เป็นที่ทราบกันดีว่า Apple Watch สามารถกันน้ำได้ แต่ Apple Watch แต่ละรุ่นก็มีลิมิตความสามารถในการทนน้ำ ก่อนที่เราจะสวมใส่ Apple Watch ไปดำน้ำ มาเช็คกันก่อนดีกว่าว่า Apple Watch แต่ละรุ่นกันน้ำได้ระดับไหน และควรทำอย่างไรเมื่อ Apple Watch เปียกน้ำ
Apple Watch แต่ละรุ่นกันน้ำได้ระดับไหน
Apple ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติการทนน้ำของ Apple Watch แต่ละรุ่น ดังนี้
Apple Watch รุ่นที่ 1 (Generation 1) และ Apple Watch Series 1
มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IPX7 ตามมาตรฐาน IEC 60529 หมายความว่าทนต่อน้ำสาดและกระเซ็น แต่ไม่แนะนำจุ่มหรือแช่ในน้ำ สามารถป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกายได้ แต่ว่ายน้ำและดำน้ำในทะเลไม่ได้
Apple Watch Series 2, Series 3, Series 4, Series 5, Series 6 และ Apple Watch SE
มีความสามารถในการทนน้ำระดับ 50 เมตรตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 สามารถใส่อาบน้ำ ว่ายน้ำในสระ หรือดำน้ำตื้นในทะเลได้ แต่ไม่สามารถดำน้ำลึกเกิน 50 เมตร และไม่ควรใส่เล่นสกีน้ำหรือกิจกรรมทางน้ำที่มีความเร็วสูง
แต่สำหรับการใส่อาบน้ำนั้น ควรระวังไม่ให้ Apple สัมผัสสบู่ แชมพู ครีมนวดผม โลชั่น และน้ำหอม เนื่องจากสารเคมีนี้ส่งผลเสียต่อผนึกกันน้ำและแผ่นอะคูสติก เมื่อ Apple Watch สัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดและเช็คให้แห้งด้วยผ้าที่ไม่เป็นขุย
การทนน้ำของ Apple Watch ไม่คงอยู่ถาวร เนื่องจากการเสื่อมสภาพของผนึกกันน้ำและแผนอะคูสติกที่เสื่อมตามกาลเวลา ไม่สามารถนำ Apple Watch ไปปิดผนึกใหม่ได้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีดูแลรักษาและป้องกัน Apple Watch ให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้น
เมื่อ Apple Watch เปียกน้ำควรทำอย่างไร
- หาก Apple Watch ถูกน้ำกระเซ็นใส่ ให้ใช้เช็ดด้วยผ้าที่ไม่เป็นขุยและไม่ดำให้เกิดรอยเช็ดตัวเรือนและสายจดแห้ง ไม่ควรใช้ไดรฟ์เป่า ลมอัด หรือสเปรย์ทำความสะอาดเด็ดขาด
- สำหรับ Apple Watch Series 2, Apple Watch Series 3 และ Apple Watch Series 4 หลังจาก Apple Watch สัมผัสเหงื่อจากการออกกำลังกาย หรือหลังจากว่ายน้ำมา ให้ล้าง Apple Watch เบาๆ ด้วยน้ำอุ่น และเช็ดตัวเรือนกับสายให้แห้งสนิท
- ก่อนว่ายน้ำให้เปิดโหมด Water Lock เพื่อล็อคการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อว่ายน้ำเสร็จก็หมุนปุ่ม Digital Crown เพื่อปลดล็อคหน้าจอ รวมถึงไล่น้ำออกจากลำโพง และถ้าหากลำโพงยังดังไม่ชัดเจนก็สามารถใช้โหมด Water Lock และปลดล็อคใหม่อีกครั้ง
- หมายเหตุ ถ้าหากลำโพงไม่ชัด ไม่ควรใส่สิ่งใดๆ ลงไปในช่องไมโครโฟนหรือลำโพง และห้ามเขย่านาฬิกาเพื่อเอาน้ำออก และการชาร์จ Apple Watch ทิ้งไว้ตลอดคืนอาจช่วยให้น้ำระเหยหมดเร็วขึ้นได้
- สำหรับ Apple Watch Series 1 และ Apple Watch รุ่นที่ 1 สามารถตรวจสอบดูว่ามีน้ำอยู่ในไมโครโฟนหรือลำโพงได้ ให้วางอุปกรณ์บนผ้าโดยให้ด้านที่มีลำโพงอยู่ด้านล่าง และสังเกตดูว่ามีน้ำหมดออกมาหรือไม่ เนื่องจากน้ำที่ขังอยู่ในช่องลำโพงหรือไมโครโฟนอาจจะทำให้เสียงไม่ชัด จนกว่าน้ำจะระเหยออกจนหมด
- Apple Watch Series 1 หรือรุ่นก่อนหน้า ตรวจสอบดูว่ามีน้ำอยู่ในไมโครโฟนหรือลำโพงหรือไม่โดยวางอุปกรณ์ให้ด้านที่มีลำโพงอยู่ด้านล่างบนผ้าที่ไม่เป็นขุยและไม่ทำให้เกิดรอย แล้วดูว่ามีน้ำหยดออกมาหรือไม่ น้ำที่ขังอยู่ในช่องอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลำโพงหรือไมโครโฟนลดลงจนกว่าน้ำนั้นจะระเหยออกจนหมด
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการทนน้ำของ Apple Watch แต่ละรุ่น รวมถึงวิธีการปฏิบัติเมื่อ Apple Watch เปียกน้ำ ดังนั้นก่อนที่จะสวมใส่ Apple Watch ของคุณไปทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสน้ำ ก็ควรเช็คก่อนนะคะว่า Apple Watch สามารถทนน้ำได้ระดับไหน และควรระวังสิ่งใดบ้าง
ของคุณ Apple Support