in Apple Watch, Event, iPhone 2018, iPhone Xr, iPhone Xs, iPhone Xs Max

งาน Apple Special Event 2018 มีอะไรเปิดตัวบ้าง สรุปสั้นๆ เข้าใจง่าย

โดย Thitirath Kinaret 13/09/2018, 12:54 11K Views

Apple ได้จัดงาน Apple Special Event 2018 และได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง Apple Watch Series 4, iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone XR มาชมสรุปข้อมูลแบบกระชับกัน

งาน Apple Special Event 2018 มีอะไรเปิดตัวบ้าง

Apple Watch Series 4

Apple เริ่มด้วยการเปิดตัว Apple Watch Series 4 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 30% และเครื่องบางลง มีรุ่น 40 มม / 44 มม โดยในรุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงด้าน Hardware หลายจุดได้แก่

ใช้ชิพ S4 ตัวใหม่ (64-bit)
ย้ายตำแหน่งไมโครโฟนมาไว้ตรงกลางระหว่าง Digital Crown กับปุ่ม Power
เปลี่ยนวัสดุฝาหลังเป็นเซรามิก
เปลี่ยน Digital Crown แบบใหม่ รองรับ Haptic Feedback
ขยายหน้าจอใหญ่ขึ้น แสดงผลหน้าจอขอบมนเหมือน iPhone X

ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนั้นทำให้ Apple สามารถเพิ่มการแสดงผลข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอได้มากขึ้น และผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Watch Face ได้มากกว่าเดิม (มี Watch Face แบบใหม่หลายแบบ)

Apple เผยว่า Apple Watch Series 4 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง ออกกำลังกายได้ 6 ชั่วโมง และยังมี ECG รองรับการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ด้วย และการใส่เซ็นเซอร์ตัวใหม่ยังมีฟีเจอร์ช่วย Detect เราหากกำลังลื่นล้ม ตัวระบบจะโทรผ่าน Emergency ให้เลย (Fall Detection)

Apple Watch Series 4 ราคา 399 ดอลลาร์ในรุ่น GPS และ 499 ดอลลาร์ในรุ่น Cellular เปิดขายในกลุ่มประเทศแรกวันที่ 21 ก.ย. 2018 นี้

iPhone Xs และ iPhone Xs Max

iPhone Xs และ iPhone Xs Max เป็นสินค้าอีกตัวที่คนรอติดตามกันมากในงาน Event ครั้งนี้ โดย iPhone Xs และ iPhone Xs Max เป็นรุ่นปรับปรุงและหน้าจอขนาดใหม่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Apple ทำมา ดังนั้นในรุ่นนี้จะเน้นเรื่องการปรับสเปคจาก iPhone X เป็นหลัก

iPhone Xs นั้นมาพร้อมจอ OLED 5.8 นิ้วขนาดเท่ากับ iPhone X ส่วน iPhone Xs Max มาพร้อมจอ OLED 6.5 นิ้วเป็น iPhone จอใหญ่ที่สุด รองรับการใช้แนวนอนและทั้งคู่ใช้จอ Super Retina ที่มีการแสดงผลดีกว่า iPhone X รวมไปถึง Face ID แบบใหม่ที่เร็วขึ้น

Apple เผยว่า iPhone Xs และ iPhone Xs Max นั้นใช้วัสดุกระจกแบบใหม่ที่แข็งแรงที่สุดเท่าที่มีมา ใช้กรอบตัวเครื่องเป็นสแตนเลสตามสีเครื่องและรุ่นใหม่นี้มาพร้อมสี Gold สีใหม่ รวมไปถึงมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP68 (ครั้งแรก)

iPhone Xs และ iPhone Xs Max ใช้ชิพ A12 Bionic 8-Core แบบ 7nm ครั้งแรก ซึ่งไฮไลท์คือสามารถประมวลผลได้ 5 ล้านล้านคำสั่งใน 1 วินาที ส่วนแบตเตอรี่นั้น iPhone Xs ใช้งานได้นานกว่า iPhone X 30 นาที / iPhone Xs Max ใช้งานได้นานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที

การมาของชิพ A12 Bionic ที่ดีขึ้นนั้นส่งผลให้ iPhone Xs และ iPhone Xs Max ถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยมขึ้น เช่น ฟีเจอร์ Smart HDR ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายถาพ HDR ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องประมวลผลนานและผู้ใช้ยังสามารถปรับระดับความเบลอในโหมด Portrait ได้ด้วย

ไฮไลท์สำคัญที่ผู้คนติดตามกันคือเรื่อง Dual-SIM โดย iPhone Xs และ iPhone Xs Max นั้นจะรองรับการใช้ 2 ซิมแบบ Nano-SIM คู่กับ eSIM และใน iPhone Xs Max นั้นจะมี 1 โมเดลที่สามารถใส่ Nano-SIM คู่ได้โดยจะเปิดขายเฉพาะในจีนเท่านั้น

สำหรับราคานั้น iPhone Xs เปิดขายในระดับราคาเดียวกันกับ iPhone X คือ เริ่มที่ 999 ดอลลาร์ในรุ่น 64GB ส่วน iPhone Xs Max เปิดมาในราคาค่อนข้างสูงที่ 1099 ดอลลาร์ในรุ่น 64GB และทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความจุ 256GB และ 512GB เป็นความจุสูงสุด

Apple จะเปิดให้กลุ่มประเทศแรก Pre-Order ในวันที่ 14 ก.ย. 2018 นี้ และจะเปิดขายวันแรกวันที่ 21 ก.ย. 2018

iPhone XR

Apple ได้เปิดตัว iPhone XR ที่หลายคนบอกว่าจะเป็นรุ่นราคาย่อมเยาตามคาด โดย Apple เผยว่า iPhone XR เป็นประสบการณ์ของ iPhone X ที่มาอยู่ใน iPhone จอ LCD แบบใหม่

iPhone XR ใช้เทคโนโลยีจอ LCD แบบใหม่ชื่อว่า Liquid Retina ซึ่งคุณสมบัติโดยรวมสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับจอ OLED เช่นมี True Tone Display, มีฟีเจอร์ Tab to Wake, ตัด 3D Touch ออกไปแต่มี “Haptic Touch” มาแทน (การใช้งานใกล้เคียงกัน)

iPhone XR มาพร้อมสีใหม่ถึง 6 สีให้เลือก คือ สีขาว, ดำ, ฟ้า, เหลือง, ส้มคอรัล และ PRODUCT(RED) และตัวเครื่องนั้นใช้วัสดุกระจก ใช้กรอบอะลูมิเนียม (เหมือน iPhone 8)

iPhone XR ใช้ชิพ A12 Bionic สำหรับการระบุตัวตนนั้น iPhone XR ใช้ Face ID เหมือน iPhone Xs และมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP67 และรองรับ Dual-SIM แบบ Nano-SIM กับ eSIM

Apple เผยว่า iPhone XR จะเปิดขายช้ากว่า iPhone Xs โดยจะเริ่มเปิดให้ Pre-Order ในกลุ่มประเทศแรกวันที่ 19 ต.ค. 2018 และจะเปิดขายวันแรก 26 ต.ค. 2018 โดยราคาเริ่มต้นในรุ่น 64GB จะอยู่ที่ 749 ดอลลาร์และมีอีก 2 รุ่น คือ 128GB และ 256GB
____________

ทั้งหมดนี้เป็นสินค้าใหม่ที่ Apple ได้เปิดตัวในงาน Apple Special Event 2018 เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2018 ที่ผ่านมา ทีมงานได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องในช่วงวันงานมาให้ติดตามดังนี้