หลายคนคงเคยตั้งข้อสงสัยว่า iPhone นี่มันสามารถติดไวรัสหรือมัลแวร์ต่าง ๆ ได้เหมือนกับอุปกรณ์ Windows และ Andriod หรือไม่? เรามาค้นหาคำตอบที่แท้จริงได้ในบทความนี้เลยครับ
iPhone สามารถติดไวรัสได้หรือไม่? นี่คือข้อเท็จจริง
ก่อนที่เราจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone ติดไวรัสได้หรือไม่? คงจะมีบางคนที่อาจยังไม่รู้ว่า ไวรัส (Virus) หรือมัลแวร์ (Malware) นี่มันคืออะไร เรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวป่วนเหล่านี้กันก่อนเลยครับ
Virus และ Malware คืออะไร?
Virus – ไวรัส เป็นโปรแกรมทำลายฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และข้อมูลภายในเครื่องของคุณ ที่สามารถติดต่อจากอีกไฟล์หนึ่งไปยังอีกไฟล์หนึ่งภายในระบบเดียวกัน หรือจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องอื่นโดยการแนบตัวเองไปกับโปรแกรมต่าง ๆ ได้
Malware – มัลแวร์ ย่อมาจากคำว่า Malicious Software ซึ่งหมายถึงโปรแกรมประสงค์ร้ายต่าง ๆ ที่ทำงานในลักษณะที่เป็นการโจมตีระบบ ทำให้ระบบเสียหาย รวมไปถึงการโจรกรรมข้อมูล ซึ่งมัลแวร์แบ่งออกได้หลายประเภท เช่น ไวรัส (Virus), เวิร์ม (Worm), ม้าโทรจัน (Trojan Horse), การแอบดักจับข้อมูล (Spyware), แอ็ดแวร์ (Adware) และอื่น ๆ ดังนั้นจะถือได้ว่า มัลแวร์คือคำรวม ๆ ทั้งหมดของโปรแกรมที่มีจุดประสงค์ร้ายเหล่านี้ก็ว่าได้
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: มัลแวร์ – วิกิพีเดีย
ระบบ iOS จะช่วยให้คุณปลอดภัยอย่างแน่นอน
1. App Store Control – ด้วยแอปที่โหลดผ่าน App Store เพียงช่องทางเดียว จึงช่วยให้อุปกรณ์ของคุณปลอดภัย เพราะแอปนับล้านทุกแอปจะถูกตรวจสอบด้วยทีมงาน App Store หากพบโค๊ดหรือพฤติกรรมที่เป็นอันตรายแอปนั้นก็จะไม่ผ่านให้คุณได้ดาวน์โหลดอย่างแน่นอน
ซึ่งไม่เหมือนกับทาง Windows และ Android ที่คุณสามารถโหลดแอปและติดตั้งได้จากทุกช่องทาง ทำให้มีช่องโหว่และเสี่ยงต่อโปรแกรมหรือมัลแวร์ที่จะแทรกซึมเข้ามาได้
2. Sandboxing – iOS ใช้แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่เรียกว่าแซนด์บ็อกซ์ ที่จำกัดขีดความสามารถของแอปนั้น ๆ ไว้ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลจากแอปอื่น รวมถึงซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง นอกจากนี้เกือบทุกแอปจะทำงานจำกัดภายใต้บัญชี iOS หากไม่เข้าถึงบัญชี root (Administrator) แอปก็จะไม่สามารถแก้ไขการตั้งค่าของระบบหรือทำให้เกิดความเสียหายได้
นั่นหมายความว่า แม้ว่าคุณจะติดตั้งโปรแกรมโกงหรือโปรแกรมแฮ็กต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเข้าถึง OS และไฟล์ได้อย่างแน่นอน แต่ว่าหากคุณได้ทำการ Jailbreak แล้ว ระบบก็จะมีความปลอดภัยลดลงนั่นเอง
3. Timely iOS Updates – iOS ที่มีให้อัปเดตอยู่สม่ำเสมอ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยป้องกันมัลแวร์ตัวใหม่ ๆ ได้ทันท่วงที และเมื่อ Apple ออก iOS เวอร์ชันใหม่ อุปกรณ์ที่เข้ากันได้ทั้งหมดก็จะใช้งานได้ในทันทีอีกด้วย
ยกตัวอย่างมัลแวร์ที่จะมีได้ใน iPhone
Apple ได้ยืนยันว่าระบบ iOS มีความปลอดภัยมากจริง จากเหตุผล 3 ข้อด้านบน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า iPhone จะไม่มีวันโดนมัลแวร์เลย เพราะในอดีต iPhone ก็เคยโดนเล่นงานจากมัลแวร์มาแล้ว เช่น ในปี 2017 ที่ พบไวรัสวิดีโอตัวใหม่ ที่ทำให้ iPhone iOS 9 /10 – 10.2 เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย หรือ ข้อความ “BLAKE” ทำให้ iPhone iOS 10 ขึ้นไปเครื่องค้างใช้งานไม่ได้ชั่วขณะ หรือ Mac และอุปกรณ์ iOS ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ Meltdown และ Spectre
แต่ถึงอย่างนั้น Apple ก็ได้ออกเวอร์ชันอัปเดตแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่วัน
Antivirus จำเป็นหรือไม่?
ในเมื่อระบบ iOS มีความปลอดภัยมากก็จริง แต่ก็ยังสามารถโดนมัลแวร์เล่นงานได้ แล้วแอปป้องกันไวรัส (Antivirus) ต่าง ๆ ที่มีให้โหลดใน App Store ละ เช่น Lookout, Avira, Norton หรืออื่น ๆ จำเป็นต้องโหลดมาติดตั้งมั้ย?
ต้องขอตอบตรงนี้เลยนะครับ ว่า “ไม่จำเป็นต้องโหลดมาติดตั้ง”
เพราะแอปป้องกันไวรัสเหล่านี้จะไม่ทำการแสกนหาไวรัสบน iPhone ของคุณได้อย่างแน่นอน เพราะจากการทำแซนด์บ็อกซ์อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จึงจำกัดสิทธิ์การแสกน/การเข้าถึงข้อมูลภายใน iPhone ของคุณ ดังนั้น แอปแสกนไวรัสจึงแทบไม่มีประโยชน์เลย แต่ก็อาจมีบางแอปที่สามารถช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายจากการเข้าเองได้
Jailbreaking มีความเสี่ยงต่อมัลแวร์จริง
ถึงแม้ว่าการ Jailbreak จะทำให้คุณเข้าถึงสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (Administrator) ที่สามารถตกแต่ง ติดตั้งแอปได้ทุกแอป หรือทำอะไรต่าง ๆ กับ iPhone ของคุณได้อย่างอิสระมากมาย แต่คุณก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างแน่นอนครับ เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์จากแอปหรือสิ่งที่แฝงมากับโปรแกรมที่คุณใช้ได้ตลอดเวลา จนอาจทำให้ระบบในเครื่องของคุณพังจนใช้งานไม่ได้ แถมยังเคลมไม่ได้อีกด้วย
ดังนั้นการ Jailbreak จึงไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ
สรุป
iPhone สามารถติดมัลแวร์ได้ครับ แต่มีโอกาสน้อยมาก ๆ ด้วยระบบ iOS ที่มีความปลอดภัยสูงมากจากการทำแซนด์บ็อกซ์ (Sandboxing) และการตรวจสอบแอปโดย App Store จึงแทบจะไม่มีโอกาสที่จะโดนมัลแวร์เลย จึงทำให้ผู้ใช้ iPhone สบายใจได้ และไม่ต้องไปโหลดแอปแสกนไวรัสมาติดตั้งด้วยนะครับ
ที่สำคัญ ผู้ใช้ต้องหมั่นอัปเดต iOS ที่อุปกรณ์รองรับให้ใหม่อยู่เสมอ เพื่อเป็นการป้องกันมัลแวร์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างสนุกสนานครับ
หากพบว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์จริง โปรดอย่าลืมแชร์บอกต่อไปยังเพื่อน ๆ ให้ทราบข้อมูลที่เท็จจริงด้วยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูล – MakeUseOf – Technology, Simplified