Apple ประกาศ ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2019 โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% แบบปีต่อปี สินค้า iPad, อุปกรณ์สวมใส่, บริการ ทำได้ดีในไตรมาสนี้
ผลประกอบการ Apple ไตรมาส 4 ปี 2019
Apple ปิดไตรมาส 4 ปี 2019 เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2019 มีรายได้ทั้งสิ้น 64 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในช่วง Apple คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ารายได้อยู่ช่วงประมาณ 61-64 พันล้านดอลลาร์, รายได้สุทธิประจำไตรมาส 3.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น (เพิ่มขึ้น 4%) และ Apple เผยว่าทำยอดขายในต่างประเทศได้ 60% ของรายได้ประจำไตรมาส
iPad, อุปกรณ์สวมใส่, บริการ ทำได้ดีในไตรมาสนี้
ในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ Apple ไม่ได้แจกแจงว่า iPhone, iPad, Mac และอื่น ๆ ขายไปได้กี่เครื่อง แต่รายได้ชี้ว่า Apple ขาย iPhone และ Mac ได้น้อยลงแต่ iPad, อุปกรณ์สวมใส่ บ้านและอุปกรณ์เสริม (Apple Watch) โดยเฉพาะธุรกิจบริการ ทำได้ดีขึ้นมาก
- iPhone : 33.3 พันล้านดอลลาร์
- Mac : 6.99 พันล้านดอลลาร์
- iPad : 4.56 พันล้านดอลลาร์
- อุปกรณ์สวมใส่, บ้านและอุปกรณ์เสริม : 6.52 พันล้านดอลลาร์
- บริการ : 12.51 พันล้านดอลลาร์
Tim Cook เผยว่าไตรมาส 4 ปี 2019 นี้เป็นไตรมาส 4 ดีที่สุดเท่าที่มีมาเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจบริการ อุปกรณ์สวมใส่และ iPad, พร้อมกับกระแสตอบรับของ iPhone รุ่นใหม่ที่ดีมาก ๆ และ Tim Cook ก็ได้พูดถึงการเปิดขาย AirPods Pro ใหม่, บริการ Apple TV+ ที่จะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ และเชื่อว่าทั้งสินค้าและบริการใหม่ ๆ จะได้รับความนิยมในช่วงวันหยุดปลายปี
“เราสรุปปีงบประมาณทางการเงินประจำปี 2019 ด้วยรายได้ประจำไตรมาสที่สี่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการเติบโตของธุรกิจบริการ อุปกรณ์สำหรับสวมใส่ และ iPad” Tim Cook CEO ของ Apple กล่าว “ด้วยกระแสตอบรับจากลูกค้าและนักรีวิวเกี่ยวกับ iPhone เจเนอเรชั่นใหม่ การเปิดตัว AirPods Pro ใหม่ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนในวันนี้ บริการ Apple TV+ ที่หลายคนรอคอยในอีกสองวันข้างหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้เรามั่นใจในไตรมาสเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง”
Apple ได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ไว้ดังนี้
- รายได้อยู่ระหว่าง 85 พันล้านดอลลาร์ ถึง 89.5 พันล้านดอลลาร์
- กำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 37.5 เปอร์เซนต์ ถึง 38.5 เปอร์เซนต์
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 9.6 พันล้านดอลลาร์ถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์
- รายได้/(รายจ่ายอื่นๆ) 200 ล้านดอลลาร์
- อัตราภาษี 16.5 เปอร์เซนต์
ที่มา – Apple Newsroom