กระแสการออกกำลังกายด้วยการวิ่งนั้นถือว่ายังคงมาแรงต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว (2018) ที่ผมเองก็เริ่มวิ่งจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งได้แรงบันดาลใจจาก “พี่ตูน บอดี้สแลม” ด้วย ทำให้ ณ ตอนนี้ผมกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ติดการวิ่ง ซึ่งอุปกรณ์หนึ่งที่ต้องใช้งานเป็นประจำนั่นคือ “หูฟัง” ปกติจะใช้งาน AirPods แต่พักหลังแบตเตอรี่ของ AirPods เริ่มเสื่อมแล้ว ก็เลยมีโอกาสได้ลองทดสอบหูฟังตัวอื่นมากขึ้น วันนี้ขอแนะนำ BackBeat FIT 2100 รุ่นปี 2019 ล่าสุดมาให้กันชมครับ
เลือกหูฟังสำหรับการวิ่ง ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วการวิ่งออกกำลังความท้าทายของหูฟังที่เราจะใช้นั้นจะพิจารณาตามจุดต่อไปนี้
- ใส่แล้ววิ่งไปจะหลุดไหม
- กันเหงื่อกันน้ำได้ไหม วิ่ง ๆ ไปแน่นอนต้องเจอเหงื่อ บางทีก็เจอฝนกลางทาง แล้วหูฟังที่ใช้จะทนได้หรือเปล่า
- น้ำหนักเป็นอย่างไรบ้าง หนักเกินไปหรือเปล่า
- ใส่แล้วเข้ากับหูเราไหม แน่นไหม กระชับไหม ใส่แล้วมันขยับหรือหลวมเกินไปหรือเปล่า
- การดีไซน์สวยไหม เพราะไปลงงานวิ่งทั้งทีจะมีตากล้องคอยถ่ายรูปให้ด้วย ถ้าหูฟังดูสวย ไม่เท่ ก็อาจจะทำให้ดูไม่ผ่านก็ได้ ดังนั้นต้องเลือกที่ดีไซน์สวย ๆ และเข้ากับเราสักหน่อย
- คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร เพลงเพราะสนุก ๆ เบสกำลังดีที่เราจะฟังเพื่อให้จังหวะในการวิ่ง เสียงที่ออกมานั้นเป็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึง
- ราคาเป็นอย่างไร คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปไหม ราคาแพงไปหรือเปล่าก็ได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ทนทานหรือเปล่า เพราะการวิ่งแต่ละระยะนั้นจะต้องใช้เวลา จุดนี้ก็เป็นอย่างจุดที่สำคัญมาก
พูดถึงเรื่องแบตเตอรี่กันสักนิดหน่อยก่อนที่จะพาไปดูหูฟังชุดนี้ จากประสบการณ์นักวิ่งมือสมัครเล่นของผม การวิ่งแต่ละระยะจะใช้เวลาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราต้องรู้ว่าถ้าเราจะวิ่งระยะเท่านี้จะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่และแบตเตอรี่ของหูฟังนั้นจะไหวหรือเปล่า
- ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
- ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 60 – 90 นาที
- ระยะทาง 21 กม. ใช้เวลาประมาณ 126 – 189 นาที หรือประมาณ 2 – 3 ชม.
- ระยะทาง 42 กม. ใช้เวลาประมาณ 252 – 378 นาที หรือประมาณ 4 – 6 ชม.
นี่คือเวลาคร่าว ๆ ที่คำนวนจากความเร็วเฉลี่ย (Average Pace) 6-9 นาที/กม. ดังนั้นหูฟังที่จะใช้งานนั้น เอาอยู่ไหม กับระยะที่เราจะใช้งาน…
แกะกล่องพรีวิว BackBeat FIT 2100 ปี 2019 หูฟังไร้สายแบตอึด 7 ชม. กันน้ำได้ ค่าตัวเบา ๆ 3,990 บาท
ไฮไลท์แกะกล่องพรีวิวหูฟังไร้สาย BackBeat FIT 2100 รุ่นปี 2019 ล่าสุดตัวนี้ จะพาชมอุปกรณ์ชุดนี้พร้อมทั้งให้ข้อมูลพื้นฐานและการใช้งานเบื้องต้น ก่อนที่จะรีวิวการใช้งานจริงในครั้งถัดไปครับ
จุดเด่นของ BackBeat FIT 2100 หูฟังไร้สายกันน้ำได้ แบตเตอรี่อึดใช้ต่อเนื่องได้ 7 ชั่วโมง เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ
ไปดูพร้อมกันเลยว่าจะเป็นยังไง
กล่องสินค้าจริงหน้าตาเป็นแบบด้านล่าง ซึ่งในซีรีส์นี้มีให้เลือก 3 สี คือ Black (สีดำ), Blue (สีน้ำเงิน) และ Red (สีแดง) รุ่นที่แกะกล่องรอบนี้เป็นสีดำ
อุปกรณ์ที่มีในกล่อง
ประกอบไปด้วย
- หูฟัง BackBeat FIT 2100
- เอกสารแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
- สาย USB-A to Micro USB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้หูฟัง
ข้อมูลทางเทคนิคของ BackBeat FIT 2100
- น้ำหนัก: 28 g/.99 oz
- ช่วง Wireless: 10 m/33 ft
- บลูทูธ: Bluetooth 5.0, HFP 1.7, HSP 1.2, A2DP 1.3, AVRCP 1.5, SPP 1.2
- ค่าความเพี้ยนของเสียง: <3%
- ขนาดลำโพง: 13.5 mm.
