thanapon
การกำหนดภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าทุกชนิดที่นำเข้าจากจีน ทำให้ราคาสินค้าของ Apple ในสหรัฐฯ สูงขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีน
สินค้า Apple ราคาพุ่งสูงขึ้นในสหรัฐฯ หลังจากทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 10%
ทรัมป์เคยใช้นโยบายลักษณะเดียวกันในสมัยแรกของเขา โดยกำหนดภาษีกับสินค้านำเข้า แต่ Apple ได้รับการยกเว้น เเต่ครั้งนี้ ภาษี 10% ถูกนำมาใช้กับสินค้าทุกชนิดที่มาจากจีนโดยไม่มีข้อยกเว้น
ในตอนแรก ทรัมป์จะกำหนดภาษีนำเข้าสูงถึง 100% สำหรับชิปซิลิคอนที่ผลิตในจีน แต่สุดท้ายแล้วนโยบายดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาใช้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทสหรัฐฯ ที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศโดยใช้ชิ้นส่วนที่นำเข้าจากจีน
ต่อมา ทรัมป์จะกำหนดภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าทุกชนิดจากแคนาดาและเม็กซิโก และภาษี 10% สำหรับสินค้าจากจีน แคนาดาและเม็กซิโกตอบโต้ด้วยมาตรการต่าง ๆ รวมถึงให้คำสัญญาว่า จะเพิ่มการคุ้มครองชายแดนเพื่อลดการอพยพผิดกฎหมายและการลักลอบค้ายาเสพติด
อย่างไรก็ตาม แคนาดาและเม็กซิโกยังคงขู่ที่จะกำหนดภาษีตอบโต้กับสินค้าสหรัฐฯ ทำให้ทรัมป์ตัดสินใจระงับภาษีนำเข้าสำหรับแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 30 วัน แต่ยังคงภาษี 10% สำหรับสินค้าจากจีน
“ภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าจากจีนมีผลบังคับใช้แล้ว ไม่นานหลังจากนั้น จีนได้ประกาศกำหนดภาษีตอบโต้สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ”
ด้วยนโยบายนี้ Apple ต้องจ่ายภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 10% สำหรับสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าจากจีน หลายบริษัทคาดว่าจะส่งต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ให้กับผู้บริโภคผ่านการปรับขึ้นราคา อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Apple จะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไร อีกทางเลือกหนึ่งคือการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอง ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของบริษัทลดลง
เเหล่งที่มา – Tempo
