ชายคนหนึ่งใน New York ได้ฟ้อง Apple เรื่องฟีเจอร์ Two-Factor Authentication ว่าทำให้เสียเวลาในการยืนยันตัวตนมากและไม่สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้
Apple ถูกฟ้องเรื่องฟีเจอร์ Two-Factor Authentication
Jay Brodsky ได้ฟ้องศาล California โดยกล่าวหา Apple ว่า ได้เปิดใช้ฟีเจอร์ Two-Factor Authentication (การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย) โดยที่ไม่ขออนุญาตผู้ใช้ก่อน และการใช้งานมีความซับซ้อนทำให้ตัวเขาเองเสียเวลาในการใช้งานมากๆ และไม่สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้ด้วย
เอกสารของ Apple ระบุไว้ว่า Apple นั้นได้ปิดไม่ให้ผู้ใช้ปิดฟีเจอร์ Two-Factor Authentication หลังจากเปิดใช้งานไปแล้ว 2 สัปดาห์ เนื่องจากเพื่อความปลอดภัยและฟีเจอร์ใน iOS, macOS เวอร์ชันใหม่ๆ จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์นี้
ฉันจะปิดการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยหลังจากที่เปิดได้หรือไม่
หากคุณใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยอยู่แล้ว คุณจะไม่สามารถปิดได้อีก คุณสมบัติบางอย่างใน iOS และ macOS เวอร์ชั่นล่าสุดจำเป็นต้องใช้ระดับการรักษาความปลอดภัยพิเศษนี้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ หากคุณเพิ่งอัพเดทบัญชีของคุณ คุณสามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้เป็นเวลาสองสัปดาห์ เพียงเปิดอีเมลยืนยันการลงทะเบียนของคุณ และคลิกลิงก์เพื่อย้อนกลับไปเป็นการตั้งค่าความปลอดภัยเดิมของคุณ โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้จะทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยน้อยลง ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติที่ต้องใช้ความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้นได้
Apple เปิดใช้งานฟีเจอร์ Two-Factor Authentication มาตั้งแต่ปี 2015 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ของผู้ใช้มากขึ้น แต่ Brodsky เผยว่าฟีเจอร์นี้ทำให้เสียเวลา โดยใช้เวลานาน 2-5 นาทีกว่าจะเปิดใช้งานและยืนยันตัวตนแล้วเสร็จ
ประเด็นที่ Brodsky ฟ้องร้อง Apple ในเรื่องนี้หลักๆ ก็จะเป็นฟีเจอร์ Two-Factor Authentication ทำให้ตัวเขาเองเสียเวลาและ Apple ไม่อนุญาตให้ปิดฟีเจอร์นี้ ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไปว่า Apple จะตอบกลับในการฟ้องร้องนี้อย่างไร
ที่มา – macrumors
ข้อมูลเพิ่มเติม – การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID