เชื่อว่าหลังจากที่อ่านหัวข้อเรื่องนี้แล้ว บางคนอาจจะเกิดความสงสัย และมีเครื่องหมายคำถามในหัวเต็มไปหมด .. ไม่ว่าจะเป็น อะไรคือ EU?,, แล้ว Brexit มันย่อมาจากอะไร? แล้วเกี่ยวอะไรกับ Apple?
อย่าเพิ่งปิดหน้าจอหนีไปไหนนะคะ อ่านต่ออีกนิด เพราะทีมงานของเราจะช่วยทำให้เครื่องหมายคำถามในหัวของทุกท่านหายไป .. งั้นเรามาเริ่มทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก EU กันก่อนดีกว่า ว่าคืออะไร?
EU ย่อมาจาก European Union หรือ สหภาพยุโรปนั่นเองค่ะ เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศสมาชิกในยุโรปประกอบด้วยรัฐสมาชิก 28 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) หรือโดยทั่วไปรู้จักกันว่า สหราชอาณาจักร
![UK Maps](http://new.iphonemod.net/wp-content/uploads/2016/06/large.png)
โดยเริ่มต้นจากการเปิดเสรีทางการค้า ทยอยลดกำแพงภาษีการค้าระหว่างกันจนไม่มีภาษีซึ่งเป็นกำแพงกีดกันสินค้าของประเทศอื่น และ เปิดเสรีการลงทุน การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างกัน การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างกันอย่างเสรี และ มีการใช้เงินสกุลเดียวกัน
สหภาพยุโรปนี้เอง ที่เป็นต้นแบบให้กับกลุ่มการค้าเสรีอื่นๆ รวมทั้ง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่ไทยและประเทศในอาเซียน 10 ประเทศพยายามเดินหน้าตามทิศทางเดียวกัน
แล้ว Brexit มันย่อมาจากอะไร? เกี่ยวกันยังไงกับ EU ?
![Source: Politisonline](http://new.iphonemod.net/wp-content/uploads/2016/06/Brexit.jpg)
Brexit เป็นการผสมคำกันระหว่าง “British” + “Exit” หมายถึง สหราชอาณาจักร ซึ่งมีอังกฤษ เป็นพี่ใหญ่ และประเทศในกลุ่มคือ สกอตแลนด์ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ จะขอถอนตัวออกจาก สมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU นั่นเองค่ะ
อ่านกันมาถึงบรรทัดนี้.. เครื่องหมายคำถามในหัว เริ่มหายไปบ้างแล้วหรือยังคะ ^^ และประเด็นสำคัญที่ทีมงานของเราจะมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ แน่นอนว่า ต้องเกี่ยวข้องกับ Apple ซึ่งเชื่อมโยงกันกับข่าวที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และจับตามองกันอยู่ นั่นคือ สถานการณ์ Brexit ค่ะ
หลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่า
Brexit จะส่งผลกระทบอย่างไร กับ Apple ?
