การ Work From Home กลับมาอีกครั้ง และ iPad ก็เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยให้การเรียนออนไลน์ การจดโน๊ตของเราง่ายขึ้น มาพร้อมแอปดี ๆ ที่เราอยากจะมาแนะนำให้ลองใช้
แนะนำแอปจด Note และเทคนิคในการจดโน้ตสุดคูลบน iPad อัปเดต 2021
แอปสำหรับ iPad ที่เราอยากแนะนำ
1. โน้ต (Notes) ของ iPadOS
แอปโน้ตถือเป็นแอปที่รองรับการทำงานของ Apple Pencil ได้อย่างเพอร์เฟคที่สุด สามารถค้นหาข้อความ ทำสัญลักษณ์ สเก็ชภาพ ตลอดจนจดข้อมูลต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล จดโน้ตร่วมกัน เซฟเป็นโฟลเดอร์ ใส่รหัส สแกนเอกสารแล้วเซ็นต์ ตลอดจนค้นหาข้อมูลที่จดไว้ ก็ทำได้ในแอปเดียว ดาวน์โหลด ที่นี่ (ฟรี)
2. Explain Everything Whiteboard
เหมาะสำหรับการเรียนออนไลน์ที่ทุกคนสามารถโต้ตอบและแบ่งปันไอเดียไปพร้อม ๆ กันได้ผ่านไวท์บอร์ดแบบดิจิตอล ที่มีบรัชให้เลือกจำนวนมาก รวมถึงยังสามารถแทรกไฟล์ต่าง ๆ เข้าไปได้ ทำให้ทุกคนสามารถเรียนหรือพรีเซนท์งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ดาวน์โหลด ที่นี่ (ฟรี)
3. Zinnia Journal & Planner
Zinnia แอปจดโน้ต ทำแพลนเนอร์ที่มี template สวย ๆ มากมายให้เลือกใช้ และเมื่อใช้งานคู่กับ Apple Pencil ก็ช่วยให้การจดของเราสนุกกว่าที่เคย ดาวน์โหลด ที่นี่ (ฟรี)
4. GoodNotes 5
บน GoodNotes สามารถจดโน้ต หรือไฮไลต์เอกสารต่าง ๆ ได้ทั้งไฟล์ PDF และ Word เสิร์ชค้นหาไฟล์ได้สะดวก และยังจัดระเบียบแยกเป็นโฟลเดอร์ได้อย่างง่ายดาย โน้ตที่จดก็รองรับฟีเจอร์ Drag and Drop เพื่อไปใช้งานบนแอพอื่น ๆ ต่อได้ อาทิ Mail โดยจะเปลี่ยนจากลายมือให้กลายเป็นตัวพิมพ์โดยอัตโนมัติ ดาวน์โหลด ที่นี่ (฿249)
5. Notability
แอป Notability มีจุดเด่นคือสามารถอัดเสียงควบคู่ไปกับการจดโน้ตได้ ช่วยให้กลับมาทบทวนสิ่งที่เรียนและจดไว้ได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถวาดภาพหรือเพิ่มไฟล์ต่าง ๆ เข้าไปได้มากมาย เมื่อใช้งานคู่กับ Apple Pencil จะทำให้สามารถขีดเขียนได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับการสร้างออฟฟิศหรือห้องเรียนแบบไร้กระดาษ ดาวน์โหลด ที่นี่ (฿279)
6. Reflectly
บันทึกส่วนตัวที่จะช่วยสอนให้เรารู้จักควบคุมอารมณ์ ลดความตึงเครียด และช่วยสร้างมุมมองใหม่ ๆ โดยจะมีตัวลือกให้บันทึกอารมณ์ในแต่ละวันเป็นระดับ จากนั้นให้ใส่สาเหตุ แล้วจะมีข้อความหรือคำถามเพื่อช่วยปลอบประโลม แอป Reflectly เหมาะสำหรับคนที่ชอบเขียนบันทึกและต้องการพูดคุยกับใครสักคน ดาวน์โหลด ที่นี่ (ฟรี)
7. Mooda
บันทึกอารมณ์ความรู้สึกของเราในแต่ละวันผ่านไอคอนน่ารัก ๆ อาทิ มีความสุข โกรธ กังวล ฯลฯ ทำให้เราสามารถติดตามและเห็นภาพรวมความรู้สึกของตัวเองได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงมีช่องสำหรับจดบันทึกสั้น ๆ และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันอีกด้วย ดาวน์โหลด ที่นี่ (฿29)
ทริกในการจดโน้ตได้ดีกว่าที่เคยด้วย Apple Pencil
การจดโน้ตบน iPad สามารถทำได้ลื่
