Apple Watch เป็นอุปกรณ์ไอทีที่จะต้องได้รับการดูแลรักษาทั้งสภาพภายนอกและความปลอดภัยของระบบภายใน วันนี้ทีมงานจึงมีคำแนะนำ 5 ข้อที่จะช่วยดูแล Apple Watch ของคุณให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ยาวนานคุ้มค่า
5 คำแนะนำที่จะช่วยดูแล Apple Watch ของคุณให้ใช้งานมีประสิทธิภาพ
1. ไม่ควรใช้สายที่มีคุณภาพต่ำ
สาย Apple Watch จากร้านนอกมีราคาที่ถูก แต่ปัญหาที่พบบ่อยก็คือ สายไม่สามารถสวมใส่กับเครื่อง Apple Watch ได้หรือสวมใส่แล้วไม่กระชับพอดี จึงทำให้ตัวเครื่องหลุดออกจากสายแล้วตกหล่นระหว่างที่ออกกำลังกายหรือสวมใส่ Apple Watch ประจำวัน ทำให้หน้าจอแตก ตัวเครื่องมีรอยบุบ
และสิ่งที่พบรองลงมาก็คือ การแพ้วัสดุที่นำมาผลิตสาย ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังในบางคน ด้วยวัสดุที่อาจจะมีคุณภาพต่ำหรือไม่ได้ผ่านกระบวนการทดสอบที่ดีพอ
แต่บางคนก็พบว่ามีอาการแพ้วัสดุที่ใช้ทำสาย Apple Watch ของ Apple แต่ทาง Apple เองก็มีหลากหลากวัสดุให้เลือก ก็สามารถเลือกซื้อให้เหมาะกับสภาพผิวของตนได้นะคะ เพราะการสวมใส่สายกับตัวเครื่องน่าจะปลอดภัยมากกว่า ชม ซื้อสาย Apple Watch ของ Apple หรือร้านทั่วไป เลือกซื้อที่ไหนดี [ความเห็นจากทีมงาน]
2. สวมใส่ Apple Watch ให้กระชับข้อมือ
แน่นอนว่าการสวมใส่นาฬิกาหรือสายรัดข้อมือจะต้องสวมใส่ให้กระชับปรับสายให้พอดีไม่หลวมหรือไม่แน่นเกินไป ซึ่ง Apple Watch ก็เช่นกัน คุณต้องสวมใส่ Apple Watch ให้กระชับข้อมือ รู้สึกสบาย
- หากสวมใส่รัดแน่นอนจนเกินไป อาจจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและปวดเมื่อย เนื่องจากบริเวณข้อมือมีเส้นประสาทวิ่งผ่านมากมาย อาจทำให้เกิดอาการกดทับได้
- ถ้าสวมใส่หลวมจนเกินไป ก็จะส่งผลให้การวัดอัตราการเต้นของหัวใจมีความคลาดเคลื่อนได้ วัดได้ไม่แม่นยำ
ดังนั้นควรรัดให้พอดี ถ้าหากสาย Sport Band หรือสายที่มีรู ไม่พอดีกับข้อมือของคุณ ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้สาย Sport Loop แทนได้ เพราะเราสามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ
3. อย่าปล่อยให้ Apple Watch ร้อนจนเกินไป
เพื่อเป็นการป้องกันความร้อนที่จะเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง Apple Watch แนะนำว่าไม่ควรทิ้ง Apple Watch ไว้บนแท่นชาร์จเป็นเวลานาน แต่ที่สำคัญกว่าก็คือไม่ควรให้ Apple Watch อยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงมีอากาศร้อนมากเกินไป
ปกติแล้ว เราสามารถเก็บ Apple Watch ที่อุณหภูมิระหว่าง -20° ถึง 45° C แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ 0° ถึง 35° C เราควรหลีกเลี่ยงความร้อนดังนี้
- ไม่ควรชาร์จ Apple Watch ในที่อุณหภูมิสูง หรือนำ Apple Watch ไปวางไว้ให้โดนแสงแดดโดยตรง เช่น วางไว้หน้ารถ วางไว้ริมหน้าต่างที่โดยแดด เป็นต้น (โดยเฉพาะระหว่างที่มีการอัปเดต watchOS ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ร้อนจัด)
- แนะนำว่าไม่ควรใช้แท่นชาร์จที่ไม่ได้จำหน่ายโดย Apple
หากเครื่องร้อน Apple Watch จะแจ้งเตือนให้คุณทราบ ซึ่งการแจ้งเตือนบ่อยๆ ไม่เป็นผลดีมากนัก เนื่องจากจะทำให้อายุของแบตเตอรี่สั้นลง
4. อย่าละเลยการทำความสะอาด
อุปกรณ์ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Apple Watch หรือหูฟังต่างๆ ที่มีการสัมผัสกับผิวของเราโดยตรง ต้องได้รับการทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะ Apple Watch ที่เป็นอุปกรณ์เสริมระหว่างออกกำลังกาย ต้องมีการสัมผัสเหงื่อและสิ่งสกปรกรอบข้าง
ดังนั้นเราควรทำความสะอาด Apple Watch หลังจากใช้งานมาทั้งวันหรือหลังออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีและการทำความสะอาดก็ต้องทำอย่างถูกต้องด้วย
ใช้ผ้าไฟเบอร์ชุบน้ำเปล่าเล็กน้อย เช็ดทำความสะอาดตัวเรือน Apple Watch ทุกซอกทุกมุม ไม่ควรใช้สบู่หรือสารเคมีทำความสะอาด Apple Watch ส่วนสาย Apple Watch ก็ให้ทำความสะอาดตามวัสดุ ชมวิธีการทำความสะอาด Apple Watch อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ควรศึกษาเรื่องการทนน้ำทนฝุ่นของ Apple Watch แต่ละรุ่นด้วยว่าทนน้ำได้ระดับไหน และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมประเภทใดบ้างที่จะทำให้ Apple Watch เกิดความเสียหาย อ่านรายละเอียดได้ที่นี่
5. แนะนำให้ใช้รหัสผ่าน
ถึงแม้ว่า Apple Watch จะเป็นอุปกรณ์ที่อยู่บนข้อมือของเราตลอดเวลา แต่บางครั้งเวลาที่เราชาร์จหรือเผลอถอดไว้ในสถานที่อื่นๆ ก็อาจจะทำให้คนไม่หวังดีมาใช้งานเครื่องของเราได้
การตั้งค่ารหัสผ่านปลดล็อกเครื่องจึงสำคัญมาก เพราะช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลภายใน Apple Watch ไม่ว่าจะเป็นอีเมล ข้อความ หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่แสดงบน Apple Watch ได้ หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยก็ควรตั้งรหัสผ่านไว้ ซึ่งใน watchOS สามารถตั้งค่ารหัสผ่านได้ 6-10 หลัก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณใช้ Apple Watch ได้อย่างมีประสิทธิภาพและดูและรักษาให้ใช้ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น หากดูแลรักษาไม่ดีจนทำให้เครื่องเกิดมีปัญหาก็จะต้องส่งซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ราคาซ่อมจอ เปลี่ยนแบต เปลี่ยนเครื่อง Apple Watch จาก Apple อัปเดต ธ.ค. 2561
ขอบคุณ idropnews