ทีมงานของเราจะขอสรุปเป็นหัวข้อสั้นๆ เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้
1. ผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Apple
หลังจากที่ผลคะแนนประชามติของชาวอังกฤษเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ตกต่ำลงเรื่อยๆ และน่าจะทำให้เกิดภาวะช็อกทางการเงิน แน่นอนว่าผลจากค่าเงินปอนด์ที่ตกต่ำลง ย่อมส่งผลให้ราคาหุ้นของ Apple ร่วงลงตามไปด้วย จากสัปดาห์ที่แล้วหุ้นของ Apple มีมูลค่า 96 ดอลลาร์สหรัฐ แต่สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มูลค่าหุ้นของ Apple ลดลงมาถึง 2.8% หรืออยู่ที่ 93.4 ดอลลาร์สหรัฐ และโดยภาพรวมตามตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ (NASDAQ: AAPL) ลดลงมากกว่า 4% ในขณะที่ บริษัท IT คู่แข่ง อย่างเช่น Amazon, Microsoft และ Google ลดลงอยู่ระหว่าง 3.2 % และ 3.95 %
2. ผลกระทบต่ออัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
การเคลื่อนย้ายทุนออกจากอังกฤษจำนวนมาก จะส่งผลให้เงินปอนด์ของอังกฤษ อ่อนค่าลงอย่างแรงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคาผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่างๆ ของ Apple ตามไปด้วย
ก่อนที่จะเล่าต่อ.. ขออธิบายความหมายของคำว่าเงินอ่อนค่าให้ฟังกันก่อน เผื่ออาจจะมีบางท่านที่ยังคงงงกับศัพท์คำนี้กันอยู่.. ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเป็นค่าเงินบาทก็แล้วกันนะคะ
คำว่า “ค่าเงินบาท” นั้นเป็นการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินบาทของไทย กับเงินของประเทศอื่น ๆ หรือที่เรียกว่า เงินสกุลอื่น เช่น เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เช่น ถ้าเราต้องการเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ($) เราต้องนำเงินบาทจำนวน 35 บาทไปแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มา 1 $ ค่ะ
ส่วนความหมายของ “เงินบาทแข็งค่า” ก็หมายถึงการที่เงินบาทของเรามีค่ามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลที่กำลังเปรียบเทียบอยู่ เช่น ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุล $ ก็คือเราจะใช้เงินบาทในจำนวนที่น้อยกว่า 35 บาท เช่นอาจจะอยู่ที่ 34 บาทเพื่อไปแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาเท่ากับ 1 $ และสำหรับ “เงินบาทอ่อนค่า” ก็จะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับค่าเงินบาทแข็งนั่นเองค่ะ เช่นเราต้องใช้เงินบาทถึง 36 บาทไปแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาเท่ากับ 1 $ ค่ะ
เงินปอนด์อ่อนค่าก็เช่นกันค่ะ..
และผลของเงินปอนด์อ่อนค่าอาจทำให้ ประชากรในอังกฤษต้องเผชิญกับปัญหาราคาของผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อลดต่ำลง ซึ่งรวมถึงกำลังซื้อผลิตภัณฑ์จาก Apple ก็น่าจะลดต่ำลงด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะถึงเวลาที่ Apple ต้องปรับราคาของผลิตภัณฑ์ลงเพื่อแก้ปัญหาในครั้งนี้
![retail-london-landscape](http://new.iphonemod.net/wp-content/uploads/2016/06/retail-london-landscape.jpg)
3. ผลกระทบต่อการจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple
สืบเนื่องจากงาน WWDC 2016 เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า apple กำลังมุ่งเน้นพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ให้มากขึ้น และจำเป็นต้องอาศัยนักพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เพื่อขยายขีดความสามารถของ application ต่างๆ ซึ่งนักพัฒนาเหล่านั้น ต่างกระจายกันอยู่ในหลายๆประเทศทั่วโลก และหนึ่งในหลายๆประเทศนั้น ก็คงต้องรวมถึงประเทศอังกฤษด้วย
ซึ่งสถานการณ์ Brexit ในครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการจ้างงานของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าแรงที่อาจต้องปรับสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีกำลังมากพอที่จะจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในจำนวนมากได้เหมือนเดิม และทำให้ Apple อาจสูญเสียรายได้ เมื่อไม่มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้ามาร่วมทีมในการผลิต Application ต่างๆตามมา
และที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นข้อสรุปคร่าวๆ ที่ทางทีมงานของเราได้ร่วมกันวิเคราะห์มา แต่เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
Apple จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Brexit ในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ต้องคอยติดตามกันค่ะ..
เรียบเรียงโดยทีมงาน iPhoneMod.net
อ้างอิง
- http://thaipublica.org/2016/02/eic-brexit/
- http://www.voathai.com/a/britain-eu-impact-nm/3380311.html
- https://en.wikipedia.org/wiki/European_Union
- http://appleinsider.com/articles/16/06/24/how-the-uks-brexit-vote-to-leave-europe-affects-apple