Zakura Kim
Apple Watch ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเหลือในการดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากจะหาของขวัญในโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นวันแม่แห่งชาติ วันเกิดคุณพ่อคุณแม่ ลองอ่านฟีเจอร์สำหรับดูแลสุขภาพสำหรับญาติผู้ใหญ่ เพื่อพิจารณาในการตัดสินใจซื้อ Apple Watch ได้ดังนี้
4 ฟีเจอร์บน Apple Watch ที่ช่วยดูแลสุขภาพคุณแม่ในทุกๆ วัน
1. ตรวจจับการล้ม
ฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ใน Apple Watch Series 4 จะช่วยตรวจจับการล้มในแต่ละท่าทางของผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะลื่นล้ม ล้มแบบตีลังกา หรือล้มแรงๆ เซ็นเซอร์บน Apple Watch ก็จะคอยตรวจจับการล้มของผู้สวมใส่เสมอ
และในผู้สวมใส่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป การตรวจจับการล้ม (Fall Detection) จะเปิดใช้งานอัตโนมัติ โดยอ่านข้อมูลจาก Medical ID ที่เราบันทึกไว้ เมื่อ Apple Watch ตรวจพบการล้ม ภายใน 5 วินาทีและผู้สวมใส่ไม่มีการเคลื่อนที่ เครื่องจะแจ้งว่าจะเรียก SOS Emergency หรือไม่ และถ้ายังไม่มีการตอบสนองใดๆ ภายใน 60 วินาที นาฬิกาจะโทรออกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ และจะส่งข้อความถึงคนในรายชื่อติดต่อฉุกเฉินที่บันทึกใน Medical ID
ที่ผ่านมาก็มีรายงานจากหลายประเทศที่ระบุว่าฟีเจอร์ตรวจจับการล้มนี้ช่วยเหลือชีวิตผู้สูงอายุได้ จากอุบัติเหตุและการล้มป่วยเฉียบพลัน
2. แจ้งเตือนหัวใจเต้นผิดปกติ
บน Apple Watch มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและผู้ใช้ก็สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนหัวใจเต้นช้าหรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ โดยปกติอัตราการเต้นของหัวใจในเวลาที่ไม่ได้เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายจะอยู่ที่ประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที
แต่เมื่อเราตั้งค่าไว้ว่าถ้าอัตราการเต้นของหัวใจช้ากว่า 50 ครั้งต่อนาที หรืออัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 110 ครั้งต่อนาที ซึ่งมีความผิดปกติ บ่งบอกถึงสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้ Apple Watch ก็จะแจ้งเตือนให้ทราบและแนะนำให้พบแพทย์ทันที ก็ช่วยเซฟปัญหาสุขภาพได้
ฟีเจอร์การตรวจจับหัวใจเต้นช้าผิดปกติสามารถใช้งานบน watchOS 5 ซึ่งใช้งานได้ใน Apple Watch Series 1 เป็นต้นไป
3. การออกกำลังกาย
ฟีเจอร์การออกกำลังกาย (Workout) เป็นฟีเจอร์ที่คนสวมใส่ Apple Watch ต้องใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว มีกิจกรรมการออกกำลังกายหลายประเภทให้เลือกมากมายตามีความเหมาะสมของผู้ใช้ ถ้าเป็นผู้มีอายุก็อาจจะเลือก การเดินกลางแจ้ง เดินในร่ม โยคะ หรือการปั่นจักรยาน ที่เป็นการออกกำลังกายเบาๆ สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงอยู่เสมอ
นอกจากนี้ Apple Watch ยังมีวงแหวนกิจกรรม (Activity Ring) ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้เคลื่อนไหว ออกกำลังกาย ยืน จนปิดวงแหวนทั้ง 3 วงได้ในทุกๆ ก็ช่วยเรื่องสัุขภาพได้ดีเช่นกัน สามารถใช้งานได้บน Apple Watch ทุกรุ่น
4. การหายใจ
แอปการหายใจ (Breathe) บน Apple Watch จะช่วยฝึกการหายใจลึกๆ อย่างถูกจังหวะได้ ซึ่งการหายใจเข้านั้นเป็นการนำเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายและเข้าไปสู่อวัยวะต่างๆ ที่ช่วยให้การทำงานระหว่างอวัยวะประสานกันได้ดี และออกซิเจนที่เข้าไปนั้นสามารถขจัดของเสียหรือสารพิษที่ตกค้างให้ออกจากร่างกายได้
การหายใจเข้าออกลึกๆ ยังช่วยฝึกสมาธิได้ดีอีกด้วย สามารถทำได้ทุกวันทั้งก่อนนอนหรือหลังจากตื่นนอน ก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นตลอดทั้งวัน สามารถใช้งานได้บน Apple Watch ทุกรุ่น
นอกจากฟีเจอร์ด้านสุขภาพแล้ว Apple Watch ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อผู้สูงอายุอีกมากมาย เช่น Wakie-Talkie ที่เอาไว้สื่อสารกับลูกหลานได้ง่ายขึ้น, SOS Emergency ช่วยติดต่อหน่วยฉุกเฉินและแสดงข้อมูลสุขภาพในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
รวมถึงรอใช้งานฟีเจอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เมื่อได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศไทย หรือจะโหลดแอปเสริมมาช่วยในด้านการติดตามการนอนหลับ การฝึกสมาธิ หรือการออกกำลังกายอื่นๆ ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุได้อีกด้วย
ฟีเจอร์สุขภาพอื่นๆ ที่จะมาพร้อมกับ watchOS 6 ปลายปีนี้
เตรียมพบกับฟีเจอร์ด้านสุขภาพใน watch OS 6 ที่จะมาพร้อมกับฟีเจอร์การตรวจจับเสียงรบกวน ที่จะคอยแจ้งเตือนระดับเดซิเบลจากเสียงรอบด้าน พร้อมให้คำแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง และยังมีฟีเจอร์การติดตามรอบเดือนสำหรับคุณแม่ที่อยู่ในวัยใกล้หมดรอบเดือนแล้ว ก็ติดตามความผิดปกติต่างๆ ได้
กำลังมองหา Apple Watch ให้ญาติผู้ใหญ่
สำหรับใครที่อยากจะหาของขวัญในโอกาสพิเศษให้คุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ด้วย Apple Watch เพื่อช่วยดูแลสุขภาพ สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่าง Studio 7 ที่มีทั้ง Apple Watch Series 3 และ Apple Watch Series 4 รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ค้นหา Studio 7 สาขาใกล้บ้าน : https://www.studio7thailand.com/stores/
