เมื่อปี 2023, Apple ยอมจ่ายค่าปรับ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในคดี iPhone 7, 7 Plus ระบบเสียงมีปัญหาเนื่องจากปัญหาของตัวชิป และตอนนี้ Apple ทยอยแจ้งข้อมูลให้กับผู้เสียหายแล้ว
คดี iPhone 7, 7 Plus ระบบเสียงมีปัญหา
MacRumors รายงานข้อมูลว่า Apple เริ่มส่งอีเมลให้กับผู้เสียหายในสหรัฐ หลังถูกศาลสั่งให้จ่ายค่าปรับในคดี iPhone 7, 7 Plus ระบบเสียงมีปัญหา โดยผู้เสียหายจะเป็นกลุ่มผู้ใช้ iPhone 7, 7 Plus ช่วง 16 ก.ย. 2016 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2023 ที่ระบบเสียงมีปัญหา แล้วนำเครื่องไปซ่อมมาแล้ว (จ่ายเอง)
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018, ผู้ใช้ iPhone 7, 7 Plus รายงานปัญหาว่า หลังอัปเดตเป็น iOS 11.3 เจอปัญหาไมโครโฟน ระหว่างการโทรหรือ FaceTime ปลายทางไม่ได้ยินเสียง, ใช้เรียก Siri และอัดเสียงไม่ได้, ปุ่มลำโพงระหว่างโทรเป็นสีเทา กดไม่ได้
หลังทราบปัญหา Apple ก็เปิดโปรแกรมซ่อมฟรีปัญหาดังกล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน Apple ได้ยกเลิกการซ่อมฟรี iPhone 7, 7 Plus เครื่องหมดประกันที่เจอปัญหา ทำให้ผู้ใช้บางรายที่เจอปัญหาต้องเสียเงินซ่อมเอง แล้วในปี 2019 ก็มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
ต้นตอของปัญหาดังกล่าวศาลสหรัฐระบุว่า มาจาก “วัสดุที่ใช้ไม่ดีพอในการปกป้องชิ้นส่วนชิประบบเสียง” ส่งผลให้ชิประบบเสียงของ iPhone 7, 7 Plus มีปัญหา แต่ก็ไม่มีข้อมูลว่ามีผลกระทบต่อ iPhone กี่เครื่อง
สำหรับค่าปรับนั้น รายงานเผยว่ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคนที่จ่ายค่าซ่อมไปเองแล้วนั้นอาจได้รับเงินชดเชยสูงสุดที่ 349 ดอลลาร์, ส่วนคนอื่นอาจได้รับเงินชดเชยอยู่ที่ 125 ดอลลาร์ ซึ่งศาลสหรัฐจะทำการตรวจสอบเงื่อนไขชดเชย และอนุมัติในภายหลัง
ที่มา : MacRumors