in , ,

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก Apple Watch Series 3 เทียบกับ Apple Watch Series 7 รุ่นล่าสุด

Apple Watch Series 3 เดินทางมาไกลพอสมควร หลังจากเปิดตัวมา 5 ปีแล้ว ก็ยังคงเป็นรุ่นเก่าที่สุดที่ยังคงเปิดขายอยู่ สำหรับใครที่กำลังพิจารณาจะเปลี่ยน Apple Watch รุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Series 7 ในรุ่นปัจจุบันหรือรุ่น Series 8 ที่กำลังจะเปิดตัว ทีมงานมีสรุปสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมาให้ชมกันค่ะ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก Apple Watch Series 3 เทียบกับ Apple Watch Series 7 รุ่นล่าสุด

ข้อมูลต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก Apple Watch Series 3 เทียบกับ Apple Watch Series 7 รุ่นใหม่ล่าสุดในปัจจุบัน รวมถึงมีข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของ Apple Watch Series 8 ที่อ้างอิงจากข่าวลือ โดยแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้

ด้านฮาร์ดแวร์

จอภาพออกแบบใหม่

การแสดงผลหน้าจอของ Apple Watch Series 3 มีรูปแบบเป็นสี่เหลี่ยมที่มีของเหลี่ยม และขอบค่อนข้างหนา เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 7 แล้ว พื้นที่หน้าจอมากกว่า Series 3 กว่า 50% มุมทั้ง 4 ด้านเป็นแบบโค้งมนและขอบหน้าจอบางลง การแสดงผลบนหน้าจอใหญ่ชัดเจน แสดงผลเนื้อหาได้มากขึ้น คาดว่า Apple Watch Series 8 ก็จะมีจอภาพเหมือนกับ Series 7

วัสดุทนทานและมีให้เลือกหลากหลาย

Apple Watch Series 3 ที่เปิดขายในปัจจุบัน ตัวเรือนจะมีเพียงวัสดุอะลูมิเนียมให้เลือกเท่านั้น ส่วนกระจกด้านหน้าเป็นแบบ Ion-X ส่วน Apple Watch Series 7 มีวัสดุตัวเรือนให้เลือกมากกว่า ทั้งวัสดุอะลูมิเนียม ที่ใช้กระจกด้านหน้า แบบ Ion-X และวัสดุสแตนเลสสตีล, ไทเทเนียม ที่ใช้กระจกด้านหน้าแบบคริสตัลผลึกแซฟไฟร์ที่มีความทนทานมากกว่าแบบ Ion-X

รวมถึง Apple Watch Series 7 ยังมีสีตัวเรือนให้เลือกมากกว่าอีกด้วย

ตัวเรือนขนาดใหญ่

ขนาดตัวเรือนของ Apple Watch Series 3 มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 38 มม. และ 42 มม. ด้วยขอบหน้าจอที่หนาทำให้กินพื้นที่การแสดงผลค่อนข้างมาก ส่วน Apple Watch Series 7 ก็มาพร้อม 2 ขนาดเช่นกัน แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าคือ ขนาด 41 มม. และ 45 มม. รวมถึงขอบหน้าจอที่บาง จึงทำให้มีพื้นที่การแสดงผลใหญ่กว่า ส่วน Apple Watch Series 8 ข่าวลือระบุว่าจะมีขนาดตัวเรือนที่ใหญ่กว่า Series 7

Digital Crown ใหม่

Apple Watch ทุกรุ่นมาพร้อมกับปุ่ม Digital Crown แต่ Apple Watch Series 4 ขึ้นไปนั้น ปุ่ม Digital Crown มีการตอนสนองแบบสั่นหรือ Haptic Feedback โดยจะมีการสั่นเล็กน้อย ผู้ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การสัมผัสและตอบสนองได้ด้ีขึ้น เมื่อเลื่อนดูเนื้อหา

จัดวางลำโพงใหม่ ดังขึ้น

Apple Watch Series 3 มีลำโพงขนาดเล็กจำนวน 2 ช่อง เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 7 แล้วลำโพงของ Series 7 มีขนาดใหญ่กว่า เนื่องจาก Apple ได้ออกแบบระบบลำโพงใหม่ให้วางเป็นแนวยาวด้านข้างของนาฬิกา ทำให้ลำโพงใหญ่ขึ้นและดังขึ้นถึง 50%

หน้าจอ Always-on Display

หน้าจอแสดงผลแบบติดตลอดหรือ Always-on Display ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ Apple Watch Series 5 โดยจะแสดงหน้าปัดนาฬิกาหรือหน้าจอที่เปิดไว้อยู่ตลอดเวลา โดย Apple Watch รุ่นใหม่ ๆ จะมีจอ Always-on Display ที่สว่างขึ้น 70% ส่วน Apple Watch Series 3 ไม่มีคุณสมบัตินี้ เมื่อพลิกข้อมือลง หน้าจอก็จะดับสนิทเลย

ฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนส

วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2)

ตั้งแต่ Apple Watch Series 6 เป็นต้นมา (ยกเว้น Apple Watch SE) Apple ได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ “การวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2)” โดยมีเซ็นเซอร์สำหรับวัดที่ข้อมือเป็นเวลา 15 วินาทีและอ่านปริมาณออกซิเจนในเลือดของผู้สวมใส่ ซึ่งใน Apple Watch Series 3 ไม่มีฟีเจอร์นี้

 ตรวจจับการล้ม

Apple Watch Series 4 ขึ้นไปมีฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ที่สามารถตรวจจับการล้มหลายรูปแบบของผู้ใช้ได้ และหากพบว่าผู้ใช้ไม่มีการตอบสนองบนหน้าจอ Apple Watch นาฬิกาก็จะแจ้งไปยังหน่วยฉุกเฉิน เพื่อขอความช่วยเหลือทันที ช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งใน Apple Watch Series 3 ไม่มีฟีเจอร์นี้

ปรับปรุงเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

Apple Watch Series 4 ขึ้นไป ได้รับการปรับปรุงเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ดีขึ้น และมีเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจด้วยไฟฟ้า เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 3 แล้ว Apple Watch รุ่นใหม่ ๆ อ่านค่าอัตราการเต้นของหัวใจของผู้สวมใส่ได้แม่นยำมากขึ้น

วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG/EKG)

Apple Watch Series 4 ขึ้นไป (ยกเว้น Apple Watch SE) สามารถวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG/EKG) บนข้อมือได้ โดยวางนิ้วบนปุ่ม Digital Crown 30 วินาที แล้วก็รอผลการตรวจวัด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บในแอปสุขภาพ (Health) บน iPhone สามารถแชร์ให้กับแพทย์ผู้รักษาได้ ซึ่ง Apple Watch Series 3 ไม่มี

นอกจากนี้ Apple Watch รุ่นที่รองรับการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจยังสามารถตรวจจับจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอได้ สำหรับตรวจหาภาวะ AFib

อาจจะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกายใน Apple Watch Series 8

มีข่าวลือมาค่อนข้างบ่อยสำหรับฟีเจอร์การวัดอุณหภูมิร่างกายที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ Apple Watch Series 8 ซึ่งข้อมูลยังไ่แน่ชัดว่า Apple Watch จะอ่านอุณหูมิเป็นองศาเซลเซียสเลยหรือไม่ หรืออาจจะแค่บอกได้ว่าผู้สวมใส่กำลังมีไข้หรือไม่มีไข้ และมีข้อแนะนำให้ไปพบแพทย์

***ฟีเจอร์นี้ยังไม่มีให้ใช้งานบน Apple Watch รุ่นปัจจุบัน เป็นเพียงข่าวลือของ Apple Watch Series 8 เท่านั้น

ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่

ชิปประมวลผลใหม่ ประสิทธิภาพเร็วขึ้น

Apple Watch Series 3 นั้น ใช้ชิปประมวลผล SiP รุ่น S3 แบบ Dual-Core แน่นอนว่าเป็นชิปปมวลผลที่เก่าแล้ว ส่งผลให้การทำงานช้า เมื่อทำงานร่วมกับ watchOS ใหม่ ๆ การเคลื่อนไหวอาจจะกระตุก ไม่ราบรื่น หากเทียบกับ Apple Watch Series 7 ที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่น S7 แบบ Dual‑core 64 บิต การทำงานของ Apple Watch Series 7 ก็จะเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า

การเชื่อมต่อบลูทูธแม่นยำและเร็วขึ้น

Apple Watch Series 3 ใช้เทคโนโลยี Bluetooth 4.2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเก่า เมื่อเทียบกับ Apple Watch รุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้ Bluetooth 5.0 แล้ว การเชื่อมต่อของรุ่นใหม่จะรวดเร็วและแม่นยำมากกว่า

มีชิป U1 Ultra Wideband

Apple Watch Series 3 ไม่มีชิป U1 Ultra Wideband ซึ่งชิปนี้ถูกใส่มาใน Apple Watch Series 6 และ Series 7 โดยสามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ที่มีชิป U1 ได้อย่างแม่นยำมาก

รองรับการชาร์จเร็ว

Apple Watch ทุกรุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมงเท่ากัน แต่แน่นอนว่าบางครั้งเราก็อาจจะใช้งาน Apple Watch หลากหลายกิจกรรม ทำให้พลังงานแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าการใช้งานปกติ

แต่สิ่งที่ Apple Watch Series 7 โดดเด่นในเรื่องของพลังงานมากกว่า Apple Watch Series 3 ก็คือ การรองรับการชาร์จเร็ว โดยใช้สายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C ทำให้ชาร์จเร็วขึ้น และนำกลับมาใช้งานได้ยาวนานขึ้น

การอัปเดตซอฟต์แวร์

Apple Watch Series 3 อัปเดต watchOS 9 ไม่ได้แล้ว

เดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว watchOS 9 ใหม่ ซึ่ง Apple Watch Series 3 ไม่ได้ไปต่อหรือไม่รองรับการใช้งานกับ watchOS 9 นั้นเอง รุ่นที่สามารถใช้งานได้ก็จะเป็น Apple Watch Series 4 ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม Apple Watch Series 3 ก็จะยังคงได้รับการอัปเดตเล็ก ๆ น้อย ๆ ใน watchOS 8 ซึ่งเป็นการอัปเดตการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ

สิ่งอื่น ๆ ที่ผู้ใช้จะได้รับ หลังจากอัปเกรดจาก Apple Watch Series 3 เป็น Apple Watch Series 7

  • ได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้น เป็น 32GB จากเดิม Apple Watch Series 3 จะมีเพียง 8GB เท่านั้น
  • มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชอบปีนเขาหรือนักกีฬา
  • รองรับการตั้งค่าแบบครอบครัว
  • สามารถเลือกซื้อรุ่น GPS + Cellular ได้ เนื่องจากปัจจุบัน Apple หยุดจำหน่าย Apple Watch Series 3 ใน Apple Store แล้ว (แต่ร้านตัวแทนอื่น ๆ อาจจะมี)

สำหรับใครที่กำลังพิจารณาว่าจะอัปเกรดจาก Apple Watch Series 3 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Series 7 หรือกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ Apple Watch Series 3 ที่ยังคงเปิดขายในปัจจุบันอยู่หรือไม่ ก็ลองอ่านข้อมูลเปรียบเทียบนี้และพิจารณากันดูนะคะ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและการใช้งานด้วย

ที่มา MacRumors

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University