดิมให้ดีขึ้น” เช่นพวกระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่ที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างจริงคงหนีไม่พ้น 3D Touch ระบบหน้าจอสัมผัสรับรู้แรงกด ซึ่งทาง Apple เป็นบริษัทเดียวที่สามารถพัฒนาออกมาเพื่อใช้งานจริงได้ เนื่องจากผลิตและกำหนด Software เองแทบทั้งหมด
แต่บางทีสเปคก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง แนะนำให้ไปลองจับด้วยตัวเองครับ