Attapon Thaphaengphan
เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับสำหรับก่อนหน้านี้ผมเคยแนะนำเกี่ยวกับตัว DJI Osmo Mobile ให้ชมกันไปแล้วว่าอุปกรณ์นี้ทำหน้าที่อะไรสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นมาชมรีวิวประสบการณ์ใช้งานจริงกับ DJI Osmo Mobile ตัวนี้จะเป็นอย่างไร เชิญชมครับ
DJI Osmo Mobile คืออะไร?
DJI Osmo Mobile ถ้าเรียกตามชื่อที่คุณหูกันก็คงเรียกว่า “ไม้กันสั่น” หรือชื่อทางการคือ Gimbal Stabilizer ที่นำมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน อย่างเช่น iPhone เพื่อช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่ง Smooth มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องถือสมาร์ทโฟนแล้วเดินถ่ายวิดีโอ จะช่วยให้วิดีที่สั่นนั้นเปลี่ยนเป็นนิ่งเสมือนถ่ายจากเครื่องมือโปรเลยทีเดียว
ลองชมคลิแนะนำ DJI Osmo Mobile กันก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิวใช้งานจริงครับ
จุดเด่น DJI Osmo Mobile
- รองรับสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone, Android
- ต้องใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน DJI GO ดาวน์โหลดแอปได้ฟรีที่ App Store และ Google Play Store
- ระบบกันสั่น 3 แกน เพิ่มความนุ่มนวลในการถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟน
- มีแบตเตอรีในตัวพร้อมสายชาร์จที่เชื่อมต่อกับแบตสำรองได้
- รองรับ Face Detect และ Tracking วัตถุได้
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบธรรมดา, Time Lapse และ Motion Time Lapse ได้
- รองรับการถ่ายภาพพาโนรามาแบบ 180 – 330 องศา
- รองรับการเผยแพร่ Live Video ผ่าน YouTube และ Facebook (ในอนาคตอันใกล้ต้องรออัปเกรด Firmware)
- รองรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีและสามารถถ่ายภาพแบบ Long Exposure ได้ (เปิดหน้ากล้องนานๆ ให้แสงเข้าเยอะๆ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพยามค่ำคืนและถ่ายน้ำตก เป็นต้น)
- ใช้งานได้ทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
ข้อมูลทางเทคนิค
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- Osmo Mobile 1 ชุด
- แบตเตอรี่ 1 ก้อน
- สายชาร์จแบตเตอรี่ 1 เส้น
- กระเป๋าสำหรับใส่ Osmo Mobile 1 ใบ
- คู่มือการใช้งาน (ไม่มีภาษาไทย)
นอกจากนี้หากต้องการซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มแนะนำให้ซื้อ แท่นวาง Osmo Mobile มาด้วยครับชิ้นนี้ราคาไม่แพง (ประมาณ 400 บาท) จะช่วยให้ใช้งานร่วมกับ Osmo Mobile ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse, Motion Time Laspe, ถ่ายภาพแบบ Long Exposure ในที่มืด เป็นต้น เดี๋ยวรอชมรีวิวการใช้งานฟีเจอร์เหล่านั้นกันดูครับ
สิ่งที่ต้องทราบก่อนการใช้งาน Osmo Mobile นั่นคือปุ่มและที่ปรับต่างๆ ว่าจุดไหนไว้ใช้ทำอะไร มีตัวอย่างมาให้ชมครับ
เริ่มที่ช่องใส่แบตเตอรี่จะอยู่ที่ด้านล่างสุดของด้ามจับ ให้เลื่อนตัวล็อคมาที่ตำแหน่ง Open แล้วเปิดฝาปิดขึ้นดังภาพ จากนั้นใส่แบตเตอรี่เข้าไป
จุดต่อไปคือที่ปรับการล็อคให้ตัวสมาร์ทโฟนติดกับ Osmo Mobile และกับที่ปรับระดับให้สมาร์ทโฟนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่สมดุล
ชุดต่อไปเป็นปุ่มควบคุมหลักที่จะใช้งานบ่อยที่สุดครับ หลักๆ ที่ใช้งานบ่อยก็จะเป็นปุ่มกดถ่ายภาพนิ่ง, ถ่ายวิดีโอและ Joy Stick ที่จะใช้ปรับมุมก้มเงย(บน-ล่าง) ครับ ส่วนการหมุนซ้าย-ขวานั้นหากถือด้วยมือสามารถหมุนด้วยเราเองจะง่ายกว่า
จุดสุดท้ายคือด้านหลังจะมีช่องเสียบชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Osmo Mobile ซึ่งชาร์จได้จากแบตเตอรี่สำรองทั่วไปได้ และอีกจุดคือปุ่ม Trigger ใช้ทำหน้าที่คือการจัดเซนเตอร์ให้กับกล้องและการสลับกล้องหน้า/หลัง โดยการกดปุ่ม 2 และ 3 ครั้งตามลำดับ
ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานร่วมกับ Osmo Mobile
นำ iPhone ติดตั้งเข้ากับ Osmo Mobile ก่อน จากนั้นลงงแอป DJI GO จาก App Store พร้อมกับเปิดสัญญาณ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อ iPhone กับ Osmo Mobile เข้าด้วยกัน ในส่วนของ Connect your DJI device นั้นให้เลือก OSMO Mobile ดังรูป ก่อนกด Connect Your Device ที่ด้านล่าง
เพียงเท่านี้ก็พร้อมแล้วใช้งานแล้ว
นี่คือหน้าตาของแอป DJI GO หลังจากเชื่อมต่อกับ Osmo Mobile เรียบร้อยแล้วครับ ที่มุมบนซ้ายสุดเลือกได้ว่าจะถ่ายวิดีโอหรือว่าถ่ายภาพนิ่ง
เมื่อทราบทุกอย่างครบแล้วต่อไปเชิญชมรีวิวการใช้งานจริงพร้อมกับภาพและวิดีโอที่ถ่ายด้วย iPhone + Osmo Mobile กันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างครับและสุดท้ายจะขอสรุปให้ฟังว่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นเป็นอย่างไรสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้
ตัวอย่างภาพพาโนรามาที่ถ่ายด้วย Osmo Mobile
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Long Exposure
วิดีโอ Motion Time Lapse
สรุปความคิดเห็นหลังจากใช้งาน
ข้อดี
Osmo Mobile ช่วยให้การถ่ายวิดีโอนั้นสนุกและมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นทำให้วิดีโอที่ได้นั้นนิ่งขึ้น แม้คุณจะเดินหรือวิ่งถ่ายวิดีโออยู่ก็ตาม เปลี่ยนวิดีโอที่สั่นไหวให้กลายเป็นนิ่ง สมูธได้ราวกับมืออาชีพ
ส่งที่ชื่นชอบที่สุดใน Osmo Mobile คือ การถ่ายวิดีโอแบบ Motion Time Laspse ซึ่งการจะทำเช่นนี้ได้นั้นต้องใช้อุปกรณ์ที่ดีและราคาแพงมาช่วย แต่ทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและ Osmo Mobile เท่านั้น
ส่วนที่ชื่นชอบอันดับที่สองคือ การถ่ายภาพพาโนรามาที่มีให้เลือกทั้งหมดถึง 3 โหมด ได้แบบ 180 องศา, 330 องศาและที่ชอบที่สุดคือโหมด Super View (ถ่าย 9 ภาพต่อกันอย่างที่เห็นในคลิป) ซึ่งทำให้ได้ภาพพาโนรามาที่ทั้งดูกว้างเต็มตาไม่ยิ่งขึ้น
อันดับสามคือระบบ Tracking ติดตามวัตถุถือว่าเจ๋งเลย เพียงเราเลือกว่าจะโฟกัสที่วัตถุนี้ จากนั้นกล้องจะจับที่จุดเดือนและตามวัตุนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ให้วัตุหลุดออกจากโฟกัส ยอดเยี่ยมครับ
สุดท้ายคือ การชาร์จแบตได้โดยไม่ต้องถอดแบตออกมาชาร์จเพราะว่า Osmo Mobile มีสาย USB-A to 3.5 mm ที่ใช้สำหรับการชาร์จไฟได้เลย หากว่าใช้งาน Osmo Mobile ไปนานสักระยะแล้วพบว่าแบตเตอรีนั้นใกล้จะหมดเราก็สามารถเสียบชาร์จแบตเตอรี่ได้ทันทีพร้อมกับใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่เสียจังหวะ
ข้อด้อย
คงมองว่าเป็นส่วนของซอฟต์แวร์ที่ยังไม่พัฒนาออกมาได้ไม่ดีเต็มที่ เช่น ถ่ายวิดีโอแบบ 1080P 60fps ไม่ได้ หรือการ Live ไปยัง Facebook ไม่ได้ทั้งๆ ที่ฟีเจอร์นี้เป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานและถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งได้เลย ดังนั้น ทาง DJI ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานกลุ่มนี้ครับ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
ราคาของ Osmo Mobile อยู่ที่ 12,700 บาท มาพร้อมการรับประกันตัวอุปกรณ์นานสูงสุด 18 เดือน* สนใจสามารถซื้อได้ที่ DJI Premium Reseller by 13 Store ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า The Crystal Park (The Crystal Veranda) ชั้น 2 เฟสที่ 3
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
DJI Call 086 331 1313 , 084 543 2456
Line@: @dji13store
Website: www.dji13store.com
