แบตเตอรี่ iPhone เสื่อมหรือยัง? แล้วตอนนี้ความจุแบตเตอรี่เหลือใช้งานจริงๆ เท่าไหร่ เรามาดูวิธีการตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ (Battery Health) ด้วยตนเองกันดีกว่าครับ ทำง่ายๆ ได้ดังนี้
วิธีเช็คแบต iPhone (ไอโฟน) เสื่อมหรือไม่ ด้วยตนเองใน iOS 11.3 และใหม่กว่า
สิ่งที่ต้องมี
- ใช้ได้กับ iPhone 6 และใหม่กว่า ที่ติดตั้ง iOS 11.3 หรือใหม่กว่า
วิธีการให้เข้าไปที่
- การตั้งค่า (Settings)> แบตเตอรี่ (Battery)> ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ (Battery Health)
1. สิ่งที่ต้องดูมีอะไรบ้าง?
- ความจุสูงสุด (Maximum Capacity) ซึ่งตัวเลขที่ได้จะหมายถึงความจุของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมานั้นสามารถประจุเต็มที่เข้าไปได้สูงกี่เปอร์เมื่อเทียบกับความจุของแบตเตอรี่เต็มๆ ที่ให้มาที่ 100%
- คำแนะนำที่ใต้เมนู ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด (Peak Performance Capacity) ซึ่งทาง Apple จะอธิบายสถานะของแต่ละเครื่องเอาไว้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพของแบตเตอรี่ (ดูรายละเอียดด้านล่างต่อไป)
2. สถานะของแบตเตอรี่ iPhone ที่ iOS 11.3 จะแจ้งเตือนมีดังนี้
* หมายเหตุ ฟีเจอร์การจัดการประสิทธิภาพการทำงานแบตเตอรี่นั้นจะใช้กับ iPhone 6, 6 Plus, 6s, 6s Plus, SE, 7 และ 7 Plus เท่านั้น (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่)
ถ้าแบตเตอรี่ยังคงสภาพปกติใช้งานได้สมบูรณ์ จะแจ้งว่า
ถ้าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม จะแจ้งสถานะดังนี้ ขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของเครื่องนั้นๆ ทั้งนี้จะบอกผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณีด้วย
- ใช้งานการจัดการประสิทธิภาพการทำงาน – เครื่องนี้ถูกลดความเร็วเพื่อยืดแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น
- การจัดการประสิทธิภาพการทำงานปิดอยู่ – แบตเตอรี่เสื่อมอยู่นะแต่ว่าไม่ถูกลดความเร็ว CPU และแบตจะหมดเร็ว
- ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เสื่อมลง – แบตเตอรี่เสื่อมมากและจะลดลงเร็วมากๆ
- ไม่ทราบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ – แบตเตอรี่มีปัญหาเช็คสถานะไม่ได้แนะนำให้เปลี่ยนใหม่
3. แบตเตอรี่ iPhone เสื่อมแล้วต้องทำยังไง?
ทางเลือกคือเปลี่ยนใหม่ที่ AASP ทั่วประเทศแนะนำให้โทรไปสอบถามแต่ละสาขาก่อน (ชมรายชื่อ AASP ทั่วประเทศ) ทั้งนี้รายละเอียดการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ราคาทางการเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ราคา 1000 บาท ทุก AASP ไม่บวกเพิ่ม วันนี้ – 31 ธ.ค. 61
4. ความจุของแบตเตอรี่ iPhone แต่ละรุ่นมีกี่มิลลิแอมป์ (mAH)
เกร็ดความรู้เสริมกับความจุของแบตเตอรี่ iPhone แต่ละรุ่น
- iPhone 1st – 5.18 Wh (1,400 mAh/3.7V)
- iPhone 3G – 4.25 Wh (1,150 mAh/3.7V)
- iPhone 3GS – 4.51 Wh (1,219 mAh/3.7V)
- iPhone 4 – 5.25 Wh (1,420 mAh/3.7V)
- iPhone 4S – 5.3 Wh (1,430 mAh/3.7V)
- iPhone 5 – 5.45 Wh (1,440 mAh/3.8V)
- iPhone 5C – 5.73 Wh (1,510 mAh/3.8V)
- iPhone 5S – 5.92 Wh (1,560 mAh/3.8V)
- iPhone 6 – 6.91 Wh (1,810 mAh/3.82V)
- iPhone 6 Plus – 11.1 Wh (2,915vmAh/3.82V)
- iPhone 6S – 6.55 Wh (1,715 mAh/3.82V)
- iPhone 6S Plus – 10.45 Wh (2,750 mAh/3.80V)
- iPhone 7 – 7.45 Wh (1,960 mAh/3.80V)
- iPhone 7 Plus – 11.10 Wh (2,900. mAh/3.82V)
- iPhone 8 – 6.97 Wh (1,821 mAh/3.8V)
- iPhone 8 Plus – 10.28 Wh (2,691 mAh/3.80V)
- iPhone X – 10.35 Wh (2,716 mAh/3.81V)
- iPhone XS – 10.13 Wh (2,658 mAh /3.81V)
- iPhone XS Max – 12.08 Wh (3,174 mAh / 3.80V)
- iPhone XR – 11.16 Wh (2,949 mAh/3.79V)
ขอบคุณข้อมูลจาก Apple และ iFixit
เรียบเรียงโดยทีมงาน iMod