สายอาชีพ Blogger ออนไลน์ในยุคนี้ความเร็วต้องเป็นต่อ การแก้งานมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ปล่อยงานให้เร็วจำเป็นต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งแต่ใช้เน็ต 5G ของทรู (True 5G) แล้วบอกเลยว่าชีวิตเปลี่ยนไปจริง ๆ, ใช้ทั้งทำงาน เล่นเกม ดูหนัง ก็เอาอยู่ มาดูประสบการณ์จากผมกันเลย
ภาพที่ใช้เป็นภาพประกอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นภาพถ่ายจากสถานที่ หรือสถานการณ์จริง
เน็ตTrue 5G เน็ตที่สาย Blogger ต้องใช้!
สวัสดีครับ ผมเต้นท์ iMoD เป็นอีกหนึ่งคนที่คลุกคลีกับวงการ Blogger มาหลายปีแล้ว โดยงานหลัก ๆ ที่ทำคือ เขียนบทความ ทำกราฟิก ตัดต่อวิดีโอบ้าง, โดย 80% ของงานจะเป็นการรายงานข่าวที่ต้องใช้ความเร็วในการแปลข่าว เรียบเรียงข่าว และปล่อยงาน
Live สดหายห่วง
เล่าก่อนว่าส่วนตัวปกติแล้วจะทำงานอยู่ที่บ้านหรือออฟฟิศเป็นหลัก แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ เช่น ไปงาน Event ของลูกค้า ซึ่งลูกค้าเองก็มักจะมอบหมายงานไวและอยากได้งานไวด้วย ผมเลยต้องปั่นงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
อย่างเคสหนึ่งไปงานเปิดขายสินค้าใหม่ วันนั้นลูกค้าขอให้ Live สดชมบรรยากาศภายในร้าน แต่ก็เกิดปัญหา คือ เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่หน้าร้านไม่ได้ ต้องใช้เน็ตที่มือถือสตรีมสด แต่โชคดีที่ในตอนนั้นผมใช้ iPhone 12 Pro Max ที่รองรับ 5G และใช้ True 5G จึงรอดมาได้, Live สดไม่กระตุกเลย เสียงชัด ทำให้งานนั้นผ่านพ้นไปด้วยดี
อัปงานอย่างไว
อีกเคสน่าสนใจกว่า เป็นงานเปิดตัวสินค้าใหม่เหมือนกัน แต่กล้องที่เอาไปดันมีปัญหาใช้งานไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ iPhone ในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ แล้วต้องอัปโหลดไปให้กราฟิกและตัดต่อเอาไปทำต่อ แน่นอนว่า iPhone 12 Pro Max ความจุ 512GB เอาอยู่ เก็บไฟล์ภาพขนาดใหญ่ และไฟล์วิดีโอ 4K ได้สบาย การอัปโหลดใส่ Google Drive ก็หายห่วง เพราะผมใช้เน็ต True 5G แบบ Ulimited ด้วยจึงอัปไฟล์ใช้เวลาไม่นานแบบไม่ห่วงค่าเน็ต อัปตรงจาก iPhone เข้าระบบเลย ไม่ต้องเอาไปลงเครื่อง Mac ก่อนให้เสียเวลา
สัญญาณครอบคลุม
บางครั้งเรามักเห็น Blogger แบกคอม แบกแท็ปเล็ต ไปร้านกาแฟรวมถึงแม้ตอนไปเที่ยวด้วย เอาจริง ๆ คือมันไม่ได้เป็นการบ้างาน แต่เป็นความวิตกของสายงานว่า อยู่ดี ๆ ข่าวใหญ่ก็มา หรืองานลูกค้าอาจสั่งเป็นแบบสายฟ้าแลบ
ส่วนตัวผมทำงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีวันหนึ่งพาเพื่อนไปเที่ยวที่แถว ๆ ม่อนแจ่ม แล้วลูกค้าตามงานอยากให้รีบแก้งานแล้วส่งงานทันที ด้วยความ “เอาใจใส่ลูกค้า” จึงเอา MacBook มาเชื่อมต่อเน็ตจาก iPhone ที่แชร์ Hotspot จากเน็ต True 5G,ซึ่งตอนนั้นถึงแม้จะอยู่แถบบนดอยของเชียงใหม่ แต่สัญญาณก็ไปถึง เพราะเน็ต True 5G ครอบคลุมหลายพื้นที่จริง ๆ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ครบสูงสุดถึง 7 ย่านความถี่ ไปเที่ยวไหนก็มั่นใจได้ว่าเชื่อมต่อกับเน็ต 5G ได้แน่นอน