- Smart Selection ใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแยกแยะระหว่างลายมือและรูปวาด จึงสามารถเลือก ตัด และวางข้อความที่เขียนด้วยลายมือลงในเอกสารอีกฉบับในรูปแบบของตัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย
- Tap to select อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน เพียงแค่แตะเบา ๆ ที่ Apple Pencil 2 ครั้ง จะเป็นการเลือกคำ แต่ถ้าแตะ 3 ครั้ง จะเป็นการเลือกข้อความทั้งประโยค ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องง่าย ๆ
- Copy and paste as text ทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้เราคัดลอกลายมือแล้วเปลี่ยนเป็นตัวพิมพ์ได้ โดยยังคงยึดเลย์เอ้าท์เดิมเหมือนที่คุณเขียนไว้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบจดโน้ตด้วยลายมือตัวเอง แต่ก็ต้องการเก็บไฟล์แบบตัวพิมพ์ไว้ด้วย ที่สำคัญคือข้อมูลจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยและสามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้
- Data detectors หลังจากที่จดข้อมูลต่าง ๆ อาทิ ที่อยู่ เบอร์โทร หรืออีเมล ด้วยลายมือลงบน iPad แล้วแตะค้างไว้ software จะทำการประมวลผลแล้วขึ้นตัวเลือกให้เราสามารถจัดการกับข้อมูลนั้น ๆ ได้ทันที อาทิ กดไปที่ที่อยู่ เพื่อโชว์แผนที่บนแอพ Maps หรือกดที่เบอร์โทร เพื่อโทรออกทันที หรือแม้แต่การเข้าแอปเมล์เพื่อส่งหา Email Address ดังกล่าว
- Shape recognition ต่อไปนี้การวาดเส้น มุม ลูกศร หรือรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ ก็สวยงามและเป็นระเบียบขึ้นได้ โดยเริ่มวาดตามปกติและกดค้างไว้เล็กน้อยในตอนท้าย ภาพที่เราวาดจะถูกเปลี่ยนให้เป็นเส้นตรงและสมมาตรได้ในพริบตา
- Scribble คุณสมบัติใหม่บน iPadOS ที่จะช่วยแปลงลายมือให้เป็นตัวพิมพ์โดยอัตโนมัติ ช่วยให้การตอบกลับหรือค้นหาสะดวกและรวดเร็วขึ้น ที่สำคัญคือข้อความทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นส่วนตัวด้วย on-device machine learning (ขณะนี้ใช้งานได้กับภาษาอังกฤษ ยังไม่รองรับภาษาไทย)
- Editing gestures การจัดการกับข้อมูลนั้นง่ายดายขึ้นมากด้วยท่าทางใหม่ ๆ ที่เราสร้างสรรค์ขึ้น อาทิ การขีดฆ่าคำเพื่อลบ หรือการวาดวงกลมรอบคำนั้นเพื่อเลือก คัดลอก และย้ายตำแหน่งคำนั้น ๆ รวมไปถึงการกด Apple Pencil ค้างไว้ เพื่อสร้างที่ว่างสำหรับเขียนข้อความแทรก โดยข้อความจะแยกออกจากกัน ให้เราสามารถเขียนเพิ่มได้เท่าที่ต้องการ จากนั้นตัวหนังสือทั้งหมดจะจัดเลย์เอ้าท์ให้กลับมาชิดติดกันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่จำเป็นต้องลบข้อความเดิมแล้วเขียนใหม่อีกต่อไป
Apple Pencil มีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ราคา 3,400 บาท ซื้อได้ ที่นี่
Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ราคา 4,490 บาท ซื้อได้ ที่นี่
และยังสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad :
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPadOS ได้ ที่นี่
ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ iPadOS14 ได้ ที่นี่