รอบที่แล้ว แกะกล่องพรีวิว BackBeat FIT 2100 ปี 2019 หูฟังออกกำลังกาย ไร้สายแบตอึด 7 ชม. กันน้ำได้ ค่าตัวเบา ๆ 3,990 บาท กันให้ได้ชมกันไปแล้ว มาในรอบนี้จะมารีวิวลงรายละเอียดให้หูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้ให้ได้ชมกันครับไปติดตามกันเลย
รีวิว BackBeat FIT 2100 หูฟังออกกำลังกาย เสียงดีแบตเตอรี่อึดต่อเนื่อง 7 ชม. จาก Plantronics
ก่อนเข้าสู่ช่วงรีวิวการใช้งานจริงและความรู้สึกที่ได้จากการใช้หูฟังออกกำลังกาย Plantronics BackBeat FIT 2100 นั้น ขออนุญาตนำสเปกของหูฟังรุ่นนี้มาให้ชมกันก่อนครับ
1. ข้อมูลทางเทคนิคของ BackBeat FIT 2100
- น้ำหนัก: 28 g/.99 oz
- ช่วง Wireless: 10 m/33 ft
- บลูทูธ: Bluetooth 5.0, HFP 1.7, HSP 1.2, A2DP 1.3, AVRCP 1.5, SPP 1.2
- ค่าความเพี้ยนของเสียง: <3%
- ขนาดลำโพง: 13.5 mm.
- การตอบสนองความถี่: 20 – 20,000 Hz
- ระดับความไว: 94 dBSPL @ max volume
- ไมโครโฟน: MEMS microphone DSP
- ระยะเวลาการฟัง : สูงสุด 7 ชั่วโมง
- ระยะเวลาการพูดสาย : สูงสุด 7 ชั่วโมง
- ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น : IP57
- DeepSleep: สูงสุด 6 เดือน
- การชาร์จ : ระบบชาร์จไว ชาร์จ 15 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง, ชาร์จเต็มใช้เวลา 2 ชั่วโมง
- ความจุแบตเตอรี่ 115 mAh
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- สั่งเล่นเพลง หยุดเพลง เล่นเพลงถัดไปหรือเล่นเพลงก่อนหน้าได้
- สั่งการ Siri ได้
- กดรับสายและวางสายได้ มีไมโครโฟนในตัวสามารถสนทนาได้
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน (สลับกันเล่นได้เลย)
- มีแอปพลิเคชันสำหรับการใช้ร่วมกันเพื่อใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้ เช่น การตั้งค่าการ Tap, การดูสถานะของแบตเตอรี่ที่เหลือ หรือแม้กระทั่งการอัปเดตเฟิร์มแวร์ ฯลฯ
2. การเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับ iPhone และสมาร์ตโฟน Android อื่น ๆ
- กดค้างที่หูฟังด้านขวานาน 4 วินาที จนเห็นกะพริบไฟสีแดง จึงปล่อยมือ
- เข้าไปในการตั้งค่า Bluetooth (ใน iPhone ไปที่ Settings> Bluetooth)
- เลือก PLT BBFIT2100 BLE เพื่อเชื่อมต่อ
ทั้งนี้แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป BackBeat สำหรับ iOS หรือ Android เพื่อใช้ในการปรับแต่งหูฟังได้อีกด้วย บอกเลยว่าฟีเจอร์ใน BackBeat FIT 2100 ตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ส่วนวิธีการใช้งานแอป BackBeat พร้อมด้วยฟีเจอร์พิเศษอื่น ๆ นั้นจะเขียนให้อ่านกันในรีวิวหน้านะครับ
3. การใช้งานและการควบคุม
สำหรับการใช้งานและการควบคุมขั้นพื้นฐานนั้นทำได้ไม่ยากมาดูการควบคุมกันครับ
- เปิดใช้งาน กดปุ่มที่หูฟังด้านขวาค้างไว้ 2 วินาที จะได้ยินเสียงว่า Power On พร้อมกับบอกระดับแบเตอรี่ให้ทราบด้วย
- การปิดกดปุ่มที่หูฟังด้านขวาค้างไว้ 4 วินาที จะได้ยินเสียง Power Off
- การสั่งเพิ่มเสียง ด้วยการแตะ (Tap) ที่หูฟังด้านซ้าย 1 ครั้ง
- การลดเสียง ด้วยการแตะสัมผัสค้าง (Touch and Hold) ที่หูฟังด้านซ้าย
- สั่ง เล่นเพลง หยุดเพลง โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 1 ครั้ง
- สั่งเล่นเพลง ถัดไป โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 2 ครั้ง
- สั่งเล่นเพลง ก่อนหน้า โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 3 ครั้ง
4. ประสบการณ์หลังการใช้งานจริง
จุดหลัก ๆ ที่จะพูดเกี่ยวกับหูฟัง BackBeat FIT 2100 ตัวนี้จะมี
- การออกแบบภาพรวมและวัสดุ
- การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ตโฟน
- การสวมใส่ใช้งานและการควบคุม
- คุณภาพของเสียงจากหูฟังและคุณภาพของไมค์
การออกแบบ