- การตอบสนองความถี่: 20 – 20,000 Hz
- ระดับความไว: 94 dBSPL @ max volume
- ไมโครโฟน: MEMS microphone DSP
- ระยะเวลาการฟัง : สูงสุด 7 ชั่วโมง
- ระยะเวลาการพูดสาย : สูงสุด 7 ชั่วโมง
- ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น : IP57
- DeepSleep: สูงสุด 6 เดือน
- การชาร์จ : ระบบชาร์จไว ชาร์จ 15 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง, ชาร์จเต็มใช้เวลา 2 ชั่วโมง
- ความจุแบตเตอรี่ 115 mAh
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- สั่งเล่นเพลง หยุดเพลง เล่นเพลงถัดไปหรือเล่นเพลงก่อนหน้าได้
- สั่งการ Siri ได้
- กดรับสายและวางสายได้ มีไมโครโฟนในตัวสามารถสนทนาได้
- มีแอปพลิเคชันสำหรับการใช้ร่วมกันเพื่อใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้ เช่น การตั้งค่าการ Tap, การดูสถานะของแบตเตอรี่ที่เหลือ หรือแม้กระทั่งการอัปเดตเฟิร์มแวร์ ฯลฯ
ไปชมภาพจริงของหูฟังชุดนี้กันครับ
การชาร์จจะเสียบเข้าช่อง Micro USB ที่อยู่ด้านขวาของหูฟัง สามารถเสียบชาร์จจากพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์หรืออะแดปเตอร์ของ iPhone ได้เช่นกัน
การใช้งานและการควบคุมหูฟัง BackBit FIT 2100 เบื้องต้น
หูฟังรุ่นนี้เป็นแบบ Earbuds สวมใส่เข้าที่หูแล้วจะมีที่เกี่ยวใบหูเพื่อไม่ให้หลุดและจะมีส่วนที่ดันกับช่องใบหูด้านในทำให้หูฟังแน่น(แต่ไม่แน่นจนเกินไป) ทำให้เวลาวิ่งไปหูฟังไม่ขยับจนเกิดเสียงรบกวนหรือเสียดสี อีกอย่างใส่แล้วยังได้ยินเสียงรอบข้างซึ่งสำคัญมากสำหรับการใช้งาน Outdoor ครับ
มาดูการใช้งานและการควบคุมขั้นพื้นฐานกันบ้าง
- เปิดใช้งาน กดปุ่มที่หูฟังด้านขวาค้างไว้ 2 วินาที จะได้ยินเสียงว่า Power On พร้อมกับบอกระดับแบเตอรี่ให้ทราบด้วย
- การเชื่อมต่อกับ iPhone และ สมาร์ตโฟนอื่น ๆ เปิดเข้าเมนู Bluetooth แล้วเชื่อมต่อได้เลย
- การปิดกดปุ่มที่หูฟังด้านขวาค้างไว้ 4 วินาที จะได้ยินเสียง Power Off
- การสั่งเพิ่มเสียงด้วยการแตะ (Tap) ที่หูฟังด้านซ้าย 1 ครั้ง
- การลดเสียงด้วยการแตะสัมผัสค้าง (Touch and Hold) ที่หูฟังด้านซ้าย
- สั่ง เล่นเพลง หยุดเพลง โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 1 ครั้ง
- สั่งเล่นเพลง ถัดไป โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 2 ครั้ง
- สั่งเล่นเพลง ก่อนหน้า โดยการกด ที่หูฟังด้านขวา 3 ครั้ง
จากสัมผัสแรกที่ได้จับสัมผัสหูฟังรุ่นนี้นั้น วัสดุในการผลิตถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี การเชื่อมต่อกับ iPhone สามารถทำได้ง่าย แอปที่เพิ่มเข้ามานั้นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ BackBeat FIT 2100 (และรุ่นอื่น ๆ ของตระกูล BackBeat) มีความโดดเด่นและเชื่อมั่นได้ว่าหูฟังที่ซื้อมานั้นจะไม่ถูกลอยแพแถมอนาคตถ้ามีเฟิร์มแวร์ตัวใหม่ ๆ มาก็จะสามารถอัปเดตได้
ในเรื่องของเสียงนั้นถือว่าอยู่ในระดับใช้ได้ดี การกันน้ำกันเหงื่อหายห่วงผมลองล้างด้วยน้ำเป็นที่เรียบร้อยหูฟังก็ยังทำงานได้ปกติ แบตเตอรี่ก็อึดทนดี เดี๋ยวเอาไว้จะลองไปใช้วิ่งนาน ๆ แล้วจะมารีวิวฉบับเต็มให้ดูกันอีกรอบนะครับ รอบนี้ขอพรีวิวคร่าว ๆ เท่านี้ก่อน สำหรับ BackBeat FIT 2100 รุ่นปี 2019 นี้ก็ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งอีกหนึ่งตัวที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลาย ๆ คน
สนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปและออนไลน์ โดยชมรายละเอียดเพิ่มเติมของสถานที่ทั้งหมดได้ที่ >> http://www.systems2000.co.th/Where-to-buy-BackBeatFIT2100