ล่าสุด Apple ได้ประกาศตัวเลข ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2016 (สิ้นสุด ณ วันที่ 24/9/2016) มีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2016 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว
รายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2016 อยู่ที่ 46,000 ล้านดอลล่าร์ รายได้สุทธิอยู่ที่ 9,000 ล้านดอลล่าร์ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2016 คิดเป็น 11% แต่เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 Apple มีรายได้รวมลดลง 9%
โดยกลุ่มประเทศที่ทำรายได้หลักให้กับ Apple ในไตรมาสที่ 4 ปี 2016 คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาคือกลุ่มประเทศในยุโรป
ยอดจำหน่าย iPhone น้อยกว่าปีที่แล้ว
สำหรับสินค้าที่สร้างรายได้ให้ Apple ในไตรมาสที่ 4 ปี 2016 สูงสุดคือ iPhone มียอดจำหน่ายทั้งสิ้นประมาณ 45 ล้านเครื่อง ทำรายได้ 28,000 ล้านดอลล่าร์ แต่มี ยอดจำหน่ายตัวเครื่องลดลง 5% และรายได้ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 ที่จำหน่าย iPhone ได้ประมาณ 48 ล้านเครื่อง ทำรายได้ 32,000 ล้านดอลล่าร์
Tim Cook เผยว่า ค่อนข้างพึงพอใจ กับผลประกอบการในช่วงเดือนกันยายน 2016 โดยหวังว่าการเปิดจำหน่าย iPhone 7 / 7 Plus และ Apple Watch Series 2 จะช่วยดันรายได้ของ Apple ให้สูงขึ้น
คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2017
- รายได้ 76,000 – 78,000 ล้านดอลล่าร์
- อัตรากำไร (ขั้นต้น) 38 ถึง 38.5 เปอร์เซ็น
- การลงทุนด้านการปฏิบัติการ 6,900 – 7,000 ล้านดอลล่าร์
- รายได้อื่นๆ / การลงทุน 400 ล้านดอลล่าร์
- อัตราภาษี 26 เปอร์เซ็น
การที่ Apple พยากรณ์รายได้ไตรมาสแรกปี 2017 ไว้ว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 76,000 – 78,000 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ สูงกว่าไตรมาสที่ 4 ของปี 2016 คาดว่าเป็นการพยากรณ์จากยอดจำหน่าย iPhone 7/ 7 Plus และ Apple Watch Series 2 รวมถึงสินค้าอื่นๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว (หลังวันที่ 24/9/2016)
และสินค้าใหม่ที่คาดว่าจะเปิดในช่วงหลังเดือนกันยายน 2016 น่าจะเป็นสินค้ากลุ่ม Mac ที่จะเปิดตัว วันที่ 27/10/2016 นี้ โดยหลังจากนั้นอาจจะมีอุปกรณ์อื่นๆ (หน้าจอ 5K) เปิดตัวตามมาอีก ทำให้ในไตรมาสแรกของปี 2017 รายได้ของ Apple อาจจะเพิ่มขึ้นจากช่วงท้ายของปี 2016 ตามที่พยากรณ์ไว้ก็เป็นได้
ขอบคุณ – iclarified