ครั้งแรกที่ได้เห็นและสัมผัส BackBeat FIT 2100 ซึ่งเป็นหูฟังสำหรับออกกำลังกายพบว่าการออกแบบนั้นสวยงามดีเลยทีเดียว ดูไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ตัววัสดุที่นำมาผลิตนั้นคุณภาพดีแข็งแรง บริเวณสายคล้องคอนั้นแข็งแรงดึงแล้วไม่ขาดและไม่บาดคอตอนวิ่งออกกำลังกาย (ทดสอบวิ่งระยะ 21 กม. มาแล้วผ่านสบาย) หูฟังนี้ออกแบบมาให้กันน้ำได้มาตรฐาน IP57 ทำให้ใช้ออกกำลังกายโดนเหงื่อและน้ำได้อย่างไม่มีปัญหา ใส่แล้วไม่ลื่นไม่หลุดออกจากหูและไม่แน่นจนทำให้ปวดหู
การเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อทำได้ง่าย ๆ กับ iPhone หรือสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ และด้วยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ก็ช่วยให้ประหยัดพลังงานและยังเชื่อมต่อได้ระยะครอบคลุมที่ไกลด้วย ซึ่งจากการทดสอบเดินห่างจาก iPhone ประมาณ 80 เมตรยังพบว่ารับสัญญาณได้ดีอยู่ ดังนั้นน่าจะเหมาะสำหรับใครที่เปิดเพลงฟังจากและเก็บ iPhone ไว้ในล็อคเกอร์ขณะที่ออกกำลังกายในฟิตเนสก็เป็นได้ อีกทั้งยังมีแอปเสริมที่จะช่วยให้การใช้หูฟังนั้นมีประโยชน์มากขึ้น เช่น การอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้กับหูฟัง, การปรับตั้งการควบคุมหูฟังแบบเฉพาะบุคคล, การเปลี่ยนเสียงสำหรับการบอกสถานะของหูฟังที่รองรับหลายภาษารวมไปถึงภาษาไทยด้วย
การสวมใส่ใช้งานและการควบคุม
หูฟัง BackBeat FIT 2100 ไม่ได้เป็นหูฟังแบบ In-Ear คือสวมใส่พร้อมเปิดเพลงฟังแล้วยังสามารถได้ยินเสียงรอบข้าง ทำให้เวลาออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่งนั้น ยังได้ยินเสียงรถหรือผู้คนที่อยู่รอบข้างได้ อันนี้ถือว่าสำคัญ น้ำหนักเบา สวมใส่แล้วกระชับไม่หลุดเวลาออกกำลังกาย หากใครเป็นสายวิ่งมาราธอนบอกเลยว่ารุ่นนี้แบตเตอรี่เอาอยู่ (ผ่านการทดสอบแล้วจริง) การควบคุมการใช้งานง่าย ปุ่มถูกออกแบบใหญ่และดูเป็นชิ้นเดียวกันกับหูฟัง ปุ่มมีไม่เยอะทำให้ไม่กดผิดกดถูก การเพิ่มลดเสียงทำได้ง่าย ๆ เพียงสัมผัส (ที่หูฟังด้านซ้าย) หรือการเล่นเพลงหยุดเพลงก็กดที่หูฟังด้านขวาได้เลย
คุณภาพของเสียงจากหูฟังและคุณภาพของไมค์
คุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในระดับกลางถึงดี ซึ่งหากต้องการเสียงเบสที่ฟังชัดมากขึ้นจะต้องใส่หูฟังให้ถูกตำแหน่งหรือใกล้รูหูมากที่สุดอันนี้ต้องหมุนปรับให้ตรงสำหรับใบหูของแต่ละคน โดยรวมนั้นเสียงที่ที่ออกมาจะไม่หนักหรือแหลมจนเกินไป ส่วนที่ชอบก็คือเรื่องการบอกสถานะของหูฟังว่ากำลังเปิด, กำลังปิด, ระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ ฯลฯ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเช็คที่แอปก็จะทราบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือได้เลย ส่วนเรื่องของไมค์นั้นความเห็นส่วนตัวผมว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ยังมีเสียงรบกวน ขณะที่เราคุยสายครับ หากต้องการหูฟังสำหรับคุยงานเป็นหลักอันนี้จะไม่เหมาะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการลุยออกสนาม การออกกำลังกายทั้งแบบธรรมดาและหนักหน่วง แบตอึด ๆ ตัวนี้เอาอยู่ครับ!
5. สถานที่จำหน่าย ราคาและการรับประกัน
มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดงและสีน้ำเงิน ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 3,990 บาท
สนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปและออนไลน์ โดยชมรายละเอียดเพิ่มเติมของสถานที่ทั้งหมดได้ที่ >> http://www.systems2000.co.th/Where-to-buy-BackBeatFIT2100
สินค้ามาพร้อมการรับประกันสูงสุด 2 ปี เพียงลงทะเบียนหลังการซื้อได้ที่นี่ http://www.systems2000.co.th/warranty/
สำหรับรีวิวรอบหน้าจะมาชมความเห็นจากนักวิ่งที่ได้ทดสอบใช้งานหูฟังนี้และตามด้วยเรื่องของแอป BackBeat โปรดติดตามกันต่อไปครับ