บอกเลยว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่ห่วง ส่งงานได้ลื่นไหลไม่สะดุดแน่นอน เพราะมี True 5G เป็นตัวช่วย แถมยังเจอข่าวดีอีกว่า TrueMove H ได้รางวัลติด Top 20 ผู้นำ 5G ระดับโลก จาก Opensignal ซึ่งรายงานข้อมูลการจัดอันดับผู้นำ 5G ระดับโลกด้านการใช้งาน 5G พบว่า TrueMove H มีเปอร์เซ็นต์การเชื่อมต่อใช้งาน 5G อยู่ที่ 22.1% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ให้บริการทั่วโลกเกือบเท่าตัว จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ไม่ว่าจะไปทำงานหรือเที่ยวที่ไหน ก็สบายใจมี 5G ให้ใช้แทบทุกที่ เชื่อมต่อเพื่ออัปโหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
เล่นเกมไม่แลค, fps ไม่ตก
การทำงานหนัก ๆ บางครั้งต้องมีการผ่อนคลายบ้าง แต่ไม่ใช่ในวันที่ไฟดับ! วันหยุดวันนั้น หมู่บ้านของผมประกาศดับไฟฟ้าครึ่งวันเช้าทำให้ Wi-Fi ที่บ้านใช้งานไม่ได้ไปด้วย ดังนั้นจึงต้องฆ่าเวลาด้วยการดู Netflix และเล่นเกม โดยเกมที่ผมเล่นนั้นคือ LoL Wild Rift บน iPhone
มันส์มากครับ เล่นผ่าน 5G เกมไม่แลค ไม่หน่วง ปิงไม่ขึ้น ถึงแม้ไม่ได้ต่อกับ Wi-Fi ก็ตาม สมกับที่ TrueMove H เป็นอันดับ 3 ของโลก ด้านประสบการณ์การเล่นเกมผ่าน 5G เมื่อเทียบกับ 4G ได้รางวัล 5G Global Leaders in Games Experience มีคะแนน ถึง 37.1% เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของโลกกว่า 4 เท่า! เลยทีเดียว
True 5G Cloud Gaming
ไหน ๆ ก็พูดถึงเรื่องเกมบนมือถือแล้ว มีอีกหนึ่งบริการที่อยากแนะนำกับ “True 5G Cloud Gaming” แพล็ตฟอร์มคลาวด์เกมอัจฉริยะครั้งแรกกับการเล่นเกม PC & CONSOLE บนสมาร์ทโฟน มีเกมชื่อดังระดับ AAA ให้เล่นบนเครือข่าย True 5G สุดแรง
- เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่มีสะดุด
- ไม่ต้องโหลดเกมลงเครื่อง ไม่เปลืองพื้นที่
- มีเกมให้เล่นมากกว่า 300 เกม
ดูข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่เลย : https://5g.truemoveh.com/th/cloudgame
ดูหนังอย่างฟิน
เนื่องจากที่บ้านของผมอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณ True 5G อยู่แล้ว จึงเล่นเกมได้ลื่น, fps ไม่ตก (แต่หัวร้อนเพราะแพ้บ่อย) พอแพ้มาก ๆ ก็สลับไปดู Netflix ซึ่งแน่นอนว่าเน็ต True 5G เอาอยู่! ดูหนังความละเอียดสูงได้สบายเลย
สรุป
ทั้งหมดที่เล่ามานี้จะบอกว่าถึงแม้เราจะทำงานและใช้เน็ตกับ Wi-Fi เป็นหลัก แต่ถ้าเรามีอินเทอร์เน็ตมือถือของเครือข่ายที่เร็ว เสถียร สัญญาณครอบคลุม จะมั่นใจกว่า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เฉย ๆ กับเรื่องสัญญาณ 5G แต่พอได้เปลี่ยนมาใช้ iPhone 12 Pro Max รุ่นรองรับ 5G และตัวเองใช้เครือข่ายของ True อยู่แล้ว พออัพเกรดเป็น True 5G ก็เห็นความแตกต่างจริง ๆ ทั้งในแง่ของการทำงานนอกสถานที่ การเล่นเกม ดูมีเดีย แบบไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi ด้วย
(ทิ้งท้ายอีกนิดว่า ถ้าใช้เน็ต 5G บ่อย ๆ แนะนำว่าให้เปลี่ยนมาใช้ True 5G แบบ Unlimited เพราะคุ้มค่า คุ้มราคา ได้ประโยชน์จริง ไม่ต้องกลัวเน็ตหมดด้วย!)
ข้อมูลอ้างอิง : opensignal